Blue Coat Advanced Secure Gateway ปกป้องการใช้อินเทอร์เน็ตจากภัยคุกคามระดับสูง

blue_coat_logo

Blue Coat ผู้ให้บริการโซลูชัน Web & Cloud Security ชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Blue Coat Advanced Secure Gateway (ASG) สำหรับปกป้องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของพนักงานในองค์กรจากภัยคุกคามระดับสูงทั้ง Advanced Threats และ Zero-day Attacks (เมื่อใช้งานร่วมกับ Malware Analysis Appliance) ได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเร่งความเร็วในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้ถึงขีดสุด

อันตรายของการใช้อินเทอร์เน็ตขององค์กรมีหลากหลายรูปแบบและทวีความรุนแรงมากขึ้นจากในอดีต Proxy ในปัจจุบันนอกจากจะสามารถทำ Content Caching และ Traffic Optimization ได้แล้ว ควรสามารถปกป้องพนักงานในองค์กรจากภัยคุกคามได้อีกด้วย โดยควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • ให้บริการระบบความมั่นคงปลอดภัย โดยสกัดการเชื่อมต่อและตรวจสอบทราฟฟิคอย่างละเอียดก่อนส่งต่อให้ผู้ใช้ในองค์กร
  • สามารถตรวจจับภัยคุกคามระดับสูง เช่น Advanced Threats, Evasive Malware และ Zero-day Attacks ได้
  • วิเคราะห์ไฟล์ที่ดาวน์โหลดและอัพโหลดเพื่อตรวจจับมัลแวร์และป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหลสู่ภายนอก
  • ตรวจสอบทราฟฟิคที่เข้ารหัสแบบ SSL ได้

blue_coat_asg_7

Blue Coat ASG รวมคุณสมบัติ Proxy เข้าด้วยกันกับ Advanced Threat Protection

Advanced Secure Gateway (ASG) เป็นการรวม Content Analysis System (CAS) ระบบตรวจจับและป้องกันมัลแวร์ของ Blue Coat เข้าด้วยกันกับ ProxySG ระบบ Proxy และ Secure Web Gateway ไว้ภายในอุปกรณ์เดียวกัน ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้ง บริหารจัดการ และบำรุงรักษา รวมทั้งเสริมกำลังด้วยระบบ Static Code Analysis สำหรับตรวจจับ Zero-day Attacks และ Advanced Theats แบบเรียลไทม์

Blue Coat ASG ยังคงให้บริการทุกฟังก์ชันการทำงานของ ProxySG และ CAS อย่างครบถ้วน ยกเว้นฟังก์ชัน MACH5 สามารถดูตารางเปรียบเทียบการทำงานของ ProxySG และ ASG ได้ด้านล่าง

blue_coat_asg_2

ป้องกัน Known Threats และ Unknown Threats ได้ภายในเครื่องเดียว

คุณสมบัติเด่นของ Blue Coat ASG (และ CAS) ที่เพิ่มเข้ามา คือ นอกจากจะสามารถตรวจจับ Known Threats โดยใช้ Antivirus Engine ได้สูงสุดถึง 2 ยี่ห้อแล้ว ยังมีระบบ Static Code Analysis สำหรับตรวจจับ Unknown Threats ได้แบบเรียลไทม์โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ภายนอกเพิ่มเติม

ขั้นตอนการตรวจจับมัลแวร์ของ Blue Coat จะเป็นแบบ Multi-layered Deep Content Inspection & Analysis ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ชั้นต่อเนื่องกัน ดังนี้

  1. URL Reputation: คัดกรองเฉพาะ URL ที่ได้รับอนุญาต ป้องกัน Phishing Sites และ Malware Sites ก่อนที่จะเชื่อมต่อกับระบบขององค์กร
  2. Hash Reputation: เทคนิคการทำ Whitelisting โดยอนุญาตให้ไฟล์ที่ไม่มีมัลแวร์หรือพาหะเท่านั้นที่ข้ามผ่าน Gateway เข้ามาได้
  3. Malware Engines: ระบบป้องกันมัลแวร์แบบ Signature-based รองรับการเลือกใช้ AV Engine ของ McAfee, Sophos และ Kaspersky Lab
  4. Static Code Analysis: วิเคราะห์ไฟล์ด้วยเทคนิคทางคณิตศาสตร์เพื่อค้นหา Advanced Threats หรือ Zero-day Attack แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้อง Execute ไฟล์นั้นๆ
  5. Behavioral Detonation: เทคนิคการตรวจจับ Advanced Threats และ Zero-day Malware ระดับสูง สำหรับวิเคราะห์ไฟล์อันตรายที่อาจหลุดรอดมาจากขั้นตอน Static Code Analysis โดยอาศัยกระบวนการ Advanced Sandboxing เทคนิคนี้ต้องอาศัยระบบ Malware Analysis Appliance (MAA)

blue_coat_asg_3

ทราฟฟิคจะถูกตรวจสอบและคัดกรองตามขั้นตอนที่ 1 – 5 ส่งผลให้เมื่อถึงขั้นตอนที่ 5 ปริมาณทราฟฟิคที่คาดว่าจะเป็นทราฟฟิคดีเหลืออยู่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น โซลูชัน Sandboxing หรือ Malware Analysis Appliance (MAA) จึงไม่จำเป็นต้อง Sizing ให้มีขนาดใหญ่มากนัก เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายขององค์กรลงเมื่อเทียบกับโซลูชันป้องกัน Advanced Threat Protection ยี่ห้ออื่น

สรุปคุณสมบัติเด่นของ Blue Coat ASG

นอกจากคุณสมบัติเด่นทางด้านการรับมือกับ Advanced Threats และ Zero-day Attacks แบบเรียลไทม์แล้ว Blue Coat ASG ยังมีคุณสมบัติอื่นเพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยและความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตขององค์กร ดังนี้

  • ระบบพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้อันทรงพลัง
  • Web Filtering ระดับสูงแบบเรียลไทม์ ที่มาพร้อมกับระบบ Risk Scores
  • Multi-layered Deep Content Inspection & Analysis สำหรับตรวจจับภัยคุกคามและการรั่วไหลของข้อมูลสู่ภายนอก
  • ตรวจจับและวิเคราะห์ทราฟฟิคที่ถูกเข้ารหัส SSL
  • Content Caching และ Traffic Optimization สำหรับเร่งความเร็วการใช้อินเทอร์เน็ต
  • การบริหารจัดการ Bandwidth ให้สอดคล้องกับนโยบายการใช้แอพพลิเคชัน
  • Streaming Media Splitting & Caching
  • ปรับ License ตามจำนวนผู้ใช้ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในราคาที่ถูกลง

blue_coat_asg_3-3

Blue Coat ASG เปิดตัวมาทั้งหมด 3 รุ่น คือ ASG-S200, ASG-S400 และ ASG-S500 รองรับ Throughput ตั้งแต่ 50 Mbps – 1 Gbps สำหรับใช้งานตั้งแต่ระดับสำนักงานสาขา ไปจนถึง Data Center ระดับภูมิภาค นอกจากนี้ยังคิดค่าบริการ License ตามจำนวนผู้ใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการทำ Sizing อีกด้วย ช่วยให้องค์กรที่มีผู้ใช้งานจำนวนไม่มาก แต่ใช้งานเยอะ เสียค่าบริการ License ในราคาที่สมเหตุผลมากกว่าเดิม

คุณสมบัติเฉพาะของ Blue Coat ASG

คลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่
คลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.bluecoat.com/documents/download/389dd6de-b1df-4086-8065-ca7788d51f3b

สนใจโซลูชัน ASG ติดต่อ Blue Coat ประเทศไทย

Blue Coat ผู้ให้บริการโซลูชัน Web & Cloud Security ชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัว Blue Coat Advanced Secure Gateway (ASG) ในไทยไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อเพื่อขอ POC ได้ที่ คุณวิไลพร เตชวิสุทธิคุณ Channel Account Manager ของ Blue Coat ประจำประเทศไทย อีเมล wilaiporn.t@bluecoat.com

blue_coat_casb_2-3

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

จีเอเบิล ชี้ 3 Mega Trend ไอที เปลี่ยนโฉมธุรกิจองค์กรไทย พร้อมเป็น Tech Enabler ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต [PR]

ในยุคที่ธุรกิจองค์กรแข่งขันกันด้วยความเร็ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และผลกำไรที่มากขึ้น การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจรวมถึงผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจองค์กรต่างๆ กำลังมองหา เพราะการดำเนินธุรกิจองค์กรในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง Competitive Advantage เพื่อเป็นฐานในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่าอาวุธที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการพัฒนาคนในองค์กรให้เรียนรู้ทักษะด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ตรงกับกระแสทิศทางเทรนด์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตอบโจทย์ในการสร้างผลกำไรของแต่ละธุรกิจองค์กรในทุกภาคอุตสาหกรรมก็เป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน

อาลีบาบา คลาวด์ เปิด ดาต้าเซ็นเตอร์ แห่งที่สองในประเทศไทยมาพร้อมกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อรองรับ Generative AI และโซลูชันเฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม [PR]

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในประเทศไทย มุ่งเพิ่มสมรรถนะในการตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะเพื่อรองรับแอปพลิเคชัน generative AI และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลและการพัฒนาเทคโนโลยีที่นำสู่ความยั่งยืน