ติดตามและบริหารจัดการข้อมูล Green House Gas Emission ในองค์กรจากศูนย์กลาง วางกลยุทธ์ก้าวสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วย Netka EnXus

การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนหรือ Sustainability ได้กลายเป็นวาระสำคัญของธุรกิจองค์กรทั่วโลก และได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญทางด้านการค้าทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศไปแล้ว ทำให้ธุรกิจองค์กรไทยหลายแห่งเองก็ได้เริ่มตื่นตัวในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ธุรกิจองค์กรไทยหลายแห่งเองก็ยังคงไม่มั่นใจถึงการดำเนินการก้าวแรกสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ทั้งด้วยความสับสนด้านกฎระเบียบข้อบังคับ ไปจนถึงการขาดผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยดำเนินกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนให้แก่องค์กร

Netka System ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG Tech จึงได้ทำการพัฒนาโซลูชัน Netka EnXus ขึ้นมา เพื่อช่วยเป็นแนวทางให้กับธุรกิจองค์กรไทยให้สามารถเริ่มต้นก้าวแรกสู่ความยั่งยืนได้อย่างมั่นใจ พร้อมระบบสำหรับจัดเก็บรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลด้านความยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถเดินหน้าต่อด้าน ESG ได้

ก้าวแรกสู่ความยั่งยืน ต้องเริ่มต้นจากการรวบรวมข้อมูล Green House Gas Emission ในองค์กร

การก้าวสู่การเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนนั้น จุดเริ่มต้นที่สำคัญคือการสำรวจธุรกิจของตนเองถึงสถานะการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือ Green House Gas (GHG) Emission ให้ได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำเสียก่อน เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวนี้จะสามารถต่อยอดไปสู่การประเมิน Carbon Footprint หรือการผลิต Carbon ของธุรกิจได้

โดยทั่วไปแล้ว มาตรฐานที่นิยมใช้กันในหลายประเทศทั่วโลกจะแบ่งการติดตาม GHG Emission ออกเป็น 3 หมวดหมู่ด้วยกัน ดังนี้

Scope 1 Direct GHG Emission ในหมวดหมู่นี้จะครอบคลุมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมหรือทรัพยากรซึ่งอยู่ภายใต้ความควบคุมขององค์กรโดยตรง เช่น การผลิตสินค้า, การเดินทางโดยยานพาหนะขององค์กร, การเผาผลาญพลังงานซึ่งเกิดขึ้นโดยความควบคุมขององค์กร และอื่นๆ

Scope 2 Energy Indirect GHG Emission ในหมวดหมู่นี้จะครอบคลุมถึงการซื้อและใช้พลังงานจากหน่วยงานภายนอก เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า  โดยต้องมีการติดตามปริมาณการใช้พลังงานเหล่านี้อย่างแม่นยำ และคำนวณกลับเป็นการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกิดขึ้นจากหน่วยงานภายนอกที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าให้แก่องค์กร

Scope 3 Other Indirect GHG Emission ในหมวดหมู่นี้จะครอบคลุมถึงกิจกรรมหรือการใช้ทรัพยากรจากหน่วยงานภายนอกหรือ Supplier ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เช่น วัตถุดิบที่มีการสั่งซื้อมาใช้งาน, บริการที่ใช้จากหน่วยงานภายนอก, การเดินทางโดยยานพาหนะของหน่วยงานภายนอก เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานที่เป็น Supplier เหล่านี้จะต้องทำการส่งมอบข้อมูลของปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้กับองค์กร

จะเห็นได้ว่าการแบ่งหมวดหมู่ของ GHG Emission ด้วยแนวทางดังกล่าว ถือเป็นแนวทางที่เข้าใจได้ง่าย โดยองค์กรสามารถเริ่มต้นจาก Scope 1 และ 2 ด้วยการดำเนินการภายในได้ทันที ในขณะที่ Scope 3 อาจต้องมีการคัดกรอง Supplier รายต่างๆ ที่พร้อมส่งมอบข้อมูลในส่วนนี้ได้เสียก่อน

จุดสังเกตที่สำคัญก็คือ การแบ่งหมวดหมู่ของ GHG Emission ด้วยวิธีการนี้ ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนว่าไม่ว่าธุรกิจองค์กรจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบใด ก็ย่อมต้องมีกิจกรรมหรือการใช้ทรัพยากรที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกทั้งสิ้น ดังนั้นธุรกิจองค์กรทุกแห่งจึงสามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ในการติดตามการก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกได้ และเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการต่อยอดในอนาคต

ธุรกิจองค์กรที่มีข้อมูลด้าน GHG Emission อย่างครบถ้วนและพร้อมเปิดเผยได้ จะมีข้อได้เปรียบทั้งในแง่ของความพร้อมในการตอบรับต่อข้อกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่จะถูกบังคับใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งในการทำงานร่วมกับบริษัทระดับนานาชาติเอง ก็อาจมีการร้องขอข้อมูลในส่วนนี้ และใช้เป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งในการสมัครเข้าเป็น Supplier ของบริษัทเหล่านั้น ในขณะที่ธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์เอง ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้จัดทำรายงานด้านความยั่งยืนเพื่อนำเสนอต่อนักลงทุนได้ด้วยเช่นกัน

Netka EnXus: จัดเก็บข้อมูล Green House Gas Emission ขององค์กรอย่างเป็นระบบ พร้อมออกรายงานด้านความยั่งยืนเพื่อการต่อยอดสู่อนาคต

Netka EnXus คือโซลูชัน Carbon Footprint Management ที่พัฒนาโดย Netka System ธุรกิจ IT สัญชาติไทย ทำให้เป็นโซลูชันที่มีการนำข้อบังคับทางกฎหมายทั้งในระดับนานาชาติและข้อบังคับเฉพาะของประเทศไทยเข้ามาผสานรวมให้ธุรกิจองค์กรไทยพร้อมนำไปใช้งานได้ทันที เพื่อทำการเก็บรวมรวบข้อมูล, วัดปริมาณ GHG และ Carbon, บริหารจัดการข้อมูล และใช้ออกรายงานเพื่อวางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนได้อย่างครบวงจร

ความสามารถที่โดดเด่นของ Netka EnXus มีดังนี้

1. ติดตามข้อมูล GHG Emission ได้ครบถ้วนทั้ง 3 หมวดหมู่

Netka EnXus มีระบบสำหรับการรวบรวมข้อมูล GHG Emission ทั้ง 3 หมวดหมู่อย่างครบถ้วน โดยมีรูปแบบการบันทึกข้อมูลที่แตกต่างกันออกไปสำหรับแต่ละ Scope พร้อมเครื่องมือสำหรับคำนวณแปลงจากกิจกรรมหรือทรัพยากรที่ใช้งานไปสู่ค่า GHG Emission และ Carbon Footprint ได้อย่างแม่นยำ สามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้การรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนมีความแม่นยำสูงสุด

นอกจากนี้ สำหรับการรวบรวมข้อมูลเพื่อ Scope 3 Other Indirect GHG Emission ในระบบยังสามารถทำ Assessment Form เพื่อให้ Supplier ทำการกรอกข้อมูลในส่วนนี้ได้โดยง่าย ช่วยให้การจัดการกับข้อมูลในส่วนนี้มีความสะดวกและเป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

2. บริหารจัดการ Emission Factor ได้ในเชิงลึก เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณ GHG Emission จากแต่ละกิจกรรม

การปรับแต่งค่า Emission Factor สำหรับแต่ละกิจกรรมหรือการใช้ทรัพยากรก็สามารถทำในระบบได้โดยง่ายเช่นกัน เนื่องจากเรื่องของการติดตาม GHG Emission ยังเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย และการประเมินค่า GHG Emission จากแต่ละกิจกรรมนั้นก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จากหลายปัจจัย Netka EnXus จึงเปิดให้องค์กรที่ใช้งานสามารถทำการปรับแต่งค่าดังกล่าวได้ เพื่อให้การคำนวณ GHG Emission นั้นมีความแม่นยำน่าเชื่อถือต่อการนำไปใช้งาน

3. มีหน้า Dashboard ติดตามภาพรวมด้านความยั่งยืน

ภายในระบบจะมีหน้า Carbon Emission Dashboard ซึ่งแสดงข้อมูลการสร้าง Carbon ของกิจกรรมต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจแบบ Real-Time โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลจากทั้ง 3 หมวดหมู่ของ GHG Emission พร้อมการแสดงถึงแนวโน้มและการเปรียบเทียบข้อมูล เพื่อให้องค์กรสามารถเห็นถึงภาพรวมของการผลิต Carbon ที่เกิดขึ้น และวางแผนเพื่อจัดการข้อมูลในส่วนนี้ และลดการผลิต Carbon ลงได้

4. ออกรายงานด้านความยั่งยืนได้ ตามมาตรฐานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

ในประเทศไทย หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำหนดทิศทางของการติดตามการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้นก็คือองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) ซึ่งทางหน่วยงานดังกล่าวก็ได้มีการกำหนดมาตรฐานในการจัดทำรายงานในส่วนนี้เอาไว้อย่างชัดเจน

Netka EnXus มีความสามารถในการนำข้อมูล GHG Emission ที่รวบรวมมาทั้ง 3 หมวดหมู่ มาจัดทำรายงานตามมาตรฐานดังกล่าว ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ที่จะต้องมีการนำเสนอข้อมูลในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง

5. กำหนดสิทธิ์และผู้ใช้งานได้อย่างเป็นระบบ

ในแง่ของการบริหารจัดการการเข้าใช้งานระบบ Netka EnXus มีระบบการยืนยันตัวตนและกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานให้แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เฉพาะในส่วนที่ตนเองเกี่ยวข้อง และจัดทำข้อมูลรายงานภายใต้ขอบเขตความรับผิดชอบได้ ในขณะที่ผู้บริหารหรือทีมงานที่ดูแลด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ ก็อาจเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้เห็นภาพรวมของการดำเนินงานในส่วนนี้ได้

แม้ว่า Netka EnXus จะเป็นโซลูชันที่มีความพร้อมและช่วยให้ธุรกิจองค์กรสามารถเริ่มต้นก้าวแรกสู่ความยั่งยืนได้ แต่หลายองค์กรเองก็อาจจะยังขาดความมั่นใจและอยากได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งทีมงาน Netka ก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือให้คำปรึกษาในส่วนนี้ เพื่อให้องค์กรเกิดความรู้ความเข้าใจเบื้องต้น และวางแผนการดำเนินการด้านความยั่งยืนได้อย่างเป็นระบบ

สนใจ Netka EnXus ติดต่อทีมงาน Netka ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชัน Netka EnXus สามารถติดต่อทีมงาน Netka ได้ทันที หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Netka ได้ที่ https://netkasystem.com/