Black Hat Asia 2023

[Guest Post] วีซ่าชวนเหล่าสตาร์ทอัพไทยปลดล็อคศักยภาพที่แท้จริงในเวทีโลก

วีซ่าชวนเหล่าสตาร์ทอัพไทยปลดล็อคศักยภาพที่แท้จริงในเวทีโลก เพื่อเป็นหนึ่งในหกสตาร์ทอัพในโครงการ Visa Accelerator Program

 

วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิตอลระดับโลก เปิดตัวโครงการบ่มเพาะศักยภาพให้กับสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังแสวงหาโอกาสเติบโตในตลาดใหม่ โดยวีซ่าจะเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั้งหมดหกรายเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาศักยภาพนี้ โครงการ  Visa Accelerator Program มุ่งเน้นในการสร้างโอกาสทางด้านธุรกิจให้กับสตาร์ทอัพที่จะร่วมมือกับวีซ่า เครือข่ายธนาคาร และพันธมิตรร้านค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

โครงการ Visa Accelerator Program ถูกออกแบบมาสำหรับสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในตลาดบ้านเกิดของตนเอง และแสวงหาโอกาสเพื่อต่อยอดความสำเร็จก้าวต่อไป โดยวีซ่า ในฐานะที่เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก สามารถช่วยให้สตาร์ทอัพเหล่านี้เข้าถึงตลาดและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

มร. คริส คลาร์ก ประธานบริหารวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“วีซ่ามีประสบการณ์ร่วมงานกับกลุ่มสตาร์ทอัพมาอย่างยาวนาน สิ่งที่เราพบเห็นอยู่บ่อยครั้งคือสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในตลาดของตัวเองมักเผชิญกับอุปสรรคในการทำธุรกิจในต่างประเทศ  ที่วีซ่า เรามีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่สามารถช่วยให้สตาร์ทอัพพัฒนาแผนงานธุรกิจที่ริเริ่มจากความคิดไปเป็นแผนงานที่ปฏิบัติได้จริง” มร. คริส คลาร์ก ประธานบริหารวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว

 

วีซ่าเปิดรับแผนงานของสตาร์ทอัพที่เน้นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล  ธุรกิจขนาดเล็ก และการใช้ข้อมูลเชิงรุก

สตาร์ตอัพในโครงการ Visa Accelerator Program ควรจะพร้อมในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการเงินที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในเอเชียแปซิฟิก โดยวีซ่ากำลังมองหาสตาร์ทอัพที่ต้องการต่อยอดธุรกิจในหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ช่วยให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการธุรกิจที่อาจไม่ได้รับการบริการอย่างเต็มที่หรือยังพึ่งพาเงินสดอยู่ให้สามารถเข้าถึงเศรษฐกิจแบบดิจิตอล
  • ให้การสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กให้เข้าถึงเทคโนโลยี และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เปิดเผยได้ (Open Data) ในภูมิภาค เพื่อพัฒนาการให้บริการด้านการธนาคารส่วนบุคคล (Personalised Banking) และเสริมสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้ดียิ่งขึ้น
  • พัฒนาวิธีการเคลื่อนย้ายเงินรูปแบบใหม่ ที่ไม่ต้องพึ่งพาบัตรเครดิต และบัตรเดบิตแบบดั้งเดิม

“เป็นที่ทราบกันดีว่าชุมชนสตาร์ทอัพในเอเชียแปซิฟิก เป็นแหล่งคิดค้นโซลูชั่นทางการเงินชั้นเลิศ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับวีซ่าคือเราจะทำอย่างไรที่จะพัฒนาโซลูชั่นเหล่านั้นออกสู่ตลาดและนำเสนอให้กับธนาคารชั้นนำ ผู้ค้าปลีก หรือบริษัทเทคโนโลยีภายในภูมิภาคได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งสิ่งที่แตกต่างและโดดเด่นสำหรับโครงการ Visa Accelerator Program คือการที่เราเน้นคัดสตาร์ทอัพหัวกะทิเพียงหกราย และทุ่มเททรัพยากรของเราให้พวกเขาสามารถปลดล็อคตัวเองเพื่อก้าวสู่อีกขั้นได้อย่างแท้จริง” มร. คลาร์ก กล่าวสรุป

 

การเข้าร่วมโครงการ

โครงการ Visa Accelerator Program เป็นส่วนงานใหม่ของชุดแพลตฟอร์มและกิจกรรมเพื่อขยายกิจการของวีซ่าให้กับกลุ่มสตาร์ตอัพในเอเชียแปซิฟิก โดยโครงการนี้มีจุดประสงค์ในการให้การสนับสนุนการขยายธุรกิจไปสู่ระดับนานาชาติ ที่ถือว่ามีความเหมาะสมกับสตาร์ตอัพที่อยู่ในระดับซีรีย์ เอ ขึ้นไป ที่มีพันธกิจระยะยาวในการดำเนินกิจการในเอเชียแปซิฟิก และยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ภายในภูมิภาค และมีการทดสอบตลาด และโซลูชั่นที่ได้รับการทดสอบเรียบร้อยแล้ว

ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งการสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.visa.com.sg/apaccelerator

 

เกี่ยวกับวีซ่า

Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิตอลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจ และเศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตต่อไป นอกจากนี้เครือข่ายประมวลผลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ทั่วโลกของเราอย่าง VisaNet (วีซ่าเน็ต) มีหน้าที่ในการช่วยให้บริการการชำระเงินนั้นปลอดภัยที่สุด และยังมีศักยภาพในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที เรามุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการค้าขาย การเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี และยังทุ่มเทเพื่อให้เกิดการพัฒนาสู่สังคมไร้เงินสดสำหรับทุกคนในทุกสถานที่ โดยในขณะที่โลกเรากำลังพัฒนาสู่ระบบดิจิตัลอย่างเต็มรูปแบบ วีซ่าได้ใช้แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ กำลังคน และเครือข่ายทั่วโลกของเรา เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนโฉมของโลกการค้าในอนาคต รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ About Visa visacorporate.tumblr.com และ @VisaNews


About Maylada

Check Also

พลิกมุมคิดการจัดการคลาวด์ไอทีอย่างสมาร์ตฉบับวีเอ็มแวร์ [Guest Post]

แม้คลาวด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์การแข่งขันใหม่ ด้วยคุณลักษณะที่คล่องตัว (Agility) ในการปรับความต้องการใช้งานโดยอัตโนมัติ (Auto-Scaling) ได้ด้วยตัวเอง (Self-Services) ทว่าหลายองค์กรซึ่งเลือกปฏิวัติระบบธุรกิจขึ้นสู่คลาวด์กลับประสบปัญหาการจัดการทรัพยากรที่ยิบย่อยบนคลาวด์ไม่ไหว แถมหัวจะปวดกับภัยคุกคามที่ยุ่งยากในการป้องกัน ด้วยเหตุนี้ ความคาดหวังต่อไอทีคลาวด์ยุคถัดไป คือ การปรับแต่งแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคลาวด์ไอทีให้ทันสมัยตรงต่อความต้องการทางธุรกิจ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ทั่วถึง และเป็นอัตโนมัติกว่าเดิม

เสริมแกร่งความมั่นคงปลอดภัยในที่ทำงานด้วยบริการไอทีฉลาดล้ำกว่าเคย

บทความโดย คุณธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว ด้วยรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดและยืดหยุ่นในองค์กรหลายแห่ง บริษัทหลายแห่งต่างกำลังพยายามตอบสนองต่อความคาดหวังและลำดับความสำคัญของพนักงาน ฝั่งทีมไอทีเองก็ต้องรักษามาตรฐานการให้บริการจากทางไกลในระดับสูงเพื่อสนับสนุนให้พนักงานยังคงสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง การทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น บริษัทจะต้องสร้างระบบไอทีที่แข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นพร้อมกับคงไว้ซึ่งแนวทางใหม่ในการทำงาน  อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือ สภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดในทุกวันนี้ทำให้การจัดการจากระยะไกลนั้นซับซ้อนยุ่งยาก ระบบการจัดการทรัพยากรรุ่นเก่ายิ่งทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีจัดการงานและภัยคุกคามเชิงรุกได้ยากกว่าเดิม …