Black Hat Asia 2023

TikTok อพยพข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ไปยังเซิร์ฟเวอร์ Oracle 100% เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย

TikTok แอปวิดีโอแบบสั้น ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงการย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาไปยังแพลตฟอร์ม Oracle Could เพื่อสร้างความมั่นใจจากความวิตกกังวลด้านความปลอดภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน
 
TikTok เปลี่ยนตำแหน่งการจัดเก็บเริ่มต้นของข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาทั้ง 100% เป็น Oracle หลังจากพูดคุยแนวทางกันมานานกว่าหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม การสำรองข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ของ TikTok ยังคงถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ TikTok ในเวอร์จิเนียและในสิงคโปร์ แต่ในที่สุดข้อมูลเหล่านั้นจะถูกลบโดยเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้ Oracle (ORCL) อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ TikTok ไม่ได้ระบุกรอบเวลาสำหรับแผนท้ายนี้
 
ByteDance บริษัทสัญชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าของแอป TikTok โดยย้อนไปเมื่อปี 2020 ประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ สั่งให้ ByteDance ขายแอป TikTok ความพยายามของทำเนียบขาวได้เคยเจรจาจัดแจงเปรียบคู่การเข้าซื้อกิจการ TikTok ให้กับ Oracle และกลุ่มบริษัทอื่นๆ แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ ต่อมาเข้าสู่ยุคของผู้นำอเมริกาคนใหม่ ฝ่ายบริหารของ ไบเดน ได้นำเรื่องความปลอดภัยต่อแอปที่เป็นสัญชาติของประเทศคู่อริทั้งหมดรวมถึง TikTok ด้วย กลับขึ้นมาพิจารณาอีกรอบ โดยวิเคราะห์แนวทางการควบคุมข้อมูลที่เป็นของอเมริกาให้กว้างขึ้น เพื่ออยู่บนพื้นฐานด้านความปลอดภัยและความมั่นคงแห่งชาติเป็นสำคัญ
 
ก่อนที่จะมีการประกาศอพยพข้อมูลครั้งนี้ เคยมีพนักงานของ TikTok กล่าวไว้ว่า “ยากที่จะปิดบังข้อมูลจากประเทศจีนได้สำเร็จ วิศวกรชาวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลของอเมริกาได้ในปีนี้” 
 
ทั้งโฆษกทำเนียบขาว โฆษกกระทรวงการคลัง และฝั่ง Oracle ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการประกาศของแอป TikTok 
 
 

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

ปกป้อง Workload อย่างไร้รอยต่อจาก Azure สู่ AIS Cloud X ด้วย Microsoft Defender for Cloud

สาเหตุที่ Public Cloud ได้รับความนิยมมีหลายปัจจัย นอกเหนือจากตัวเลือกทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องมือด้าน Security อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาความท้าทายของ Security ที่เกิดขึ้นก็คือข้อจำกัดของเครื่องมือที่ไม่สามารถก้าวออกนอกแพลตฟอร์มได้ ด้วยเหตุนี้เองผู้ทำงานด้านความมั่นคงปลอดภัยจึงต้องรับบทหนักเพิ่มขึ้นจากแนวทาง Multi-cloud ด้วย การใช้งาน Local …

พลิกมุมคิดการจัดการคลาวด์ไอทีอย่างสมาร์ตฉบับวีเอ็มแวร์ [Guest Post]

แม้คลาวด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์การแข่งขันใหม่ ด้วยคุณลักษณะที่คล่องตัว (Agility) ในการปรับความต้องการใช้งานโดยอัตโนมัติ (Auto-Scaling) ได้ด้วยตัวเอง (Self-Services) ทว่าหลายองค์กรซึ่งเลือกปฏิวัติระบบธุรกิจขึ้นสู่คลาวด์กลับประสบปัญหาการจัดการทรัพยากรที่ยิบย่อยบนคลาวด์ไม่ไหว แถมหัวจะปวดกับภัยคุกคามที่ยุ่งยากในการป้องกัน ด้วยเหตุนี้ ความคาดหวังต่อไอทีคลาวด์ยุคถัดไป คือ การปรับแต่งแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคลาวด์ไอทีให้ทันสมัยตรงต่อความต้องการทางธุรกิจ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ทั่วถึง และเป็นอัตโนมัติกว่าเดิม