สมัยก่อน Wi-Fi ยังช้ากว่าระบบ Wired มากนัก ผู้ใช้จำเป็นต้องเลือกระหว่างการใช้งานอันแสนรวดเร็วของระบบ Wired ของความสะดวกในการใช้งานของ Wi-Fi การเชื่อมต่อกับระบบ Wired ช่วยให้ได้ความเร็วที่สูง ไม่ว่าจะเปิดเว็บ ดูวิดีโอออนไลน์ หรือส่งไฟล์งานขนาดใหญ่ กลับกัน การเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ช่วยให้ผู้ใช้มีความคล่องตัว สามารถใช้งานที่จุดใดของออฟฟิสก็ได้ แต่การดาวน์โหลดหรืออัพโหลดข้อมูลขนาดใหญ่กลับทำได้ค่อนข้างช้า ผู้ใช้บางทีจึงต้องสลับใช้ระหว่าง Wired และ Wi-Fi แต่ปัจจุบันนี้ การมาถึงของมาตรฐาน 802.11ac Wave 2 กลับทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม
ด้วยความเร็วสูงสุดถึงเกือบ 7 Gbps (ปัจจุบันรองรับความเร็วสูงสุดที่ 2.165 Gbps บนคลื่นความถี่ 5 GHz) ซึ่งทะลุการเชื่อมต่อของสาย LAN ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆที่มีความเร็วส่วนใหญ่อยู่ที่ 1 Gbps ไปไกล รวมทั้งอุปกรณ์เคลื่อนที่ในปัจจุบันที่เน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทำให้ Wi-Fi กลายเป็นการเชื่อมต่อหลักที่สำคัญที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความรวดเร็วในการใช้งาน นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์ MU-MIMO ของ 802.11ac Wave 2 ก็ช่วยให้การเกิดการพัฒนาแอพพลิเคชันสำหรับตอบโจทย์การทำงานรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลและรูปภาพไปยังแท็บเล็ตของแพทย์เพื่อช่วยอธิบายและเก็บข้อมูลผู้ป่วย หรือการทำ Video Streaming ไปยังอุปกรณ์เคลื่อนที่ในระบบการศึกษา เป็นต้น
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ IEEE 802.11ac Wave 2

อย่างไรก็ตาม Wi-Fi ยังคงต้องเชื่อมต่อกับระบบ Wired ซึ่งถือว่าเป็นระบบพื้นฐานของเครือข่าย ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ พอร์ทสาย LAN ส่วนใหญ่รองรับความเร็วสูงสุดที่ 1 Gbps และสาย LAN CAT 5e ที่นิยมใช้ในปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาคอขวดที่ทั้งสาย LAN และ Switch ที่ไม่สามารถตามความเร็วของระบบ Wi-Fi ได้ทัน วิธีแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน คือ การเชื่อมต่อ AP และ Switch ด้วยสาย LAN 2 เส้น ก็จะช่วยให้ได้ความเร็วสูงสุดที่ 2 Gbps แต่วิธีนี้ก็สิ้นเปลืองสาย LAN และจำนวนพอร์ทที่ใช้งานจนเกินไป นอกจากนี้ AP มาตรฐาน 802.11ac Wave 2 ส่วนใหญ่ต้องใช้การจ่ายไฟแบบ PoE+ (802.3at 30W) เพื่อให้ได้กำลังสัญญาณที่แรงขึ้นกว่าสมัยก่อน แต่ Switch PoE ส่วนใหญ่ที่ใช้ในปัจจุบันรองรับเพียง PoE (802.3af 15W) เท่านั้น
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Cisco ได้โพสต์บทความบนบล็อก เปิดตัวเทคโนโลยี “Multigigabit” บน Cisco Catalyst Switch เพื่อตอบโจทย์การทำงานร่วมกับมาตรฐาน 802.11ac Wave 2 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้
- ลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อกับ 802.11ac Wave 2: รองรับมาตรฐานของ NBASE-T ที่ช่วยให้สามารถรับส่งข้อมูลผ่านสาย CAT 5e และ CAT 6 ได้ด้วยความเร็ว 1, 2.5, 5 และ 10 Gbps โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายเคเบิลใหม่ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินสายได้สูงถึง $200 – $1000 ต่อจุด
- รองรับการจ่ายไฟหลายมาตรฐาน: เช่น PoE, PoE+ และ Cisco UPOE (60W) สำหรับการเชื่อมต่อกับ AP โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสายเคเบิลใหม่เช่นดัน
- รองรับการทำงานร่วมกับ Catalyst รุ่นเก่า: Catalyst 4500E, 3850 และ 3560-CX ทั้ง 3 รุ่นรองรับเทคโนโลยี Multigigabit ซึ่งสามารทำ Stack กับรุ่นที่ใช้สาย Copper และ Fiber ความเร็ว 1G ทั่วไปได้ทันที รวมถึง Multigigabit Line Card สำหรับ Catalyst 4500E ก็สามารถทำงานร่วมกับ Supervisor Engines 8-E, 7-E และ 7-LE ได้ด้วยเช่นกัน
อาจจะถึงเวลาที่พวกเราต้องเตรียมปรับระบบเน็ตเวิร์คและระบบ Wi-Fi ครั้งใหญ่แล้วก็เป็นได้
รายละเอียดเพิ่มเติม: http://blogs.cisco.com/enterprise/introducing-cisco-catalyst-multigigabit-technology-to-future-proof-your-network-for-802-11ac-wave-2