การลงทุนระบบ IT Infrastructure ในแบบ Consumption-based หรือการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงแบบรายเดือนนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้ธุรกิจองค์กรสามารถวางระบบ IT ใหม่เพื่อรองรับ Business Application ภายในของตนเองได้อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่สำหรับธุรกิจองค์กรที่มีแผนการให้บริการ Digital Service ไม่ว่าจะเป็น Web Application, Mobile Application หรือแม้แต่ Data Service แก่ลูกค้าของตนเองนั้น การลงทุนในลักษณะนี้ก็นับว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าพิจารณาควบคู่กับการใช้ Cloud เช่นกัน
HPE GreenLake บริการ Everything-as-a-Service จาก HPE นั้นสามารถช่วยให้ธุรกิจองค์กรให้บริการ Digital Services แก่ลูกค้าของตนเองได้อย่างคุ้มค่าและง่ายดาย ในบทความนี้เราจะมาแนะนำมุมใหม่ในการใช้ HPE GreenLake เพื่อเป็นระบบเบื้องหลังสำหรับบริการ Digital Services ให้กับธุรกิจองค์กรต่างๆ กันครับ
จาก Digital Transformation สู่การให้บริการและสร้างประสบการณ์ด้วย Digital Service

ในช่วงปี 2018 – 2020 นั้นเรามักจะได้ยินเรื่องของการทำ Digital Transformation กันอย่างกว้างขวาง และช่วงนั้นเองก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการวาง Digital Strategy ใหม่ของเหล่าธุรกิจองค์กร และเตรียมวางระบบ IT Infrastructure ที่มีอยู่ให้รองรับสถาปัตยกรรมใหม่ๆ ในอนาคตกันมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในปี 2021 นี้ หลายองค์กรเองนั้นก็ได้มีการทำ Digital Transformation ไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่หลายองค์กรเองก็เริ่มก้าวสู่ขั้นของการเปิดให้บริการ Digital Service แก่ลูกค้าของตนเองทั้งในแบบ B2C และแบบ B2B เพื่อส่งมอบบริการรูปแบบใหม่ๆ หรือนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เหมาะกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า
แนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีกอย่างยาวนาน เพราะหลายธุรกิจนั้นเริ่มเล็งเห็นแล้วว่า Digital Service นั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ อีกทั้งยังทำให้สินค้าหรือบริการของธุรกิจนั้นสามารถถูกเข้าถึงโดยลูกค้าได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Web หรือ Mobile ได้ทันทีที่ลูกค้าต้องการ
Everything-as-a-Service อนาคตของธุรกิจองค์กรและบริการ Digital Service
IDC ระบุว่าภายในปี 2023 นั้น กว่า 60% ของธุรกิจองค์กรจะเริ่มมีการใช้ระบบ IT ในแบบ Consumption Model ที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง ซึ่งแนวโน้มนี้เองก็ถือเป็นเทรนด์ใหญ่ที่เหล่าผู้บริหาร IT ต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสำหรับระบบ IT Infrastructure เพื่อรองรับ Business Application ภายในองค์กร หรือรองรับ Digital Service สำหรับให้บริการแก่ลูกค้าหรือคู่ค้าภายนอกองค์กรก็ตาม
HPE ในฐานะของผู้นำด้านระบบ IT สำหรับธุรกิจองค์กรเองก็มีวิสัยทัศน์ว่าจะนำเสนอบริการ Everything-as-a-Service ให้ได้อย่างครบถ้วนภายในปี 2022 ด้วยการพัฒนา HPE GreenLake ให้ครอบคลุมต่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเปิดให้ Everything-as-a-Service นี้เป็นส่วนหนึ่งของ HPE OEM Solutions ด้วย เพื่อให้ธุรกิจที่มีการนำเสนอโซลูชัน IT หรือมีบริการ Digital Service ของตนเอง สามารถพิจารณาใช้ HPE GreenLake เป็นระบบเบื้องหลังได้ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งใช้งาน การดูแลรักษา การเพิ่มขยาย รวมถึงการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง เพื่อให้สอดคล้องต่อโมเดลธุรกิจในแบบ Subscription อีกทั้งยังประเมินค่าใช้จ่ายเมื่อระบบมีการเติบโตได้ง่าย โดยมีทีมงานมืออาชีพจาก HPE คอยช่วยดูแลแก้ไขปัญหาทั้งในส่วนของ Hardware และ Software ที่เกี่ยวข้องภายในระบบ
แนวทางดังกล่าวนี้ จะทำให้ธุรกิจที่ให้บริการโซลูชัน IT หรือให้บริการ Digital Service สามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชันหรือการให้บริการในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวงกับการดูแลรักษาระบบ IT Infrastructure ด้วยตนเองอีกต่อไป โดย HPE ได้ระบุถึงข้อดีในการใช้ HPE GreenLake เอาไว้ดังนี้
- ลดเวลาในการดำเนินโครงการด้าน Digital ลงถึง 75%
- มี Unplanned Downtime น้อยลงถึง 85%
- ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบ CAPEX ได้ถึง 30-40% เนื่องจากไม่ต้องมีการจัดซื้อระบบขนาดใหญ่แต่แรก
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฝ่าย IT ถึง 40% จากการลดภาระงานด้าน IT Support ในส่วนที่เกี่ยวข้องลงไปทั้งหมด
รองรับทุก IT Infrastructure ได้แบบสำเร็จรูป ด้วย HPE GreenLake

HPE GreenLake นั้นถือเป็นบริการที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของ HPE ทั้งด้วยการที่แนวโน้มของตลาดนั้นจะหันมาสู่การใช้งานระบบแบบ Consumption-based กันมากขึ้น และการที่ HPE เองก็มีการพัฒนาโซลูชันให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ
HPE GreenLake ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองต่อประสบการณ์การใช้งานแบบ Modern Cloud Experience โดยสามารถรองรับการใช้งานได้ทั้ง Edge, Colocation, Data Center และ Cloud เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการเพิ่มขยายหรือย้าย Workload ได้ตามต้องการ โดยจะมีระบบ Self Service เพื่อให้ผู้ใช้งานภายในธุรกิจองค์กรสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง และมีทีม HPE คอยดูแลระบบหลังบ้านเพื่อให้โซลูชัน HPE GreenLake ทำงานได้อย่างถูกต้อง มั่นคงทนทาน และมั่นคงปลอดภัย
ในการเลือกใช้งานนั้น ธุรกิจองค์กรสามารถทำการเลือกว่าอยากจะใช้ระบบเพื่อทำอะไร และมีทรัพยากรมากน้อยเท่าไหร่ได้ด้วยตนเอง จากนั้นทีมงาน HPE จะทำการจัดส่ง Hardware และ Software พร้อมมีทีมติดตั้งมาดำเนินการให้ถึงที่ทันที ทำให้ระบบนั้นพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อระบบติดตั้งพร้อมใช้งานเสร็จแล้ว ผู้ดูแลระบบจะสามารถทำการบริหารจัดการระบบทั้งหมดได้ผ่านทาง HPE GreenLake Central ที่รวบรวมข้อมูลของระบบและบริการต่างๆ ที่ใช้งานทั้งแบบ On-Premises และ Cloud เอาไว้ในหน้าจอเดียว โดยมีการแจ้งข้อมูลสำหรับการวางแผนขยาย Capacity ของระบบ, การติดตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น, การเลือกติดตั้งใช้งานระบบใหม่ๆ เพิ่มเติม ไปจนถึงการตรวจสอบความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนระบบ รวมถึงผู้ดูแลระบบยังสามารถจัดสรรทรัพยากรหรือ Deploy ระบบต่างๆ ภายใต้บริการที่ใช้งานอยู่ได้ด้วยตนเอง
โดยทั่วไประบบของ HPE GreenLake จะมีการออกแบบทรัพยากรให้เผื่อมีการใช้งานเพิ่มขึ้นได้ระดับหนึ่ง และถ้าหากต้องการเพิ่มขยายทรัยพากรของระบบ ก็สามารถแจ้งทีมงาน HPE ให้มาทำการเพิ่มขยายระบบได้ทันที ในขณะที่ค่าใช้จ่ายนั้นก็จะถูกคิดตามการใช้งานจริงเช่นเดิม
ปัจจุบัน HPE GreenLake มีบริการต่างๆ ให้เลือกใช้งานได้ดังนี้
- Container
- Database Platform
- SAP HANA
- Private Cloud
- Big Data
- Networking
- Storage
- Compute
- Machine Learning
- Virtual Machines
- Data Protection
- Virtual Desktop Infrastructure
- Managed Cloud Services
- Governance and Management
- High Performance Compute
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าธุรกิจองค์กรต้องการระบบ IT Infrastructure รูปแบบใดไปใช้งาน HPE GreenLake ก็สามารถตอบโจทย์พร้อมการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงได้อย่างครอบคลุม
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HPE GreenLake ได้ที่ https://www.hpe.com/us/en/greenlake.html
สำหรับผู้ที่สนใจ HPE GreenLake และอยากขอคำปรึกษา, ออกแบบระบบ หรือขอใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงาน Metro Connect ได้ทันทีที่ Email: MKTMCC@metroconnect.co.th หรือโทร 02-0894508 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Metro Connect ได้ทันทีที่ https://www.metroconnect.co.th/