5 ข้อผิดพลาดในการสำรองข้อมูล Oracle Database ที่ควรหลีกเลี่ยง

หนึ่งในงานสำคัญที่มักจะช่วยชีวิตองค์กรและเหล่าผู้ดูแลระบบได้ในหลายๆ ครั้งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ก็ตาม ก็คือการสำรองข้อมูลให้แก่ระบบฐานข้อมูลสำคัญขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Oracle Database ที่มักทำหน้าที่เป็นระบบฐานข้อมูลให้แก่ระบบงานสำคัญสำหรับธุรกิจองค์กร ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่า 5 สิ่งที่ไม่ควรทำในการสำรองข้อมูลแก่ระบบ Oracle Database นั้นมีอะไรบ้าง

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

1. อย่าเก็บ Database Dump ไว้ใน Production Systems

หลายครั้งที่เหล่า DBA มักจะสร้าง Database Dump เผื่อเอาไว้ใช้ในการสำรองข้อมูลบนระบบ Production System เลยเพราะเป็นระบบเดียวที่ตนเองมีสิทธิ์ในการเข้าถึงอย่างเต็มที่ ซึ่งวิธีการนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงที่ข้อมูล Database Dump เหล่านี้จะสูญหายไปพร้อมๆ กับข้อมูลในระบบ Production เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ระบบ Storage สำหรับ Production เหล่านี้มักมีราคาแพงด้วย การสำรองข้อมูลบน Storage เหล่านี้จึงไม่คุ้มค่ามากนัก

คำแนะนำก็คือการสำรองข้อมูลควรทำบน Storage อื่นนอกเหนือไปจากระบบ Production เพื่อจะได้อุ่นใจในยามที่ระบบ Production เสียหาย และยังมีความคุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย

 

2. อย่าให้การ Dump และ Sweep ทำผิดลำดับ

โดยทั่วไปการสำรองข้อมูล Oracle Database นั้นมักจะเป็นการทำแบบ Dump-and-Sweep กล่าวคือทำการสำรองข้อมูลให้เสร็จ แล้วจึงค่อยทำการย้ายข้อมูลทั้งหมดนั้นเอาไปเก็บใน Storage สำหรับสำรองข้อมูล แต่ถ้าหากการ Dump นั้นใช้เวลานานเกินกว่าที่คาดและการ Sweep เริ่มต้นขึ้นก่อนที่การ Dump จะทำเสร็จ ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บสำรองเอาไว้ก็จะไม่สามารถนำมาใช้งานหรือกู้คืนได้จริง และเป็นปัญหายามที่ระบบ Database เกิดล่มขึ้นมา

สิ่งที่เหล่าผู้ดูแลระบบควรทำก็คือทำให้มั่นใจว่าการ Sweep จะเกิดขึ้นหลังจากที่ระบบทำการ Dump ข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น

 

3. อย่าให้พื้นที่จัดเก็บ Archive Redo Log เต็ม

โดยทั่วไปการสำรองข้อมูลของ Oracle Database นั้นมักจะมีการย้ายข้อมูล Log ออกไปด้วยเพื่อให้ Production System มีพื้นที่เหลือสำหรับ Log ในอนาคต ซึ่งถ้าหากการสำรองข้อมูลนั้นไม่สำเร็จและทำให้การย้ายข้อมูล Log ต่างๆ ออกมาจากระบบ Production ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ Volume ที่ใช้เก็บ Log ก็อาจเต็มและกลายเป็นปัญหากับระบบ Production ได้

ดังนั้นการคอยหมั่นตรวจสอบว่าการทำ Backup ประสบความสำเร็จหรือไม่ และพื้นที่จัดเก็บ Log ในระบบ Production System ยังคงมีเหลือพอใช้งานหรือไม่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรทำเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนระบบ Production System ที่มี Transaction เกิดขึ้นจำนวนมากในแต่ละวัน

 

4. อย่าสำรองข้อมูล Database แบบ Inconsistent

การสำรองข้อมูล Database นั้นมักจะมีความพิเศษในประเด็นเรื่องของการสำรองข้อมูลเฉพาะกลุ่มของข้อมูลที่ Transaction ทั้งหมดเกิดขึ้นเรียบร้อยอย่างสมบูรณ์แล้ว เพื่อให้การกู้คืนกลับมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากจังหวะที่มีการสำรองข้อมูล และข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลของ Transaction ที่เกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ การกู้คืนข้อมูลทุกครั้งก็อาจต้องคอยทำการซ่อมแซมแก้ไขข้อมูล ซึ่งอาจจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้

โดยสรุปแล้วการสำรองข้อมูลของระบบ Database จึงควรทำ Consistent Backup เท่านั้น โดยอาจจะใช้วิธีการ Shutdown ระบบ Database ก่อนแล้วจึงค่อยทำการสำรองข้อมูล หรือการใช้ระบบ Hot Backup / Snapshot ที่มีการผูกเข้ากับระบบ Oracle Database โดยตรงเพื่อให้มั่นใจว่าการสำรองข้อมูลนั้นๆ จะเกิดขึ้นกับข้อมูลที่มี Transaction สมบูรณ์

 

5. อย่าให้การสำรองข้อมูลส่งผลกระทบด้านประสิทธิภาพต่อ Database ในเวลาทำงาน

ในระบบ Oracle Database ที่มี Transaction จำนวนมหาศาลนั้น การสำรองข้อมูลจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบอย่างชัดเจน ดังนั้นการวางแผนเวลาในการสำรองข้อมูลจึงเป็นอีกขั้นตอนที่จำเป็นมาก ในขณะที่อีกปัญหาที่มักเกิดขึ้นก็คือการสำรองข้อมูลมักเกิดขึ้นพร้อมกับการทำ Maintenance อื่นๆ ในระบบ Database และเกิดปัญหาขึ้นมาได้

การวางแผนกำหนดการการสำรองข้อมูลและการ Maintenance จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญของเหล่าผู้ดูแลระบบ เพื่อให้งานทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างราบลื่นไม่มีปัญหาใดๆ ตามมานั่นเอง

 

สำหรับรายละเอียดฉบับเต็มเกี่ยวกับ 5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงและหนทางการแก้ไขของการสำรองข้อมูลให้แก่ Oracle Database นั้น สามารถโหลดได้ทันทีที่ https://www.veritas.com/content/vforms/en/us/top-mistakes-avoid-backup-oracle-db.html

 

 

แนะนำ Veritas NetBackup Copilot for Oracle – สำรองและกู้ข้อมูล Oracle ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน

veritas_netbackup_appliance_3up_composite_left

Veritas NetBackup เป็นผลิตภัณฑ์สำรองข้อมูลที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยหลังจากที่ธุรกิจกลุ่มสำรองและบริหารจัดการข้อมูลได้แยกตัวออกมาจาก Symantec จนกลายมาเป็น Veritas นั้น ทาง Veritas เองก็ได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดการข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสำรองข้อมูลสำหรับ Oracle Database โดยเฉพาะ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ NetBackup Copilot for Oracle นั่นเอง

Veritas NetBackup Copilot for Oracle นี้ถูกออกแบบมาให้เหล่าผู้ดูแลฐานข้อมูล Database Administrator (DBA) และเหล่าผู้ดูแลระบบ Systems Administrator สามารถทำงานร่วมกันได้ในการสำรองข้อมูลแก่ Oracle Database ด้วยการผสานเทคโนโลยีจาก Veritas NetBackup ที่สามารถบริหารจัดการการสำรองข้อมูลระบบใดๆ ก็ได้อย่างง่ายดายจากหน้าจอเดียว เข้ากับวิธีการเฉพาะในการสำรองข้อมูลของ Oracle Database ด้วยการใช้ RMAN หรือเครื่องมือเฉพาะทางสำหรับการสำรองข้อมูลต่างๆ จาก Oracle เองโดยตรง ให้สองระบบนี้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ผลลัพธ์ในการสำรองและกู้คืนข้อมูลของ Oracle Database เป็นไปได้ด้วยวิธีการที่ดีและเหมาะสมที่สุด ในขณะที่ยังคงง่ายต่อการบริหารจัดการการสำรองข้อมูลในภาพรวม และนี่เองก็เป็นที่มาของคำว่า Copilot ภายในชื่อโซลูชันนี้

ผลลัพธ์ของการใช้ Veritas NetBackup Copilot for Oracle จะเป็นดังนี้

  • ทั้ง DBA และ System Admin สามารถตรวจสอบและบริหารจัดการการสำรองข้อมูลของ Oracle Database แบบ Dump-and-Sweep ร่วมกันได้ และยังบริหารจัดการการสำรองข้อมูลเหล่านี้ร่วมกับการสำรองข้อมูลของระบบอื่นๆ ได้อีกด้วย
  • System Admin ผู้ทำหน้าที่ดูแลระบบสำรองข้อมูลจะเห็นความแตกต่างของข้อมูล Oracle Database ที่ทำการสำรองเอาไว้แตกต่างจากข้อมูลอื่นๆ อย่างชัดเจน
  • การแยกระบบสำรองข้อมูลออกมาโดยเฉพาะ จะช่วยลดภาระหน้าที่การทำงานของ Oracle Database ลงไปได้มาก และส่งผลกระทบกับ Production System น้อยลง
  • การบริหารจัดการ Backup Storage จะสามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่าน Veritas NetBackup รวมถึงยังมี Veritas NetBackup Appliance โดยเฉพาะให้องค์กรพร้อมทำการสำรองข้อมูลได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลกับประเด็นทางด้านอุปกรณ์ Storage อีกต่อไป
  • ด้วยเทคโนโลยี Accelerator for Oracle จะทำให้องค์กรสามารถลดปริมาณการทำ Full Backup เพื่อสำรองข้อมูลของ Oracle Database ลงไปได้ และเปลี่ยนมาใช้การทำ Oracle Incremental Merge เพื่อสร้าง Full Backup ขึ้นมาแทน ลดเวลาที่ต้องใช้ในการสำรองข้อมูลลงไปได้เป็นอย่างมาก
  • การกู้คืนนั้นจะเหลือเพียงขั้นตอนเดียวสำหรับการกู้ตรงกลับเข้าไปยัง Oracle Database ได้ทันที แทนที่จะต้องทำการย้ายหรือ Import ข้อมูลซ้ำซ้อนแบบการทำ Dump-and-Sweep อย่างแต่ก่อน
  • ด้วยการสำรองข้อมูลในรูปแบบของ Full Backup จากการใช้เทคโนโลยี Accelerator for Oracle และ Oracle Incremental Merge ทำให้การกู้คืนข้อมูลนั้นประมวลผล Redo Log น้อยลง ส่งผลให้เวลาที่ใช้ในการกู้คืนข้อมูลรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ขั้นตอนการกู้คืนทั้งหมดนี้ DBA สามารถทำได้ด้วยตัวเองทันทีไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากทีมงานฝ่ายอื่นๆ อีกต่อไป

ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Veritas NetBackup Copilot for Oracle สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.veritas.com/product/backup-and-recovery/netbackup/copilot-for-oracle.html ทันที

 

ติดต่อ Veritas ได้โดยตรง

สำหรับ Systems Integrator หรือ Software House ที่มีการนำเสนอหรือพัฒนาโซลูชั่นเกี่ยวกับ Big Data Analytics, Storage Management, Database, Backup, Replication หรือ Disaster Recovery ทางทีมงาน Veritas ยินดีที่จะเข้าไปช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโซลูชั่นของคุณด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ของ Veritas โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อทีมงาน Veritas Thailand ได้ทันทีที่ 02-627 9000 หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ทันทีที่ https://www.veritas.com

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Overhaul ระดมทุน 55 ล้านดอลลาร์ ขยายแพลตฟอร์มจัดการสินค้าระหว่างขนส่งด้วย AI

Overhaul Group สตาร์ทอัพที่ช่วยองค์กรปกป้องสินค้าในระหว่างการขนส่งผ่านซัพพลายเชน ระดมทุนได้มูลค่า 55 ล้านดอลลาร์ในรอบที่นำโดย Springcoast Partners โดยมีนักลงทุนเดิมอย่าง Edison Partners และ Americo เข้าร่วมสนับสนุนด้วย การระดมทุนครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทมีเงินทุนจากภายนอกรวมประมาณ …

อุปกรณ์ Apple เสี่ยงถูกโจมตี ผ่านช่องโหว่คอนโทรลเลอร์ USB-C ACE3

ผู้ใช้อุปกรณ์ Apple กำลังเผชิญความเสี่ยงใหม่ หลังจากที่นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยสามารถแฮ็กคอนโทรลเลอร์ USB-C ACE3 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่รับผิดชอบการจัดการการชาร์จไฟและการถ่ายโอนข้อมูลบนอุปกรณ์รุ่นล่าสุดของ Apple ได้สำเร็จ