CSL จับมือ Dell Technologies เปิดบริการวางระบบ Hybrid Cloud แก่องค์กรทั่วไทย

CSL ผู้ให้บริการระบบ Cloud, IT Solutions และ Data Center แบบครบวงจร ร่วมกับ Dell Technologies เปิดให้บริการการวางระบบ Hybrid Cloud แบบเรียบง่ายและรวดเร็ว ปูรากฐานการใช้งานตั้งแต่ On-premises ไปสู่ Cloud พร้อมต่อยอดไปยัง Multi-cloud ในอนาคต ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องทำงานแบบ Work from Anywhere, Any Device & Any Platform

Hybrid Cloud กลายเป็น New Normal สำหรับทุกองค์กร

จากวิกฤตการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน ทำให้เกิดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค หลายองค์กรจึงถูกบังคับให้ทำ Digital Transformation เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และเข้าถึงระบบภายในองค์กรได้ เมื่อ Work from Home กลายเป็นวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ (New Normal) พนักงานมีความคุ้นเคย ทำให้องค์กรเริ่มต่อยอดการ Work from Home ไปสู่การทำงานภายใต้แนวคิด “Work from Anywhere, Any Device & Any Platform” ซึ่งนอกจากจะเพิ่มอิสระในการทำงานให้แก่พนักงานแล้ว องค์กรยังได้พื้นที่ที่จากเดิมเป็นที่นั่งทำงานของพนักงานกลับคืนมา ซึ่งสามารถนำไปใช้สอยให้เกิดประโยชน์อย่างอื่นหรือลดภาระการเช่าที่ลงได้

เทคโนโลยี Cloud Computing ไม่ว่าจะเป็น Public Cloud อย่าง AWS, Microsoft Azure, Google Cloud Platform หรือ Private Cloud ต่างถูกนำเข้ามาใช้เพื่อตอบรับแนวคิดดังกล่าว ในขณะที่หลายองค์กรก็เริ่มหันไปใช้งานแบบไฮบริด (Hybrid Cloud) เนื่องจากต้องการความยืดหยุ่นในการโยกย้าย Workload ไปมาระหว่าง Private และ Public Cloud รวมไปถึงทำให้มั่นใจว่าระบบงานจะพร้อมใช้งานอยู่เสมอแม้จะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ที่สำคัญคือตอบโจทย์ความต้องการเรื่องการจัดเก็บข้อมูลอย่างมั่นคงปลอดภัย สอดคล้องกับกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ

จาก Hybrid Cloud สู่ Multi-cloud เต็มไปด้วยความซับซ้อน

ถึงแม้หลายองค์กรจะเริ่มสนใจการวางระบบแบบ Hybrid Cloud แต่การก้าวออกจากการใช้งานแบบ On-premises และ Cloud ไปสู่ Hybrid Cloud ให้ได้อย่างเต็มตัวนั้นยังถือเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเทคโนโลยีหลักที่หลายองค์กรเลือกใช้งานภายใน On-premises Data Center นั้นยังไม่พร้อมที่จะทำงานร่วมกับ Public Cloud ของค่ายต่างๆ ได้อย่างดีนัก ยิ่งองค์กรนำกลยุทธ์ Multi-cloud เข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์เฉพาะตัวของ Cloud Provider แต่ละราย การลดความเสี่ยง หรือการใช้งานตามนโยบายของบริษัทแม่ ยิ่งก่อให้เกิดความซับซ้อนและยุ่งยากในการบริหารจัดการมากขึ้น เนื่องจาก Cloud Provider ต่างมีเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมเป็นของตนเอง การโยกย้าย Workload ระหว่าง Cloud จึงทำได้ยาก ทั้งยังมีประเด็นเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่อาจจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมไปถึงปัญหาเรื่องการเรียนรู้ทักษะที่ต้องใช้ในการทำงานร่วมกับระบบ Cloud เหล่านั้น

ด้วยเหตุนี้ การปูรากฐานตั้งแต่ On-premises ไปสู่ Private Cloud และ Public Cloud ให้มีบรรทัดฐานเดียวกัน ใช้เครื่องมือเดียวกัน ภายใต้กระบวนแบบเดียวกัน และสามารถบริหารจัดการระบบทั้งหมดได้แบบรวมศูนย์ จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทุกองค์กรควรพิจารณาเมื่อเริ่มวางแผนใช้ Hybrid Cloud และ Multi-cloud ในอนาคต

เริ่มใช้ Hybrid Cloud แบบง่ายและรวดเร็วด้วยโซลูชันจาก CSL

CSL ร่วมกับ Dell Technologies เปิดให้บริการการวางระบบ Hybrid Cloud แบบเรียบง่ายและรวดเร็ว ผสานการทำงานระหว่าง On-premises, Private Cloud และ Public Cloud รวมไปถึงสามารถขยายไปสู่ Edge ได้โดยใช้เครื่องมือและกระบวนการทำงานแบบเดียวกันทั้งหมด ก่อให้เกิดการวางโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติงานที่มีบรรทัดฐานเดียวกัน ภายใต้แนวคิด “One Cloud Experience” โดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

  1. เริ่มวางรากฐานระบบ On-premises ด้วยโซลูชัน Infrastructure จาก Dell EMC
  2. วางระบบ Private Cloud โดยใช้ VMware Cloud Foundation
  3. เชื่อมต่อกับ Public Cloud ได้แก่ AWS, Microsoft Azure, Google Cloud Platform และ Cloud Partners อื่นๆ อีกกว่า 4,200 รายทั่วโลกด้วย VMware Cloud

แน่นอนว่าเมื่อรากฐานทั้งหมดเป็น VMware ที่หลายองค์กรใช้งานและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำให้สามารถเชื่อมต่อ ใช้งาน และโยกย้าย Workload ไปมาระหว่าง On-premises Data Center (Private Cloud) และ Public Cloud ได้สะดวกรวดเร็ว สร้างทางเลือกในการก้าวไปสู่การพัฒนาระบบ Hybrid Cloud ที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อนขึ้น

เลือกวางระบบ Hybrid Cloud แบบเบ็ดเสร็จ หรือปรับแต่งตามความต้องการ

สำหรับองค์กรที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเริ่มแผนการใช้ Hybrid Cloud สามารถเลือกใช้บริการจาก CSL ที่สนับสนุนโดย Dell Technologies ได้ 2 แบบ คือ

1. บริการแบบเบ็ดเสร็จ

วางระบบ Hybrid Cloud ให้องค์กรโดยใช้ Hyper-converged Infrastructure คือ VxRail เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เสริมด้วย VMware Cloud Foundation เพื่อเริ่มต้นทำงานแบบ Private Cloud บริการนี้มีจุดเด่นที่สามารถติดตั้งเพื่อใช้งานได้ง่าย ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมขยายระบบไปทำงานร่วมกับ Public Cloud ได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งยังบริหารจัดการได้ง่ายและอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอัปเกรดหรืออัปเดตแพตช์ ที่สำคัญคือ CSL และ Dell Technologies มีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) สำหรับการวางระบบ Hybrid Cloud โดยใช้ VxRail และ VMware Cloud Foundation ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถต่อยอดไปใช้งาน Container และ Kubernetes ได้ทันทีโดยใช้ VMware PKS

2. บริการแบบปรับแต่งตามความต้องการ

องค์กรสามารถเลือกอุปกรณ์ในส่วน Compute, Storage และ Network ของ Dell Technologies มาประกอบกันให้สอดคล้องกับ Workload ที่ใช้งานและงบประมาณที่มีได้อย่างอิสระ โดย Dell Technologies จะมี Validated Design สำหรับใช้อ้างอิงเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้งานสามารถผสานการทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อและแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ พร้อมก้าวไปสู่การใช้งานแบบ Hybrid Cloud ได้ง่ายเหมือนบริการแบบเบ็ดเสร็จ

นอกจากนี้ CSL ยังมีบริการเสริมอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการใช้ Hybrid Cloud ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น บริการ VMware Cloud on AWS ที่ช่วยให้สามารถย้าย Workload จาก Data Center ขึ้นสู่ AWS ได้อย่างรวดเร็ว หรือบริการ Express Connect สำหรับเชื่อมต่อระบบ On-premises หรือ Private Cloud ของลูกค้าไปยัง AWS และ Cloud Providers ชั้นนำอื่นๆ โดยตรง ซึ่งนอกจากจะลด Latency และค่าใช้จ่ายในการใช้บริการระบบ Cloud แล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าก้าวออกจากการใช้งานแบบ On-premises และ Public Cloud ไปสู่ Hybrid Cloud ได้อย่างเต็มตัวง่ายขึ้นอีกด้วย

CSL ให้บริการวางระบบ Hybrid Cloud ด้วย Dell Technologies แบบครบวงจร

CSL เป็นผู้ให้บริการระบบ Cloud, IT Solutions และ Data Center แบบ One-stop Shop พร้อมให้บริการการวางระบบ Hybrid Cloud โดยใช้โซลูชันจาก Dell Technologies ไม่ว่าจะเป็นบริการแบบเบ็ดเสร็จ (VxRail + VMware Cloud Foundation + VMware PKS) หรือบริหารแบบปรับแต่งตามความต้องการ CSL มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนการขึ้นระบบ Hybrid Cloud ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการเชิงธุรกิจ ออกแบบ ติดตั้ง ย้าย Workload ไปจนถึงการบริการหลังการขาย (CSL Managed Service) โดยคำนึงถึงงบประมาณและความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ

องค์กรที่ต้องการเริ่มต้นการใช้ระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็น Private, Public หรือ Hybrid Cloud รวมไปถึงยกระดับ IT Infrastructure ที่ใช้งานอยู่ให้ดียิ่งขึ้น สามารถติดต่อทีมงาน CSL ได้ที่อีเมล csl-presales@ais.co.th หรือโทร 02-263-8185

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Meta เผยแผนเล็งใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพสำหรับดาต้าเซนเตอร์

เป็นที่รู้กันว่าการประมวลผลด้าน AI ต้องการพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่ง Meta เองเป็นหนึ่งในผู้เล่นด้าน AI ยักษ์ใหญ่ที่ประสบปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงต้องมองหาพลังงานทางเลือกที่ยังต้องสอดคล้องต่อเรื่องอัตราการปลดปล่อยคาร์บอน โดยล่าสุดแนวทางการใช้ความร้อนใต้พิภพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว

โอกาสของคุณมาถึงแล้ว!!! หากคุณคือสุดยอดนักนวัตกรรมประกันภัย ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ และอยากพิชิตรางวัลระดับประเทศ…

OIC InsurTech Award 2024 เปิดรับสมัคร สตาร์ทอัพ นักประกันภัยรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมการประกวดสุดยอดนวัตกรรมด้านการประกันภัย บนเวทีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ในหัวข้อ “Limitless Insurance …