Arista Networks เพิ่มความสามารถใหม่ให้แพลตฟอร์ม CloudVision

Arista Networks ได้เพิ่มความสามารถใหม่ให้แก่แพลตฟอร์ม CloudVision เพื่อยกระดับการบริหารจัดการ Workload ได้อย่างอัตโนมัติและง่ายมากขึ้น

Credit: ShutterStock.com

แพลตฟอร์ม CloudVision มีความสามารถที่ช่วยให้เรื่อง Visibility ของ Wire และ Wireless, Orchestration, Provisioning, Telemetry และ Analytics ข้อมูลจาก Data center, Campus และ IoT บน Edge ทั้งนี้ยังสามารถรับข้อมูลจากพาร์ทเนอร์อย่าง VMware และ Microsoft ได้

ประการแรกของการอัปเดตในครั้งนี้คือสิ่ง Arista เรียกว่า ‘CloudVision 2021‘ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นเครือข่ายส่วนที่หนาแน่นและช่วยหาต้นตอของปัญหา โดยมีฟีเจอร์หลักๆ คือ

  • Quality of Experience (QoE) Dashboard – หน้าจอ Dashboard ที่รองรับ QoE ของแอปพลิเคชันได้กว่า 25 แอปเช่น Office365, Google Workspace, Workday, Salesforce และแอประดับองค์กรอื่นๆ รวมถึงพวกโซลูชัน Collaboration อย่าง Zoom และ Microsoft Teams
  • Performance Dashboard – เป็นหน้าจอมอนิเตอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นถึงต้นตอของปัญหาเพราะแสดงข้อมูลเช่น แอปพลิเคชัน สัญญาความถี่คลื่นวิทยุที่ถูกรบกวนกัน รวมถึงสามารถวิเคราะห์ปัญหาฝั่งผู้ใช้ปลายทางได้อย่าง DNS และ DHCP ซึ่งระบบสามารถแนะนำการแก้ปัญหาที่ควรทำได้
  • CloudVision Radio Frequency (RF) Explorer – ผู้ใช้งานสามารถติดตาม จัดการ และแก้ไขปัญหาได้ทันที รวมถึงแสดงปัญหาในอดีตที่เกี่ยวข้องกับสัญญาณวิทยุ

ประการที่สองคือ CloudVision Studios ที่มี Build-in Workflows สำหรับงานที่มักต้องทำอยู่บ่อยๆเช่น การเพิ่ม Capacity ของเครือข่าย หรืองาน Helpdesk ทั่วไป ทั้งนี้ CloudVision Studios จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ Customize การทำงานให้ตรงใจได้มากขึ้น ไม่ถูกจำกัดด้วยหน้า Wizard แบบเดิมๆ

ที่มา : https://www.networkworld.com/article/3614350/arista-adds-cloud-automation-features.html

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Google Willow ชิปควอนตัมใหม่ล่าสุด ที่เอาชนะ Supercomputer แบบไม่เห็นฝุ่น และแสงสว่างสู่การใช้จริง

Google ได้อวดผลงานใหม่ล่าสุดกับงานวิจัยด้าน Quantum Computing กับชิปควอนตัมที่ชื่อว่า ‘Willow’ โดยใช้เวลาประมวลผลเพียง 5 นาทีแก้ปัญหาได้เท่ากับ Supercomputer ที่ต้องใช้เวลาที่เรียกได้ว่าตลอดกาล นอกจากนี้ทีมงาน Google ยังได้เพิ่มศักยภาพในการแก้ไขข้อผิดพลาดได้เจ๋งที่สุดตั้งแต่ทฤษฎีที่นำเสนอมาแล้วกว่า 30 …

Cohesity ประกาศควบรวมกิจการกับ Veritas สำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลระดับโลก

Cohesity ประกาศควบรวมกิจการกับ Veritas สำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลระดับโลก ครอบคลุมผู้ใช้งานกว่า 12,000 ราย พร้อมนำ AI มาเสริมประสิทธิภาพการป้องกันข้อมูล