นอกจาก Aruba AirMatch ที่ทำสามารถทำการปรับแต่งการตั้งค่าของ Access Point แต่ละชุดโดยอัตโนมัติด้วย AI ได้แล้ว Aruba ClientMatch ก็เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ใช้ AI สร้างประสบการณ์ในการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ใช้งานในองค์กร ด้วยการวิเคราะห์แบบ Real-time ว่าผู้ใช้งานคนใดเหมาะที่จะเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi บน AP ชุดใดจึงจะเหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ
การเลือกเชื่อมต่อ AP ตามความแรงสัญญาณนั้นไม่เพียงพอ
การเชื่อมต่อ WiFi ให้ได้คุณภาพดีนั้น โดยปกติแล้วการเลือกเชื่อมต่อสัญญาณจาก AP ที่มีค่าความแรงสัญญาณที่สูงที่สุดนั้นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเสมอไป เนื่องจากสัญญาณจาก AP ที่แรงที่สุด อาจเป็น AP ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลเชื่อมต่ออยู่แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานต้องแย่ง Bandwidth ระหว่างกันเอง และทำให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อเครือข่ายได้ช้า ทั้งๆ ที่ในพื้นที่เดียวกันนั้นมี AP ชุดอื่นๆ ที่พร้อมให้บริการอีกมากมาย
เหล่าผู้พัฒนาเทคโนโลยีนั้นต่างก็เล็งเห็นปัญหานี้ จึงได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีบน AP และ Controller เพื่อให้ทำการวิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานคนใดควรเชื่อมต่อสัญญาณจาก AP ชุดใดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ถึงแม้เทคโนโลยีเหล่านั้นจะเข้ามาช่วยให้ภาพรวมดีขึ้น แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้มักทำการเลือกเชื่อมต่อให้ผู้ใช้งานเฉพาะครั้งแรกที่มีการเชื่อมต่อเท่านั้น ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ใช้งานก็ยังประสบกับปัญหาลักษณะคล้ายเดิมอยู่ดี
การทำงานของ Aruba ClientMatch

Aruba ClientMatch ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจาก Adaptive Radio Management หรือ ARM นั้นได้นำ AI และ Machine Learning เข้ามาใช้วิเคราะห์การเชื่อมต่อของผู้ใช้งานด้วยข้อมูลหลากหลายมิติ และนำข้อมูลจาก AP หลายชุดมาผสานกัน รวมถึงแบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนไปยังทุก AP เพื่อให้การตัดสินใจย้ายการเชื่อมต่อของผู้ใช้งานคนหนึ่งจาก AP หนึ่งไปยังอีก AP สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะที่การเชื่อมต่อของผู้ใช้งานคนนั้นๆ ไม่ได้ขาดลงแต่อย่างใด ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
โดยสรุปแล้ว Aruba ClientMatch จะช่วยเสริมความสามารถในการจัดการการเชื่อมต่อของผู้ใช้งานแต่ละคนไปยัง AP ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ดังนี้
- 802.11ax (Wi-Fi 6) Awareness with MU-MIMO Grouping จัดกลุ่มผู้ใช้งานที่รองรับ Bidirectional MU-MIMO และ OFDMA ให้เชื่อมต่ออยู่บน AP ที่รองรับ WiFi 6 ด้วยกันเพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ
- Band Steering ทำการเลือกให้ผู้ใช้งานทำการเชื่อมต่อเครือข่ายโดยย้ายจากย่านความถี่ 2.4GHz ไปยัง 5GHz ซึ่งมี Channel มากกว่า และมีโอกาสที่ประสิทธิภาพในการใช้งานจะสูงกว่า
- Client Steering ทำการติดตามประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและ AP ละทำการย้ายผู้ใช้งานไปยัง AP อื่นที่จะทำให้การเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพดีขึ้น
- Dynamic Load Balancing ย้ายกลุ่มผู้ใช้งานระหว่าง AP และ Channel เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อสูงที่สุดในกรณีที่มีการเชื่อมต่อหนาแน่น
- ใช้มาตรฐาน 802.11k และ 802.11v ในการติดตามประสิทธิภาพและควบคุมการเชื่อมต่อของผู้ใช้งาน ทำให้ไม่ต้องติดตั้ง Software ใดๆ เพิ่มเติมในฝั่งผู้ใช้งาน
- รองรับการทำงานย้อนไปถึงมาตรฐาน 802.11n, 802.11ac Wave 1/2 และรองรับ 802.11ax
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aruba ClientMatch
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aruba ClientMatch ได้ที่
- https://www.arubanetworks.com/assets/tg/TB_EnhancedClientMatch.pdf
- https://www.arubanetworks.com/techdocs/ArubaOS_64x_WebHelp/Content/ArubaFrameStyles/ARM/Client_Match.htm
เว็บไซต์ Aruba ภาษาไทย เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปศึกษาและติดต่อทีมงาน Aruba ได้โดยตรงแล้ว
นอกจากนี้ ทาง Aruba Networks ยังได้เปิดเว็บภาษาไทยขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าผู้ที่สนใจสามารถศึกษาโซลูชันต่างๆ จาก Aruba ได้ และสามารถคลิกช่อง Contact Us เพื่อติดต่อทีมงาน Aruba ในประเทศไทยสำหรับพูดคุยในประเด็นต่างๆ ได้โดยตรงแล้วที่ https://aruba-thai-partner.com/
สนใจติดต่อ Aruba ได้ทันที
ผู้ที่สนใจโซลูชันระบบ Wireless LAN, LAN และ Security สำหรับองค์กร หรือต้องการทดสอบเทคโนโลยี AI สำหรับช่วยเหลือในการดูแลรักษาระบบเครือข่าย สามารถติดต่อทีมงาน Aruba ได้ทันทีที่ Email: aruba.th@hpe.com