จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับงาน Blendata and Opsta Redefine the Future – Pioneering the New Era of AI Transformation ที่จัดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา งานนี้ทั้งสองบริษัทได้นำเสนอวิสัยทัศน์อันทะเยอทะยานที่ต้องการก้าวเข้าสู่เวทีโลก และต้องการสร้างผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่จะให้บริการองค์กรขับเคลื่อนได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่เกิดขึ้นในงานนี้ คือการประกาศของ Blendata ที่ได้ลงทุนใน Opsta อย่างเป็นทางการ เพื่อที่จะร่วมกันก้าวสู่ยุค AI Transformation ที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการผนึกเทคโนโลยีและการพัฒนาสำหรับบริการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บรรยากาศงานเป็นอย่างไร ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่าง Blendata และ Opsta นั้นจะมีอะไรออกมาใหม่ในอนาคต ติดตามได้ในบทความนี้
Blendata ผู้ให้บริการ “Blendata Enterprise” จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้แบบ All-In-One
จากจุดเริ่มต้นของทีมงานในแผนกการจัดการข้อมูลภายในบริษัท G-Able ด้วยแนวคิดที่อยากจะสร้างแพลตฟอร์มจัดการข้อมูลแบบ All-In-One จึงได้เกิดเป็น “Blendata” ขึ้นมาในปี 2015 และเมื่อพัฒนาแพลตฟอร์มจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จ จึง Spin Off ออกมาเป็นบริษัทสตาร์ตอัปสัญชาติไทยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับจัดการ Big Data อย่างเป็นทางการในปี 2021 นำทัพโดยคุณณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ในฐานะ CEO และ Co-Founder จนถึงปัจจุบันนี้
ด้วยปัญหาความท้าทาย 3 อย่างที่ Blendata เห็นว่าองค์กรมากมายต้องพบเจอเมื่อต้องการสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องมือที่มีอยู่ในตลาดหลากหลายรูปแบบที่มีความซับซ้อนแตกต่างกันไป จึงทำให้องค์กรจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเพื่อให้สามารถใช้งานเครื่องมือเหล่านั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งทั้งหมดนั้นจะส่งผลต่อเรื่องเวลาและเม็ดเงินที่องค์กรต้องมีจำนวนมากพอ ถึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในองค์กรได้สำเร็จ
นี่จึงเป็นที่มาของ “Blendata Enterprise” ผลิตภัณฑ์ Data Lakehouse ที่มีขีดความสามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่แบบครบวงจรที่ช่วยแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ข้อได้แบบครบครัน ตั้งแต่การจัดการข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำไปจัดเก็บ ประมวลผล (ETL) ไปจนถึงการวิเคราะห์ และต่อยอดด้วย AI/ML ค้นหาข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมการทำ Data Visualization สร้างเป็น Dashboard นำเสนอได้ในทันที ซึ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นได้ผ่าน Blendata Enterprise ที่เดียวทั้งหมด โดยปัจจุบัน Blendata เผยว่ามีข้อมูลไหลผ่านแพลตฟอร์มมากถึงระดับ “หลายล้านบรรทัดต่อวินาที” เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
แม้ว่าปัจจุบัน Blendata มีอายุราว 8 ปีเท่านั้น แต่ Blendata ถือได้ว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาก ๆ และได้ให้บริการลูกค้ามากมายถึง 8 กลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมกับมีกรณีศึกษาและใช้งานจริงมากกว่า 50 Use Case ทั้งภายในและต่างประเทศ และในช่วงปีที่ผ่านมา Blendata ยังได้รับรางวัล TICTA 2023 และรางวัลระดับนานาชาติ APICTA 2023 อันเป็นรางวัลที่การันตีศักยภาพที่จะปูทางการก้าวไปสู่เวทีโลก
เป้าหมายใหม่ในยุค “AI Transformation”
ภายในงาน คุณณัฐนภัสได้ฉายภาพให้เห็นและชวนคิดไปด้วยกันว่า หลังจากโลกที่ได้ผ่านยุค World Wide Web, ยุคสมาร์ตโฟน และปัจจุบันที่กำลังอยู่ในยุคดิจิทัลนั้น “อะไรที่จะเป็น The Next Big Thing อันถัดไป ?” และสิ่งที่ทุกคนน่าจะเห็นตรงกันทั้งโลกนั่นคือ “ยุค AI Transformation”
Blendata ในฐานะที่ปรึกษาและพัฒนา AI ให้กับองค์กรแบบครบวงจรนั้น ได้พบเจอกับปัญหาความท้าทายของหลายองค์กรซึ่งคล้ายกับปัญหาที่พบในเรื่องข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ใน AI ที่ยังไม่เพียงพอ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนอย่างไรดี เทคโนโลยีก็มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไอที (IT Infrastructure) ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ นั้นควรจะเป็นอย่างไรสำหรับการพัฒนา AI ขององค์กรตัวเอง จึงทำให้การปรับใช้ AI ในองค์กรมักมีความติดขัดและมีราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ด้วยเหตุผลนี้เอง Blendata จึงมองว่า “Opsta” คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ซึ่งแม้ว่า Blendata จะเพิ่งรู้จัก Opsta เมื่อช่วงปลายปี 2022 แต่ด้วยแนวคิดและความสามารถของ Opsta จึงทำให้คุณณัฐนภัสมองว่า Opsta คือองค์กรที่จะสามารถช่วยเสริมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้เป็นอย่างดี และจะช่วยผลักดันเป้าหมายในการสนับสนุนองค์กรให้สามารถทำ AI Transformation ได้สำเร็จรวดเร็วยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ได้อย่างแน่นอน
Opsta ผู้เชี่ยวชาญโครงสร้างพื้นฐานไอทีตามแนวคิด DevSecOps
Opsta คือบริษัทผู้เชี่ยวชาญในด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีตามแนวคิด DevSecOps และ Cloud ที่นำทัพโดยคุณจิรายุส นิ่มแสง ในฐานะ CEO และ Founder ซึ่ง Opsta มีความเชื่อมาตลอดตั้งแต่วันที่เริ่มต้นบริษัทจนมาถึงวันนี้เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว ก็ยังคงเชื่อว่า “โครงสร้างพื้นฐานไอทีต้องง่าย”
ด้วยความเชี่ยวชาญของ Opsta จึงทำให้บริษัทให้บริการเป็นโครงสร้างพื้นฐานไอทีขององค์กรลูกค้ามาแล้วมากมาย หากแต่สิ่งที่ Opsta ค้นพบคือ องค์กรไทยส่วนใหญ่มักติดขัดในการปรับใช้แนวคิด DevSecOps ภายในองค์กรด้วยสาเหตุหลักคือ “การขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญ” ที่เข้าใจและมีความสามารถในการปรับใช้แนวคิดดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้ส่งผลให้หลาย ๆ องค์กรไทยที่มีศักยภาพนั้นต้องเสียความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งแตกต่างกับองค์กรในต่างประเทศที่มีการปรับใช้แนวคิด DevSecOps ในวงกว้างจนกลายเป็นมาตรฐานทั่วไปเป็นที่เรียบร้อย และเริ่มวิวัฒนาการกลายมาเป็นแนวคิด “Platform Engineering” ซึ่งปรากฏเป็นเทรนด์ทั้งใน Gartner และ InfoQ แล้วด้วย
ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ จึงทำให้ Opsta ต่อยอดแนวคิด DevSecOps และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการทำงานในลักษณะ Platform Engineering โดยเฉพาะ เพื่อทำให้การจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีภายในองค์กรเป็นเรื่องที่ง่ายกับทุก ๆ ตำแหน่งงานที่ต้องร่วมกันพัฒนาระบบหรือแอปพลิเคชันขององค์กร ซึ่งหลังจากบริษัทใช้เวลากว่า 3 ปีผ่านความตั้งใจที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้ง่ายขึ้น จึงทำให้กำเนิดเป็น “Opstella” ที่มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานนี้
เปิดตัว “Opstella” ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
ในที่สุด Opsta ก็ได้เปิดตัว “Opstella” ผลิตภัณฑ์ Platform-Engineer-as-a-Service (PEaaS) หลังจากซุ่มพัฒนามากว่า 3 ปี ซึ่ง Opstella เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่บริษัทเคลมว่ามีไม่กี่แห่งบนโลกที่มีโซลูชันลักษณะแบบนี้อยู่ และจะทำให้การจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีขององค์กรที่ใช้งานนั้นจะไม่มีคำว่ายากอีกต่อไปแล้ว
เพราะ Opstella จะเป็นแพลตฟอร์มรวมศูนย์ที่ช่วยทำให้งานเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีตามแนวคิด DevSecOps หรือ Platform Engineering นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายทั้งหมด และส่งผลให้ภาระงานของทีมงานทุกตำแหน่งน้อยลงไป ไม่ว่าจะเป็น Developer, ทีม DevOps, ทีม DevSecOps หรือว่า System Administrator ที่จะสามารถใช้งาน Opstella เป็นเครื่องมือ “Internal Developer Portal” ที่พร้อมสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบครบวงจรได้ในทุกขั้นตอนการพัฒนาระบบหรือแอปพลิเคชันใด ๆ
ด้วยฟีเจอร์ตามแนวคิด Platform Engineering จากผู้สร้างที่เชี่ยวชาญ DevSecOps จึงทำให้ Opstella สามารถสนับสนุนให้องค์กรสร้างโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้อัตโนมัติและรวดเร็ว ในระดับที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมแบบ Production-Ready พร้อมนำแอปพลิเคชันขึ้นให้บริการลูกค้าได้ภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น
ภายในงาน คุณจิรายุสเผยว่า Opstella จะแบ่งออกเป็น 3 เวอร์ชันที่องค์กรจะสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม โดยรายละเอียดของแต่ละโซลูชันจะประกาศออกมาอีกครั้งหนึ่งในช่วงครึ่งหลังปี 2024 นี้
ประกาศความร่วมมือ Blendata และ Opsta เดินหน้ายุค AI Transformation
ไฮไลต์สำคัญของงานนี้ คือการประกาศลงทุนของ Blendata ใน Opsta เป็น “จำนวน 25%” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Opsta ที่มีการรับเงินลงทุนจากองค์กรภายนอกหลังจากเปิดมาถึง 8 ปี และทั้งสองก็ได้ประกาศเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมกัน เพื่อที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน สร้างเป็นบริการใหม่ที่จะเปิดตัวออกมาต่อไปในอนาคต พร้อมตอบรับยุค AI Transformation ที่กำลังร้อนแรงอยู่ ณ วันนี้
โดยทั้ง Blendata และ Opsta ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งแนวคิดที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและต้องการสนับสนุนให้องค์กรสามารถพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วไม่ติดขัด พร้อมกับความทะเยอทะยานที่ต้องการก้าวเข้าสู่เวทีโลกทั้งคู่ จึงทำให้การจับมือกันครั้งนี้ดูเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อประสานกันแบบพอดี ซึ่งทั้งสองจะก้าวไปข้างหน้าสู่ยุค AI Transformation ที่ท้าทายได้มั่นใจและรวดเร็วกว่าเดิม
ทั้งนี้ หนึ่งในกรณีศึกษาที่พิสูจน์ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของทั้งสองนั้นสอดประสานกันเป็นอย่างดี คือองค์กร Telco ยักษ์ใหญ่เจ้าหนึ่งของไทยที่ได้ใช้บริการของทั้งสองบริษัทมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ซึ่งทั้งสองได้ทำให้องค์กรนั้นสามารถทรานส์ฟอร์มจนกลายเป็นองค์กรที่มากกว่าแค่การเป็นบริษัท Telco รายหนึ่ง โดยสามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้อย่างยืดหยุ่นและสามารถต่อยอดใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อสร้างเป็นบริการใหม่ ๆ ได้สำเร็จมาแล้วมากมาย
ดังนั้น เตรียมพบกับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ของทั้งสองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะพัฒนาออกมาตอบโจทย์ยุค AI Transformation ที่จะเป็นเหมือน Blueprint สำหรับทุกองค์กร ทั้งรูปแบบ Managed Service การให้คำปรึกษา และการฝึกอบรม ได้ในเร็ว ๆ นี้
บทส่งท้าย
ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในงาน “Blendata and Opsta Redefine the Future – Pioneering the New Era of AI Transformation” โดยทั้งสององค์กรได้ประกาศผนึกกำลังกันเพื่อแบ่งปันเทคโนโลยีและการพัฒนาร่วมกัน ที่จะทำให้เกิดเป็นบริการใหม่ ๆ สำหรับองค์กรให้สามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานได้ง่าย ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และผลิตภัณฑ์แบบใหม่ที่จะตอบโจทย์ความต้องการองค์กรในยุค AI Transformation ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
สำหรับผู้ที่สนใจบริการใด ๆ จากทาง Blendata หรือทาง Opsta สามารถติดต่อทีมงานของทั้งสองบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
อ่านรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Blendata ได้ที่
🌐 Website: www.blendata.co
📧 Email: hello@blendata.co
อ่านรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Opsta ได้ที่
🌐 Website: www.opsta.co.th
📧 Email: contact@opsta.co.th