CDIC 2023

[PR] Hotels.com เผยผลสำรวจกิจกรรมของผู้บริโภคในระหว่างท่องเที่ยว พบคนไทยใช้เวลากับโซเชียลมีเดียสูงที่สุดในเอเชีย

กรุงเทพฯ – 14 กรกฎาคม 2559 – Hotels.com™ เว็บไซต์และแอพพลิเคชันจองที่พักออนไลน์ชั้นนำ เผยผลสำรวจ Mobile Travel Tracker* ( โมบายล์ ทราเวล แทร็คเกอร์ ) หรือผลสำรวจกิจกรรมที่ผู้บริโภคนิยมทำในระหว่างท่องเที่ยว สอบถามจากผู้บริโภค 9,200 คนใน 31 ประเทศทั่วโลก พบว่านักท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือมากกว่าการนอนอาบแดดถึง 60% นอกจากนี้ยังนิยมใช้โซเซียลมีเดียเพื่อ “อวด” กิจกรรมในช่วงวันหยุดของตนเอง และใช้มือถือค้นหาร้านอาหาร รวมทั้งโพสต์ภาพและข้อความบนเฟซบุ๊คให้โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมทริปอีกด้วย

hotels-com-appy-holidays

สมาร์ทโฟนมาแรงกว่าการอาบแดด

เมื่อพูดถึงวันหยุด หลายคนอาจนึกถึงการนอนอาบแดดริมสระน้ำหรือเดินสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ แต่จากผลสำรวจ Mobile Travel Tracker พบว่าที่จริงแล้วผู้บริโภคใช้เวลาในระหว่างท่องเที่ยวไปกับโทรศัพท์มือถือมากกว่านอนอาบแดดถึง 60% โดยคนไทยโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนอนอาบแดด แต่ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันไปกับโทรศัพท์มือถือ ยิ่งไปกว่านั้น มีผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกถึง 10% ที่ระบุว่าตนเองใช้เวลาระหว่างท่องเที่ยวในการเล่นสมาร์ทโฟนสูงถึง 7 ชั่วโมงต่อวัน

hotels-com-appy-holidays-infographic-2

ใคร ๆ ก็ชอบอวดบนโซเชียลมีเดียและเฟซบุ๊ค

ผลสำรวจชี้ว่าคนไทยถึง 68% ยอมรับว่าตนเองโพสต์ภาพบนโซเชียลมีเดียเพื่ออวดเพื่อน ๆ ในขณะที่อีก 66% ตั้งใจเช็คอินตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตนไปเที่ยวเพราะอยากให้เพื่อนอิจฉา ทั้งนี้ผู้บริโภคมักเปรียบเทียบเฟซบุ๊คของตนเองกับเพื่อนโดยไม่รู้ตัว โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 18% ตอบว่าตนคอยตามเช็คเฟซบุ๊คของเพื่อน ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าโพสต์ท่องเที่ยวของตนดูดีกว่า ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเรียกว่า “Facebook-Face-Off” หรือการเปรียบเทียบกับเพื่อนบนเฟซบุ๊ค

โซเชียลมีเดียที่คนไทยนิยมใช้ในระหว่างท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน ได้แก่

  1. เฟซบุ๊ค ( Facebook ) 94%
  2. ไลน์ ( LINE ) 82%
  3. ยูทูบ ( YouTube ) 61%
  4. อินสตาแกรม ( Instagram ) 57%
  5. กูเกิลพลัส ( Google+ ) 51%

เฟซบุ๊คครองแชมป์แอพพลิเคชันยอดนิยมในหมู่คนไทย

ข้อมูลจาก Mobile Travel Tracker ชี้ว่าในระหว่างท่องเที่ยว คนไทยใช้เวลาถึง 3.46 ชั่วโมงไปกับโซเชียลมีเดีย และใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือถึง 3.95 ชั่วโมงต่อวัน โดยหากพิจารณาเฉพาะคนในรุ่นมิลเลนเนียล ( ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ) พบว่ามีการใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือนานถึง 4.11 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว โดยเฟซบุ๊คถือเป็นแอพพลิเคชันที่คนไทยมากถึง 95% นิยมใช้มากที่สุดในวันหยุด และเมื่อพิจารณาเฉพาะคนในกลุ่มมิลเลนเนียล พบว่าใช้เฟซบุ๊คระหว่างเดินทางท่องเที่ยวมากถึง 97%

ตามหาร้านอร่อย

สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมค้นหาข้อมูลมากที่สุดก็คือร้านอาหาร ซึ่งสูงถึง 80% หรือกล่าวได้ว่าคนไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องการกิน โดยการค้นหาร้านอาหารสูงกว่ากว่าการค้นหาชายหาดสวย ๆ ถึง 2 เท่า

หัวข้อที่คนไทยนิยมค้นหามากที่สุดในระหว่างท่องเที่ยว ได้แก่

  1. ร้านอาหารและตลาด – 63%
  2. สถานที่ท่องเที่ยว – 59%
  3. แผนที่และวิธีการเดินทาง – 53%
  4. กิจกรรมหรืองานเทศกาลในท้องถิ่น – 44%
  5. ชายหาด – 33%

พฤติกรรมการใช้แอพพลิเคชันในช่วงวันหยุด ( Appy Holidays )

คนไทยกว่า 36% ระบุว่าจะเลือกจองโรงแรมก็ต่อเมื่อโรงแรมมี Wifi ให้ใช้ฟรีเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการเชื่อมต่อกับโชเชียลมีเดียอยู่เสมอในระหว่างท่องเที่ยวพักผ่อน ทั้งการโพสต์ภาพวันหยุดของตนบนอินสตาแกรมหรือแชทบอกเพื่อน ๆ ทางไลน์ว่าเที่ยวสนุกขนาดไหน

ประเภทของแอพพลิเคชันที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดขณะเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่

  1. โซเชียลมีเดีย ( 72% )
  2. การเดินทาง ( 64% )
  3. แผนที่ ( 59% )
  4. ถ่ายภาพ ( 49% )
  5. เกมส์ ( 36% )

phone_2

ไม่เพียงเท่านั้น คนไทย 1 ใน 10 คน ยังระบุว่าแอพพลิเคชันสำหรับหาคู่เป็นแอพพลิเคชันที่ตนนิยมใช้ในระหว่างท่องเที่ยว

โทรศัพท์มือถือเป็นทุกอย่าง ทั้งแผนที่ กุญแจห้องพัก และช่องทางติดต่อโรงแรม

สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบคนท้องถิ่นได้มากขึ้น โดยคนไทยมากถึง 60% ระบุว่าชอบใช้ฟีเจอร์แผนที่ในสมาร์ทโฟนเพื่อค้นหาเส้นทาง ในขณะที่อีก 34% ใช้แอพแปลภาษาเพื่อสื่อสารกับคนท้องถิ่น ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าคนไทยปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ไม่ยาก โดยผู้บริโภคถึง 31% เคยเช็คอินเข้าพักในโรงแรมผ่านโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่อีก 8% เคยใช้มือถือเป็นกุญแจห้องพัก ส่วน 38% ระบุว่าเคยใช้มือถือติดต่อกับโรงแรมในระหว่างเข้าพัก และอีก 15% ใช้มือถือติดต่อแผนกโมบายล์ คอนเซียร์จ ( Mobile Concierge ) ของโรงแรมเพื่อจัดการธุระต่าง ๆ อย่างสะดวก

พฤติกรรมชอบถ่ายรูป

ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ หรือ เชียงใหม่ เราจะพบนักท่องเที่ยวถ่ายรูปโดยใช้ไม้เซลฟี่มากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลสำรวจเผยว่าคนไทยมากถึง 48% นิยมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ในขณะที่อีก 46% ยอมรับว่าไม่เคยพลาดที่จะถ่ายรูปห้องของโรงแรมที่ตนเข้าพัก

แดน เครก ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Hotels.com กล่าวว่า “โทรศัพท์มือถือได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการท่องเที่ยวของผู้บริโภค โดย 68% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยระบุว่าตนใช้สมาร์ทโฟนในการจองห้องพัก จึงไม่น่าแปลกใจที่โทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวในยุคนี้ขาดไม่ได้

Business man texting on his mobile --- Image by © John Smith/Corbis

ผลสำรวจของ Hotels.com ชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในกลุ่มมิลเลนเนียล ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือนานกว่าเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวหรือพักผ่อนนอนอาบแดดเสียอีก โดยส่วนใหญ่มักใช้มือถือค้นหาข้อมูลร้านอาหารและใช้แผนที่เพื่อเดินทาง รวมทั้งเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ ในโลกออนไลน์ จากผลสำรวจ มีคนไทยแค่ 68% ยอมรับว่าตนโพสต์ภาพบนโซเชียลมีเดียเพราะอยากให้เพื่อน ๆ อิจฉา แต่อันที่เป็นจริงแล้ว เรารู้ว่าลึก ๆ คนส่วนใหญ่โพสต์รูปลงอินสตาแกรมก็เพื่ออวดไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวของตนนั่นเอง”

แอพพลิชัน Hotels.com สามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ iOS และ Android รวมทั้ง Amazon Kindle โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดบนสมาร์ทโฟนแล้วกว่า 50 ล้านครั้งทั่วโลก โดยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hotels.com Mobile Travel Tracker สามารถเข้าชมได้ที่ http://mobiletraveltracker.hotels.com/

ข้อมูลการพัฒนาด้านมือถือของ Hotels.com

  • com เพิ่มบริการจาก Uber ( อูเบอร์ ) ลงในแอพพลิเคชันมือถือ โดยรองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android ใน 30 ภาษาทั่วโลก เพื่อช่วยให้ลูกค้าของ Hotels.com สามารถเดินทางท่องเที่ยวและกลับโรงแรมที่พักได้อย่างสะดวกเพียงปลายนิ้วสัมผัส

สติถินักท่องเที่ยวทั่วโลก

  • ผู้บริโภคท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนโดยเฉลี่ยปีละ 4 ครั้ง
  • 42% จองห้องพักผ่านโทรศัพท์มือถือ
  • 47% ระบุว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์อันดับหนึ่งที่ใช้ค้นหาข้อมูลขณะเดินทาง
  • 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยว ( 76% ) ระบุว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินทาง
  • 14% ระบุว่าเคยจองที่พักขณะนั่งรอในห้องรับรองผู้โดยสารของสายการบิน
  • เกือบ 1 ใน 10 ยอมรับว่าจองที่พักในขณะที่ยืนอยู่หน้าโรงแรมนั่นเอง

หมายเหตุ

*สำรวจผู้บริโภค 9,200 คน ใน 31 ประเทศทั่วโลก จัดทำโดย One Poll ในเดือนพฤษภาคม 2559 ภายใต้การดูแลของ Hotels.com

 

เกี่ยวกับ Hotels.com

Hotels.com ดำเนินการโดย Hotels.com, L.P. เป็นเว็บไซต์ชั้นนำด้านการจองที่พักทางออนไลน์ โดยมีที่พักให้เลือกมากมายหลายประเภท ตั้งแต่เครือโรงแรมใหญ่ระดับนานาชาติ รีสอร์ทแบบรวมทุกอย่าง ที่พักยอดนิยมของคนท้องถิ่น ไปจนถึงที่พักแบบเบดแอนด์เบรคฟาสต์ ทั้งยังรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน เพื่อช่วยให้นักเดินทางสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการจองโรงแรมที่สมบูรณ์แบบและตรงใจที่สุด นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและแท็บเลตเพื่อใช้จองห้องพักได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมรับข้อเสนอนาทีสุดท้ายกว่า 20,000 รายการ

Hotels.com, LP © 2016. Hotels.com, Hotels.com Mobile Travel Tracker และโลโก้ Hotels.com เป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือเป็นเครื่องหมายการค้าของ Hotels.com, LP ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ ส่วนเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองเครื่องหมายการค้าดังกล่าว


About TechTalkThai_PR

Check Also

[โปรพิเศษรอบ Early Bird] คอร์สเรียน ‘Incident Response’ จาก Sosecure เรียนออนไลน์ เน้นลงมือจริง 3 วันเต็ม

Incident Response เป็นหนึ่งในหัวข้อหลักของแผนการที่ทุกองค์กรควรมือ คำถามคือทุกวันนี้องค์กรหรือบริษัทที่ท่านมีส่วนรวมมีแผนรับมือเหล่านี้ได้ดีเพียงใด ครอบคลุมความเสี่ยงและเคยผ่านสถานการณ์จริงมาได้ดีแค่ไหน ซึ่งหากปฏิบัติตามแผนได้ดีก็อาจจะช่วยลดผลกระทบของความเสียหายได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้เองจึงอยากขอเชิญชวนผู้สนใจทุกท่านมาเพิ่มพูนความรู้ในคอร์สสุดพิเศษจาก Sosecure โดยเนื้อหาจะกล่าวถึง Framework, Incident Response และ Incident Handling …

[โปรพิเศษรอบ Early Bird] คอร์สเรียน ‘Threat Hunting’ จาก Sosecure เรียนออนไลน์ เน้นลงมือจริง 3 วันเต็ม

การต่อกรกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเท่านั้น และหากทำได้ดีเราก็สามารถลงมือตอบสนองก่อนเกิดเหตุได้เช่นกัน ยิ่งทำได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งทีม Threat Hunting มีบทบาทอย่างมากในการทำงานร่วมกับระบบ SoC ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลภัยคุกคามจากทั่วทุกมุมโลกมาช่วยตรวจจับการโจมตีที่เกิดขึ้นได้  คำถามคือแล้วในงานเหล่านี้ควรมีทักษะเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้าง Sosecure ขอชวนผู้สนใจในสายงานด้าน Cybersecurity ที่ต้องการรู้ลึก ทำได้จริง …