CDIC 2023

ก้าวสู่การทำงานยุคใหม่กับ Intel vPro® เจนเนอเรชั่น 11 ประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์และความง่ายในการจัดการ

การพึ่งพาการทำงานผ่านระบบออนไลน์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และการจัดการคอมพิวเตอร์จำนวนมาก สิ่งเหล่านี้คือโจทย์สำคัญที่องค์กรต้องวางแผนในการเลือกใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ดิจิทัลใหม่ๆในปัจจุบัน และเป็นโจทย์ที่ทำให้ Intel พัฒนาแพลตฟอร์ม Intel vPro® ขึ้นมาจนถึงเจนเนอเรชั่น 11 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมาในปี 2021 นี้

ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับแนวคิดและเทคโนโลยีความสามารถที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Intel vPro® เจนเนอเรชั่น 11 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อพีซีธุรกิจโดยเฉพาะ

Intel vPro® คืออะไร

Photo: Intel

Intel vPro® คือแพลตฟอร์มของฮาร์ดแวร์สำหรับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้งานในองค์กรโดยเฉพาะ Intel ได้ออกแบบแพลตฟอร์มนี้ผ่านมุมมองขององค์กร ที่นอกจากจะต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์แล้ว ยังมีโจทย์ที่สำคัญของการดูแลจัดการอุปกรณ์จำนวนมาก และการรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน โดยแพลตฟอร์ม Intel vPro® เน้นเพิ่มประสิทธิภาพใน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ 

  • ประสิทธิภาพในการทำงานอุปกรณ์
  • การรักษาความปลอดภัย 
  • ความง่ายในการจัดการอุปกรณ์ และ
  • ความเสถียรของตัวอุปกรณ์

ซึ่งนอกจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป และ Workstation แล้ว Intel vPro® ยังเป็นเบื้องหลังของอุปกรณ์ดิจิทัลอีกหลายประเภท เช่น ป้ายดิจิทัล ตู้ Kiosk และอุปกรณ์เครื่องจักรในอุตสาหกรรมต่างๆ

Intel vPro® เจนเนอเรชั่น 11 – เมื่อรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป ฮาร์ดแวร์ก็ต้องปรับตาม

การเข้ามาของโรคระบาดโควิด 19 นั้นเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานขององค์กรทั่วโลกไปเป็นอย่างมาก องค์กรส่วนใหญ่ปรับให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ และสร้างระบบงานที่พึ่งพาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีออนไลน์มากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงนี้จะคงอยู่กับองค์กรจำนวนมากต่อไปแม้การระบาดของโรคจะจบลง จึงเกิดขึ้นเป็นโจทย์ใหม่ว่า องค์กรจะทำอย่างไรให้พนักงานได้รับประสบการณ์การทำงานที่ดีและปลอดภัยจากการโจมตีต่างๆ และในขณะเดียวกันองค์กรก็ได้รับประสบการณ์ที่ดีในการจัดการเรื่องราวเหล่านี้ให้เกิดขึ้นเช่นกัน Intel vPro เจนเนอเรชั่น 11 จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นคำตอบของโจทย์ที่ว่านี้

Photo: Intel

ในเจนเนอเรชั่นที่ 11 Intel vPro® ยังคงแนวคิดเดิมที่จะมอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความมั่นคง และความสะดวกให้กับทั้งผู้ใช้งาน และแผนก IT ผู้ดูแลอุปกรณ์ โดยมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ธุรกิจสามารถรับประโยชน์ได้ตั้งแต่เริ่มต้นใช้งาน โดยสิ่งที่น่าสนใจที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Intel vPro® เจนเนอเรชั่น 11 มีดังนี้

ประสิทธิภาพในการทำงาน

  • Intel Core vPro เจนเนอเรชั่น 11 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น และประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิม
  • รองรับกราฟิก Intel® Iris® Xe ซึ่งมาพร้อมกับ GPU ที่ทรงพลังสำหรับการทำงานสร้างสรรค์และความบันเทิง
  • รองรับ Thunderbolt 4 ในการเชื่อมต่อและ Intel® Wi-Fi 6/6E (Gig+) ทีมีความเร็วที่เหนือกว่า
  • หน่วยประมวลผล Intel® Core vPro® เจนเนอเรชั่น 11 ถูกออกแบบมาให้รองรับเทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีอื่นๆในอนาคต โดยมีประสิทธิภาพแรงกว่า  Intel® Core vPro® เจนเนอเรชั่น 8 กว่า 8 เท่า 

การรักษาความปลอดภัย 

  • เทคโนโลยี Intel® Hardware Shield ช่วยปิดการโจมตีและปกป้องอุปกรณ์ใน 3 ระดับ ได้แก่ 
    • การเฝ้าระวังการโจมตีจากการทำงานของ GPU และ CPU เช่นเทคโนโลยี Intel® Control-flow Enforcement Technology (Intel® CET) ที่จะช่วยป้องกันการโจมตีแบบ Control-flow hijack
    • การรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชันและข้อมูลด้วย Virtualization การเข้ารหัส Encryption และการป้องกันหน่วยความจำ
    • ความปลอดภัยในระดับที่ลึกกว่าระบบปฏิบัติการด้วยเทคโนโลยีบนตัวฮาร์ดแวร์ที่จะปกป้อง BIOS และ Boot Flow
  • มีระบบ AI ในฮาร์ดแวร์ที่ช่วยตรวจจับภัยคุกคาม หยุดการโจมตีของ Ransomware และการลักลอบเข้ามาขุดเหรียญ Cryptocurrency 

ความง่ายในการจัดการอุปกรณ์

  • ระบบจัดการที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารและควบคุมอุปกรณ์ทุกประเภท ตั้งแต่แล็ปท็อป ป้ายดิจิทัล ไปจนถึงอุปกรณ์ IoT อื่นๆ
  • Intel® Active Management Technology และระบบ Endpoint Management Assistant (Intel® EMA) บนคลาวด์จะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการ รักษาความปลอดภัย และให้การซัพพอร์ตพนักงานจากระยะไกล โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ฝ่าย IT สามารถเข้าไปยังตัวเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา แม้ในตอนที่อุปกรณ์มีการปิดเครื่อง หรือระบบปฏิบัติการค้างไม่ตอบสนอง*

ความเสถียรของตัวอุปกรณ์

  • ทุกส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์บนแพลตฟอร์ม Intel vPro® ในเจนเนอเรชั่น 11 นั้นได้รับการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดผ่านกระบวนการของ Intel® Stable IT Platform Program (Intel® SIPP) ซึ่ง Intel จัดทำร่วมกับ OEM ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างฮาร์ดแวร์ที่มั่นใจได้ว่าจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องเปลี่ยนไปอีกอย่างน้อย 15 เดือน

รูปแบบการทำงานในปัจจุบันนั้นมีการพึ่งพาคอมพิวเตอร์และระบบ IT มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความพึ่งพานี้มากขึ้นไปอีกเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนา การจัดหาอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับงานให้กับพนักงาน ซึ่งนอกจากประสิทธิภาพและความเหมาะสมกับลักษณะงานแล้ว การจัดการอุปกรณ์ และการรักษาความปลอดภัยก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่องค์กรจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่ความหละหลวมหรือการไม่มีระบบจัดการที่ดีอาจก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่าสูงขึ้นได้ 

แพลตฟอร์ม Intel vPro เจนเนอเรชั่น 11 เป็นหนึ่งเทคโนโลยีล่าสุดที่ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ที่ใช้งานในองค์กรโดยเฉพาะ ครอบคลุมความต้องการของจากทางพนักงาน ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ดีและสะดวก และความต้องการขององค์กรที่เน้นการบริหารอุปกรณ์จำนวนมากได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย หากต้องการศึกษาเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆของ Intel vPro® เจนเนอเรชั่น 11 โดยละเอียด สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/architecture-and-technology/vpro/vpro-platform-general.html


Check Also

ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วม งาน VSM365 | Softde’but Ep.18  ในหัวข้อ ❝ ปกป้ององค์กรของคุณ จากการโจมตีทางไซเบอร์ขั้นสูง ด้วย Proofpoint ❞

Softde’but ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วม งาน VSM365 | Softde’but Ep.18 ในหัวข้อ ❝ ปกป้ององค์กรของคุณ จากการโจมตีทางไซเบอร์ขั้นสูง ด้วย Proofpoint ❞ โดยงานจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ …

รู้จัก OneCall จาก ดีแทคและทรูบิสิเนสระบบการจัดการสายขององค์กร เริ่มต้นได้รวดเร็ว คุ้มค่า ในราคาย่อมเยา

ระบบติดต่อ (Contact Center) ถือเป็นหน้าตาที่สำคัญของธุรกิจ เพราะเป็นจุดแรกที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ภาพลักษณ์ขององก์กร ในกรณีที่ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดี ย่อมส่งผลต่อยอดขายหรือความไว้วางใจในอนาคต ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นได้จากการมีระบบติดต่อแบบมืออาชีพ โดยเฉพาะการมีเบอร์กลางเดียวที่สามารถเข้าถึงทุกบริการขององค์กรได้อย่างง่ายดาย ในบทความนี้เราขอพาทุกท่านไปรู้จัก OneCall จากดีแทคและทรูบิสิเนส ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ริเริ่มได้ง่าย รวดเร็ว และประสิทธิภาพสูง