กรุงเทพฯ 3 เมษายน 2561 – กลุ่มทรูและสมาชิกร่วมโครงการ Southeast Asia – Japan 2 consortium (SJC2) ได้ลงนามข้อตกลงกับ NEC Corporation ร่วมสร้างเครือข่ายสายเคเบิ้ลใต้น้ำประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการเชื่อมโยงระบบสื่อสารระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียเหนืออันได้แก่ สิงคโปร์ ไทย กัมพูชา เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยโครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำดังกล่าวมีความยาวกว่า 10,500 กิโลเมตร มีจุดการเชื่อมต่อทั้งหมด 11 จุดในภูมิภาค คาดจะสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020
ระบบเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงนี้จะมีความจุได้สูงสุดถึง 8 คู่ใยแก้วนำแสง (fiber pair) รองรับความจุ 144 เทราไบต์ต่อวินาทีเมื่อเริ่มต้น ซึ่งเทียบเท่ากับการทำสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูง ถึง 5.76 ล้านวิดีโอต่อวินาที ทำให้สามารถรองรับการใช้งาน วิดีโอสตรีมมิ่ง, วิดีโอระดับความคมชัดสูง, แอปพลิเคชั่นเสมือนจริง,การสื่อสารในระบบ 5G, ปัญญาประดิษฐ์, ระบบคลาวด์, การวิเคราะห์ข้อมูล, หุ่นยนต์ และ Internet of Things
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “โครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ SJC2 เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกลุ่มทรูในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีความสำคัญยิ่งต่อทั้งกลุ่มทรูและประเทศไทย ในฐานะบริษัทเอกชนของไทย เรามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำ SJC2 นี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการสื่อสารของชาติและสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล โดยเคเบิ้ลใต้น้ำดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะทำให้กลุ่มทรูสามารถเพิ่มศักยภาพและคงความเป็นผู้นำทางธุรกิจทั้งในด้านโมบายล์และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์”
นายสุพจน์ มหพันธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “โครงการ SJC2 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการสื่อสารทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค และยังแสดงถึงความตั้งใจที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายเกตเวย์ของกลุ่มทรูอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสะท้อนวิสัยทัศน์ของกลุ่มทรูในการเป็นผู้นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มุ่งตอบสนองความต้องการใช้งานบรอดแบนด์ที่เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ตลอดจนลูกค้ากลุ่มองค์กรที่กำลังปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ซึ่งความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำในอุตสาหกรรมเคเบิ้ลใต้น้ำระดับโลกในโครงการ SJC2 นี้ จะตอบโจทย์กลุ่มทรูในการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และยังเปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของอุตสาหกรรม รวมทั้งได้เรียนรู้ประสบการณ์และความชำนาญจากเหล่าพันธมิตรธุรกิจที่จะร่วมผลักดันโครงการจนสู่ความสำเร็จ”
“โครงการ SJC2 ตอบโจทย์แผนการขยายเกตเวย์ของกลุ่มทรู เพราะสามารถทำให้เพิ่มขนาดแบนด์วิดท์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และทำให้เครือข่ายเกตเวย์มีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งจะทำให้กลุ่มทรูมีโอกาสที่จะรุกขยายและสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ สามารถรองรับความต้องการใช้งานด้านสื่อสารโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค รวมทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ และยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเออีซี”
พันธมิตรธุรกิจที่เข้าร่วมสร้างและดำเนินการลงทุนในโครงการ SJC2 ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยี อาทิ China Mobile International, Chunghwa Telecom, Chuan Wei, Facebook, KDDI, Singtel, SK Broadband, กลุ่มทรู และ VNPT.
การเข้าร่วมในโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ SJC2 ของกลุ่มทรู จะเพิ่มความแข็งแกร่งและความหลากหลายของเครือข่ายเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศทั้งของบริษัทและของประเทศ อันเป็นความตั้งใจของกลุ่มทรู ที่จะนำเสนอเครือข่ายที่ดีที่สุด รองรับความต้องการใช้บริการด้านดิจิทัลและคอนเวอร์เจนซ์ที่หลากหลายตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนที่ต้องการใช้ดาต้าและสตรีมมิ่งอย่างรวดเร็วทันใจ ตลอดจนการใช้งานในดิจิทัลแพล็ตฟอร์มอื่นๆ รวมทั้ง IoT โซลูชั่นส์ ซึ่งจะตอกย้ำความเป็นผู้นำของประเทศทั้งในฐานะเป็นผู้ให้บริการ
บรอดแบนด์อันดับ 1 และผู้นำตลาดบรอดแบนด์ดาต้าไร้สาย ที่จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมด้านการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศของไทย
###
เกี่ยวกับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (ทรู)
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยเป็นบริษัทหลักของกลุ่มทรู ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมครบวงจรหนึ่งเดียวในประเทศไทย และเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ กลุ่มทรูแข็งแกร่งและโดดเด่นด้วยยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ที่สามารถนำเสนอบริการที่ผสมผสานเครือข่าย สินค้า และบริการภายในกลุ่มทรู โดยมีธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ คือ กลุ่มทรูโมบายล์ “ทรูมูฟ เอช” ผู้ให้บริการ 4G, 3G และ 2G ด้วยเครือข่ายที่ดีที่สุด ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสามารถให้บริการได้จริง ครบทุกย่านความถี่ ทั้ง 900/1800/2100 เมกะเฮิร์ตซ์ และบนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์ของ บมจ. กสท โทรคมนาคม ด้วยขนาดของแบนด์วิดท์ที่กว้างที่สุดในไทยจำนวน 55 MHz, ทรูออนไลน์ ผู้ให้บริการ “ทรู ซูเปอร์สปีด ไฟเบอร์” บรอดแบนด์และไวไฟบนเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้ง DOCSIS 3.0, ADSL และ FTTH, และทรูวิชั่นส์ ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกรายใหญ่ที่สุด ให้บริการทั่วประเทศ และเป็นรายแรกที่เปิดบริการคอนเท้นต์ในระบบ HD คุณภาพสูง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกอบด้วย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจครบวงจรชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มไชน่าโมบายล์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมูลค่าหุ้นรวม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มทรู สามารถค้นหาได้ที่ www.truecorp.co.th