ในงานสัมมนา Powering Digital Thailand 2022 – HUAWEI CLOUD & CONNECT เหล่าผู้นำระดับประเทศ, ธุรกิจองค์กรชั้นนำ, องค์กรนานาชาติ และทาง Huawei นั้นได้มาร่วมกันแสดงวิสัยทัศน์ถึงความเป็นไปได้และโอกาสที่ไทยจะก้าวสู่การเป็นผู้นำทางด้าน Digital จากหลากหลายแง่มุมด้วยกัน
จากมุมมองของระดับภาครัฐ นโยบาย Thailand 4.0 นั้นมีความพยายามที่จะผลักดันประเทศไทยให้มีเทคโนโลยีผสานอยู่ในทุกภาคส่วนของการทำธุรกิจอยู่แล้ว เพื่อมุ่งเป้าสู่การเป็น Digital Hub ของภูมิภาค ASEAN ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้หันมาลงทุนในไทยกันมากขึ้น จากความพร้อมทางด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี ทั้งการผลักดันด้านการลงทุนในโครงข่าย 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับธุรกิจโรงงาน การผลิต และการขนส่งโดยมีเทคโนโลยีล้ำสมัยผสานอยู่พร้อมให้ภาคธุรกิจนำไปใช้งานและต่อยอดสู่ภาพของ Industry 4.0 ได้ ซึ่งไทยนั้นถือว่ามีความพร้อมสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่พอสมควร
ในขณะเดียวกัน การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยก็มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมก็มีทั้งแผนการในการสนับสนุนธุรกิจโรงงานและการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนโยบายเพื่อความยั่งยืนในเชิงสิ่งแวดล้อม และการศึกษาความเป็นไปได้จากเทคโนโลยีใหม่ๆ แห่งอนาคตที่จะมาเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานไทยอย่างเช่น Metaverse ในขณะที่การผลักดันให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ได้เริ่มนำนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเช่น 5G, Cloud และ AI ไปเริ่มใช้งาน สร้างผลิตภัณฑ์, บริการ และกระบวนการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ เองก็กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วในไทย
ส่วนภาคเอกชนไทยเองก็มีการปรับตัวไม่น้อย สังเกตได้จากบูธต่างๆ ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ซึ่งนำนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ มาตอบโจทย์การทำธุรกิจในโลกยุค Digital มากันอย่างคับคั่ง ทำให้ประเทศไทยเริ่มมี Business Application หรือบริการ Cloud ของตนเองที่ถูกพัฒนาและใช้งานอย่างแพร่หลายในธุรกิจไทยกันมากขึ้น นับเป็นสัญญาณดีที่ประเทศไทยนั้นได้เริ่มมีการสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมาสนับสนุนภาคธุรกิจในภาพใหญ่และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ดี ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจและน่าจับตามองก็คือการร่วมมือกันระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่และรวมกำลังกันเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากเอเชีย-แปซิฟิกนี้ถือเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทั้งในเชิงของเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ทำให้ที่ผ่านมาอิทธิพลจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลกนั้นยังไม่สามารถรุกล้ำเข้ามาได้อย่างเบ็ดเสร็จ ดังนั้นหากประเทศในกลุ่มนี้สามารถร่วมมือกันได้ ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งขั้วอำนาจขนาดใหญ่ ด้วยสัดส่วนประชากรจำนวนมาก และความหลากหลายทางนวัตกรรม ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่าอาจกลายเป็น Digital Economy ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4-5 ของโลกได้เลยทีเดียว
ในมุมของ Huawei ที่ถือว่าเป็นแม่งานในการจัดงานสัมมนาครั้งนี้เองก็มีการนำเสนอวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องและส่งเสริมต่อการเติบโตทางด้าน Digital ของไทยได้อย่างครอบคลุมทุกประเด็น เช่น
- การผลักดัน 5G ทั้งในการใช้งานสำหรับประชาชนทั่วไปและการใช้งานในเชิงธุรกิจ Huawei นั้นไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในผู้พัฒนาเทคโนโลยี 5G เท่านั้น แต่ยังได้มีการนำนวัตกรรมหรือโซลูชันต่างๆ สำหรับภาคธุรกิจเพื่อนำ 5G ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาเป็นทางเลือกให้กับธุรกิจไทย
- การผลักดัน Cloud เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถใช้งาน Cloud ในฐานะของ IT Infrastructure ที่มีความยืดหยุ่นสูงเป็นพื้นฐานสำหรับการต่อยอดนวัตกรรมในไทย โดย Huawei เป็นผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลกรายแรกที่มาลงทุนสร้าง Cloud Data Center ในไทยเพื่อให้ธุรกิจไทยมีทางเลือกในการใช้งาน Cloud ชั้นนำโดยมีการจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลเกิดขึ้นในไทยทั้งหมด รวมถึงเปิดตัว Cloud Data Center แห่งใหม่ในไทยที่จะกลายเป็น Availability Zone แห่งที่ 3 สำหรับ Huawei Cloud ในไทย
- การนำนวัตกรรม AI, IoT, Robotics และ Mobile มาเพิ่มเติมให้กับธุรกิจไทย เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถนำเทคโนโลยีที่พัฒนาเสร็จแล้วไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแข่งขันกับธุรกิจระดับโลกได้อย่างทันท่วงที
- การลงทุนด้าน Low-Carbon Development เพื่อช่วยให้การพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีนวัตกรรมในไทยเป็นไปได้อย่างยั่งยืน ประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Huawei ก็ได้เล็งเห็นถึงการผลักดันให้ไทยกลายเป็นผู้นำทางด้านนี้ในระดับภูมิภาค
โดยสรุปแล้วในแง่ของเนื้อหาและการนำเสนอวิสัยทัศน์ในงาน Powering Digital Thailand 2022 – HUAWEI CLOUD & CONNECT ครั้งนี้ก็ถือว่ามีประเด็นให้ธุรกิจไทยต้องนำไปขบคิดกันอีกไม่น้อย ว่าท่ามกลางโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และการนำเข้าเทคโนโลยีในระดับภูมิภาคนี้ ธุรกิจไทยแต่ละแห่งควรจะต้องวางกลยุทธ์ด้านนี้อย่างไรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคตให้ได้ดียิ่งขึ้น และสร้างโอกาสหรือตลาดใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก
ในมุมมองของ TechTalkThai นั้นเชื่อว่างานสัมมนาครั้งนี้น่าจะจุดประกายให้กับผู้ที่เข้าร่วมและตั้งใจรับชมเนื้อหาได้ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากงานครั้งนี้ก็คือการที่ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมนั้นจะต้องมุ่งสู่การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในแบบฉบับของตนเองขึ้นมา เพื่อใช้งานทั้งภายในและผลักดันไปสู่การเป็น Digital Services ในอนาคต ซึ่ง 5G, Cloud และ AI นั้นก็ย่อมจะต้องมีบทบาทสำคัญไม่น้อยในเส้นทางของธุรกิจในอนาคตนับหลังจากนี้