Facebook ออกแผนการ 9 ข้อเพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูล

Facebook ได้ออกอัปเดตแผนการจำกัดการเข้าถึงข้อมูล 9 ข้อที่ทางบริษัทนั้นกำลังทำอยู่มาให้ผู้ใช้งานได้ทราบถึงความคืบหน้าว่าบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ยกเลิกบริการค้นหาบุคคลแบบขั้นสูง หรือจะเริ่มแสดงว่าแอปพลิเคชันไหนที่ผู้ใช้ๆ อยู่และมีการแชร์ข้อมูลอะไรกับแอปนั้นบ้างด้านบนสุดในหน้า News Feed เป็นต้น

Credit: Facebook

แนวทางทั้ง 9 ข้อมีดังนี้

1.Event API

  • อดีต – ผู้ใช้สามารถอนุญาตให้แอปพลิเคชั้นเข้าถึงข้อมูล Event ที่เราจัดหรือที่จะเข้าร่วมได้ นั่นรวมถึง Event ส่วนตัวด้วย ซึ่ง Event เหล่านั้นประกอบด้วยข้อมูลผู้เข้าร่วมคนอื่น หรือการโพสต์ใน Event นั้นด้วย
  • ปัจจุบัน – แอปพลิเคชันที่ใช้ API นี้จะไม่สามารถเข้าถึงรายชื่อ Guest และการโพสต์ใน Event ได้
  • อนาคต – แอปพลิเคชันเฉพาะที่ Facebook อนุมัติว่าผ่านข้อกำหนดแล้วเท่านั้นถึงจะใช้ API ได้

2.Group API

  • อดีต – แอปพลิเคชันสามารถขออนุญาตผู้ดูแลกลุ่มหรือสมาชิกของกลุ่มเพื่อเข้าถึงเนื้อหาภายในกลุ่มปิดนั้นและสิทธิ์ระดับผู้ดูแลสำหรับกลุ่มลับ แอปเหล่านี้ได้ช่วยผู้ดูแลเพื่อโพสต์หรือตอบเนื้อหาภายในกลุ่มได้ง่ายขึ้น
  • การปรับปรุง – แอปพลิเคชัน Third-party ที่ใช้ API จะต้องได้รับการอนุมัติจาก Facebook และผู้ดูแลกลุ่มก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มจริง นอกจากนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงรายชื่อคนในกลุ่ม ซึ่งตอนนี้บริษัทได้กำลังลบข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ รูป อะไรที่ผูกกับโพสต์ หรือคอมเม้นต์ที่เคยอนุญาตให้แอปเหล่านั้น

3.Page API

  • ปัจจุบัน – แอปพลิเคชันสามารถใช้ API เพื่ออ่านข้อมูลโพสต์หรือคอมเม้นต์ในเพจได้ เพื่อช่วยให้เจ้าของเพจสามารถตั้งคาบการโพสต์และตอบคอมเม้นต์หรือข้อความได้ แต่มันก็อาจทำให้แอปเหล่านี้ได้ข้อมูลเกินจำเป็น
  • การปรับปรุง – ทุกฟีเจอร์ในการเข้าถึง Page API จะต้องได้รับการอนุมัติโดย Facebook เท่านั้น

4.Facebook Login

  • บริษัทจะเริ่มตรวจสอบแอปพลิเคชันที่ร้องขอเข้าถึงข้อมูล เช่น การเช็คอิน การกดไลค์ รูป โพสต์ วีดีโอ Event และกลุ่ม อย่างรัดกุมมากกว่าเดิมแม้จะมีการรีวิวมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วก็ตาม
  • Facebook จะไม่อนุญาตแอปให้ร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวแล้ว เช่น ศาสนา การเมือง สถานะความสัมพันธ์ รายชื่อเพื่อน การศึกษา ประวัติการทำงาน เป็นต้น โดยภายในสัปดาห์หน้าจะลบความสามารถการเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้แชร์ของนักพัฒนาออก โดยหากฝ่าฝืนจะไม่สามารถใช้งานแอปได้ 3 เดือน

5.Instagram platform API

เพื่อความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบริษัทได้ออก API ของ IG เพื่อการนี้ สามารถติดตามเพิ่มได้ที่นี่

6.Search และ การกู้คืนบัญชี

  • ตอนนี้บริษัทได้หยุดฟีเจอร์การค้นหาบุคคลแบบขั้นสูงไปแล้ว เช่น ใช้แค่เบอร์มือถือ หรือ อีเมลเพื่อค้นหาบุคคลได้ เป็นต้น เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด (อ่านข่าวจาก Techtalkthai)
  • เปลี่ยนแปลงการกู้คืนบัญชีเพื่อป้องกันความเสี่ยง

7.ประวัติการโทรและข้อความ

  • ปัจจุบัน – Facebook กล่าวว่าการเก็บประวัติการโทรและข้อความใช้เป็นส่วนหนึ่งความสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้ใช้งาน Messeger หรือ Facebook บนแอนดรอยด์เท่านั้น เช่น จัดอันดับผู้ติดต่อสูงสุดไว้บนสุด นอกจากนี้ได้ยืนยันถึงตรวจสอบแล้วว่าไม่มีการเก็บเนื้อหาภายในข้อความและมีการลบล็อกที่เกิน 1 ปี (อ่านเพิ่มเติม Techtalkthai กรณีการค้นพบการเก็บ Metadata การโทรและข้อความของ Facebook)
  • อนาคต – ฝั่งผู้ใช้จะส่งข้อมูลแค่จำเป็นจริงๆ สำหรับฟีเจอร์นี้ โดยจะไม่มีข้อมูลอย่างเวลาการโทรติดไปด้วย

8.Data Provider และ Partner Categories

บริษัทได้ประกาศแผนการปิด Partner Categories หรือผลิตภัณฑ์ที่ให้ Third-party สามารถเสนอไปยังเป้าหมายได้โดยตรงบน Facebook

9.การควบคุมแอปพลิเคชัน

วันที่ 9 เมษายนนี้ Facebook จะทำการแสดงแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้ๆ อยู่ ณ บนสุดของ News Feed และข้อมูลที่แชร์อยู่กับแอปพลิเคชันเหล่านั้น พร้อมกันนี้ผู้ใช้สามารถลบแอปที่ไม่ต้องการออกได้ด้วย

ที่มา : https://newsroom.fb.com/news/2018/04/restricting-data-access/

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

OpenAI เปิดตัวโมเดล Audio รุ่นใหม่สำหรับพัฒนา Voice Agent อัจฉริยะ

OpenAI ประกาศเปิดตัวโมเดล Audio รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้ง Speech-to-Text และ Text-to-Speech พร้อมให้นักพัฒนาทั่วโลกใช้งานผ่าน API เพื่อสร้าง Voice Agent ที่มีความสามารถในการโต้ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ

NB-IoT คืออะไร?

NB-IoT คงเป็นศัพท์ที่หลายท่านได้เห็นในทางเลือกของการเชื่อมต่อระยะไกลของอุปกรณ์ IoT และเชื่อว่าหลายคนก็ยังไม่เข้าใจเช่นกันว่า เหตุใดการโปรโมตบริการ NB-IoT จึงผ่านมาทางผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ ในบทความนี้เราจะมาอธิบายความหมายของ Narrowband IoT ให้รู้จักกันชัดๆ