IBM Flashsystem

True IDC จับมือ BBIX จากญี่ปุ่น เปิดตัว BBIX (Thailand) นำไทยสู่ศูนย์กลาง Internet Exchange ระดับเวิร์ลคลาส

     

True IDC ผู้ให้บริการ Data Center และระบบ Cloud ชั้นนำของไทย ประกาศร่วมทุนกับ BBIX ผู้ให้บริการ Internet Exchange อันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น เพื่อก่อตั้งบริษัท บีบีไอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์) จำกัด (BBIX (Thailand) Company Limited) ให้เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตมาตรฐานสากล ยกระดับโครงข่ายพื้นฐานและระบบอินเทอร์เน็ตไปอีกขั้น พร้อมผลักดันประเทศให้ก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ

ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตหรือ Internet Exchange Point (IxP) นั้น เป็นจุดที่โครงข่ายของผู้ให้บริการมีการเชื่อมต่อระหว่างกัน เพื่อทำการแลกเปลี่ยนทราฟฟิกของลูกค้าซึ่งกันและกัน หรือแลกเปลี่ยนทราฟฟิกของลูกค้ารายอื่นๆ โดย IxP จะช่วยให้ผู้ให้บริการแต่ละรายสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตของลูกค้าได้โดยตรง ลดระยะทางของทราฟฟิกที่ต้องวิ่งอ้อมผ่านเส้นทางอื่นๆ ส่งผลให้มี Latency ลดลง มี Round-trip Time ที่ดีขึ้น และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตลงได้อีกด้วย ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมี IxP รวมทั้งสิ้น 14 แห่ง

ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุดของ IxP คือการแก้ปัญหา “ปรากฏการณ์ทรอมโบน” โดยทั่วไปแล้ว เส้นทางของทราฟฟิกที่วิ่งจากระบบเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกระบบเครือข่ายหนึ่งจะถูกกำหนดโดยเครือข่ายตัวกลาง ซึ่งเรียกได้ว่าปล่อยไปตามมีตามเกิด อย่างไรก็ตาม ทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกต่างส่งผ่านกันในรูปแบบนี้ เนื่องจากการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่าง ISP กับ ISP มีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่การพึ่งพาเครือข่ายหลักของ ISP ในการส่งทราฟฟิกภายในประเทศอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพได้ เนื่องจากบางครั้ง ISP กลับส่งทราฟฟิกออกไปยังระบบเครือข่ายอื่นที่อยู่คนละเมืองหรือคนละประเทศแล้วค่อยวนกลับมายังจุดหมายปลายทาง ก่อให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า “ปรากฎการณ์ทรอมโบน”

คุณศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไปและประธานคณะผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ True IDC ระบุว่า การร่วมทุนเพื่อก่อตั้ง BBIX (Thailand) นี้ ทาง True IDC จะถือหุ้น 51% ในขณะที่ BBIX จะถือหุ้น 49% โดยจะให้บริการ IxP ในระดับ Layer 2 ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่า IxP ในไทยส่วนใหญ่ที่ให้บริการในระดับ Layer 3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่ากว่า พร้อมทั้งนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระดับเวิร์ลคลาสของ BBIX ญี่ปุ่นมาพัฒนาในประเทศไทย นอกจากนี้ BBIX (Thailand) จะให้บริการแบบ Carrier Neutral คือ พร้อมเชื่อมต่อกับ ISP และ Content Providers เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเดินทางของข้อมูลมีความเท่าเทียมกันทั้งหมด เป็นการยกระดับโครงข่ายพื้นฐานและอินเทอร์เน็ตของประเทศไปอีกขั้น เมื่อระบบอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยมีความเร็วสูงขึ้น ย่อมดึงดูดนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce

“เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน รวมถึงธุรกรรมต่างๆ และจากการใช้งานอย่างก้าวกระโดดนี้ ก่อให้เกิดการรับส่งข้อมูล (Content/Media) บนเครือข่ายมหาศาล ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการรับส่งข้อมูลบนโครงสร้างพื้นฐานปัจจุบัน True IDC ยังคงมุ่งมั่นผลักดัน และตอบสนองนโยบายรัฐบาล Thailand 4.0 ในการพัฒนาด้าน Infrastructure อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำ Data Analytic นำไปสู่กระบวนการทำงานแบบ Artificial Intelligence ที่ชาญฉลาด เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตให้กับคนยุคใหม่อย่างลงตัว และการร่วมมือกับ BBIX ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนาศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เป็นกลางตามมาตรฐานสากลขึ้นในประเทศไทย ให้รองรับการทำงานสำหรับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ ภาครัฐบาล ภาคเอกชน ผู้ให้บริการเครือข่าย และผู้ให้บริการคอนเทนต์ พร้อมต่อยอดไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศ” — คุณศุภรัฒศ์กล่าว

คุณเคอิชิ มากิโซโน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIX เผยว่า เนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยมีแนวโน้มในการเติบโตสูง แต่การให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลอินเทอร์เน็ตยังพัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ระบบของ BBIX สามารถรองรับการขยายตัวได้มากกว่า 50 เท่า จากประสบการณ์ในการพัฒนารูปแบบบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต ทำให้ BBIX เล็งเห็นว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตด้านอินเทอร์เน็ตอีกมาก จึงได้ตัดสินใจร่วมมือกับ True IDC ซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางและมีมาตรฐานระดับโลก ก่อตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตด้วยการใช้เทคโนโลยีระดับสากล โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้กว่า 15 ปี BBIX จึงมั่นใจว่า BBIX (Thailand) จะเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่ทันสมัยและมีศักยภาพที่สุดในประเทศ

“เราคาดการไว้ว่า BBIX (Thailand) ที่จะให้บริการ Layer 2 IxP จะช่วยลด Latency ลงจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตปกติโดยเฉลี่ย 5 – 6 เท่า และช่วยให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตประหยัดค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูลลงได้ถึง 10%” — คุณเคอิชิกล่าว

BBIX (Thailand) มีหลักในการพัฒนาการให้บริการอินเทอร์เน็ตภายใต้ 3 แนวคิด คือ ลดความยุ่งยากและซ้ำซ้อน (Simple) เพิ่มความเร็ว (Low Latency) และลดค่าใช้จ่าย (Cost) ด้วยการเปลี่ยนการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่าง ISP แบบ Peering มาเชื่อมต่อกับศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลของ BBIX (Thailand) ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 นี้ หลังจากนั้นจะขยายบริการไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง Internet Exchange ที่ทันสมัยที่สุด

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

ขอเชิญร่วมงาน TTT x JobPrompt Virtual Job Fair 2025: IT Industry Edition [15 พ.ค. 2025 – 13.15น.]

TechTalkThai และ JobPrompt ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ฟรี Virtual Job Fair 2025: IT Industry Edition ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2025 เวลา 13.15น. - 16.00น. ภาษา: ไทย เพื่อรับชมการบรรยายแนวโน้มตลาดงานในอุตสาหกรรม IT ภาพรวม พร้อมเจาะลึกงานในแต่ละตำแหน่งจากธุรกิจชั้นนำในวงการ ครอบคลุมทั้งตำแหน่งงานทางด้าน AI, Software Development, IT Infrastructure, Data Science และ Cybersecurity

ความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น แบรนด์คลาวด์ในประเทศ กลายเป็นทางเลือกใหม่ขององค์กรในการสร้างความแข็งแกร่ง [Guest Post]

นโยบายด้านภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกาที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและคาดเดาได้ยาก กำลังสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลให้กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ผลกระทบดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาคการผลิตแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจในประเทศไทยที่พึ่งพาแพลตฟอร์มคลาวด์ของสหรัฐฯ อย่างสูง ซึ่งอาจต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการจัดซื้อบริการคลาวด์ รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่มากขึ้น ในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนสูง การกระจายความเสี่ยงบนคลาวด์จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการคงเสถียรภาพในการดำเนินงาน