IBM Flashsystem

[Guest Post] ครบเครื่องการจัดการข้อมูลแบบ SaaS ยุคคลาวด์-เนทีฟ ด้วย HPE Alletra 6000 และ HPE Alletra 9000

โดย นายนครินทร์ เทียนประทีป ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยิบอินซอย จำกัด

เกือบสองปีของการติดกับดักยุคโควิด ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นรูปธรรมของหลายองค์กรเพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีของคลาวด์ส่วนตัว คลาวด์สาธารณะ หรือมัลติคลาวด์ในการจัดวางโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมกับคลาวด์-เนทีฟ (Cloud-Native) ในการพัฒนาปรับปรุงแอปพลิเคชันและบริการผ่านออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การไหลเวียนของข้อมูลระดับบิ๊กดาต้า และต้องอาศัยเครื่องมือบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้น เมื่อพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน เราคงไม่ได้มองแคบแค่กล่องเก็บข้อมูลที่มีตัวเลขความจุเทราไบต์สูง ๆ แต่ต้องเพิ่มแนวทางจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ As a Service”  ซึ่งคือ SaaS (Storage as a Service) ที่ช่วยองค์กรกำหนดแนวทางจัดระเบียบและบริการเข้าถึงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ และสามารถยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลองค์กรให้สูงขึ้น

       

ทำไม… ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ SaaS จึงสำคัญ ”มากขึ้น” ต่อองค์กรในยุคคลาวด์-เนทีฟ?

หนึ่ง… องค์กรส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายโซลูชันหรือข้อมูลบางส่วนขึ้นไปอยู่บนคลาวด์ เพื่อสนับสนุนให้เกิดแอปพลิเคชันและบริการใหม่ ๆ บนออนไลน์จนเกิดข้อมูลไหลเวียนมากและเปลี่ยนแปลงเร็ว ยิ่งถ้าองค์กรมีการนำเอาเทคโนโลยีเอดจ์ คอมพิวติ้ง  (Edge Computing) เข้ามาใช้เพื่อลดภาระประมวลผลจากส่วนกลาง ก็ยิ่งเกิดการกระจายของกลุ่มก้อนข้อมูลจาก BYOD ในทุกที่ทุกทิศทาง ซึ่งการจัดการในรูปแบบ SaaS โดยอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีซอฟต์แวร์เข้ามาร่วมจัดการสภาพแวดล้อมใช้งาน (Software Defined Storage) จะช่วยให้องค์กรสามารถจัดสัดส่วนของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อย่างอิสระ ลดปัญหาการจัดเก็บข้อมูลซ้ำซ้อน และปรับเปลี่ยนบริการให้เป็นไปตามการใช้งานจริงได้อย่างรวดเร็วและเป็นอัตโนมัติมากขึ้น

สอง… ความสำคัญของการต้องมีระบบสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการขององค์กร โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับคลาวด์ได้ทุกประเภท และเข้ากันได้กับระบบของผู้ให้บริการคลาวด์แต่ละแห่ง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นกรณีการถ่ายโอนข้อมูลเมื่อต้องการปรับเปลี่ยนบริการ ย้ายระบบงาน หรือเปลี่ยนแปลงผู้ให้บริการคลาวด์ใหม่โดยไม่เกิดภาวะชะงักงัน ปัจจุบัน อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาให้บริหารจัดการการทำงานในลักษณะเดียวกับคลาวด์ ทั้งการจัดเก็บข้อมูลและสำรองข้อมูลด้วยความเร็วที่สูงขึ้น เพิ่มเติมด้วยการนำระบบเอไอเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ในระยะเวลาที่จำกัด และสร้างระบบการให้บริการข้อมูลผ่านคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สาม… การเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยโดยตัวอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเองเมื่อถูกใช้งานบนคลาวด์ ซึ่งภัยคุกคามทางไซเบอร์ในยุคนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การส่งมัลแวร์เข้าโจมตี แต่ยังหมายถึงการใช้งานข้อมูลอย่างผิดวิธีของบุคลากรจากในและนอกองค์กรซึ่งก่อให้เกิดรอยรั่วในระบบ ดังนั้น การส่งข้อมูลขึ้นสู่คลาวด์จำเป็นต้องมีการจัดการด้านนโยบายการควบคุม การจัดเก็บ การเข้าถึงและให้บริการข้อมูล ดังเช่น กำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล การลบข้อมูลเป็นการถาวรเพื่อป้องกันการกู้คืนกลับมาใช้ได้ใหม่ ซึ่งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสมัยใหม่ที่มีระบบเอไอในวิเคราะห์และจัดการความปลอดภัยด้วยตัวเองได้โดยอัตโนมัติ จะช่วยลดภาระงานของบุคลากรด้านไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การแก้ปัญหาที่รวดเร็วกว่าการจัดการโดยคน

สี่… แอปพลิเคชันและบริการรูปแบบใหม่ผ่านคลาวด์-เนทีฟ ทำให้ต้องมีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เก่งขึ้น “ไมโครเซอร์วิส คอนเทนเนอร์ และ DataOps” เป็นคำคุ้นหูสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ ด้วยรูปแบบการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือบริการแบบแยกส่วนคู่ขนานกันไปโดยใช้งานทรัพยากรน้อยลง แต่เกิดผลลัพธ์ในการส่งมอบ แก้ไข และพัฒนาปรับปรุงที่รวดเร็ว ดังนั้น อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจึงต้องเพิ่มคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับนักพัฒนา อาทิ DataOps Manager ที่มาช่วยกำกับการจับคู่ความต้องการข้อมูลให้เหมาะสมกับการใช้งาน (Intent-Based) โดยอัตโนมัติ หรือ Unified API เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและเชื่อมต่อข้อมูลการทำงานได้ง่ายขึ้น เป็นต้น

HPE Alletra 6000

 

ดังนั้น ทิศทางเทคโนโลยีระบบจัดเก็บข้อมูลของบริษัทไอทีชั้นนำ จึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างแนวคิดการจัดการแบบ As a Service มากขึ้น เช่น ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ซึ่งเปิดตัวเป็นผู้นำแพลตฟอร์มการบริการประมวลผลข้อมูลปลายทางจนถึงคลาวด์ (Edge-To-Cloud Platform as a Service) ภายใต้การกำกับด้วยซอฟต์แวร์การจัดการในแบบ Unified Data Platform” โดยมีเทคโนโลยี Unified API มาช่วยบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติ  เทคโนโลยี Unified DataOps สำหรับใช้กำกับการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์-เนทีฟ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล รวมทั้งเพิ่มเครื่องมือเอไอในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาแทนคนได้ในเวลาที่จำกัด พร้อมกับการพัฒนาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสองรุ่น ได้แก่ HPE Alletra 6000 และ HPE Alletra 9000 ซึ่งใช้แนวคิด Unified DataOps ในการบริหารจัดการข้อมูลแทนที่การจัดการสตอเรจ โดยนำ 3 สิ่ง คือ Data, Cloud automation และ  AI Analytic ในการทำงานกับคลาวด์-เนทีฟ เพื่อให้เกิดการใช้งานในรูปแบบบริการตนเองได้โดยอัตโนมัติเพียงแค่ระบุความต้องการพื้นฐานเข้าไปในระบบ ซึ่งทำให้ Data Engineer หรือผู้จัดการข้อมูลสามารถจัดการข้อมูลเร็วขึ้น นักวิเคราะห์ Data Science ก็สามารถวิเคราะห้ข้อมูลเขิงลึกได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อองค์กรในการพัฒนาบริการใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันทางธุรกิจได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต     

                                                                

About Maylada

Check Also

HPE เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์ส่วนตัวที่ล้ำสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมพลิกโฉมการยกระดับระบบไอทีแบบไฮบริดขององค์กรธุรกิจที่ช่วยลด TCO ได้มาถึง 2.5 เท่า [PR]

HPE ได้มีการขยายบริการเพิ่มเติมในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์ส่วนตัวเพื่อครอบคลุมการผสานรวมซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่มีความยืดหยุ่นสำหรับเวิร์กโหลดแบบเวอร์ชวลไลซ์ และระบบการจัดการคลาวด์แบบรวมศูนย์ เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วน (disaggregated infrastructure) ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้

Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ AI Write ให้ Notepad พร้อมอัปเดต Paint และ Snipping Tool สำหรับ Windows Insiders

Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่สำหรับแอปพลิเคชันใน Windows 11 โดยเพิ่มความสามารถ AI เขียนข้อความใน Notepad และฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Paint และ Snipping Tool …