ในช่วงที่วงการ IT เมืองไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องรวดเร็วตามกระแส Digital Transformation เหล่า IT Vendor หลายๆ รายก็ถือโอกาสเข้ามาขยายตลาดในเมืองไทยกันมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Rubrik ผู้ผลิตโซลูชันด้าน Backup และ DR ที่ติดอยู่ในการจัดอันดับของ Gartner’s Magic Quadrant ด้วยเช่นกัน ทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้ศึกษาภาพรวมของผลิตภัณฑ์ Rubrik แล้ว จึงขอสรุปเนื้อหาให้ทุกท่านได้รู้จักกันไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกกันดังนี้ครับ
Rubrik: Hyper-Converged Infrastructure แห่งโลกของการทำ Backup และ DR
ถ้าหากจะให้อธิบาย Rubrik แบบจบในประโยคเดียว ก็คงต้องอธิบายว่า “Rubrik คือ Hyper-Converged Infrastructure (HCI) สำหรับการทำ Data Center Backup และ DR ที่ใช้งานได้ง่ายและ Integrate ระบบได้หลากหลาย” ซึ่งหากมองจากมุนนี้ก็ถือว่าจะต่างจากโซลูชันด้านการ Backup หรือ DR จากผู้ผลิตรายอื่นๆ อยู่ที่มักจะเป็น Software-based อยู่มากทีเดียว
แต่หากจะให้อธิบายกันอย่างเต็มรูปแบบเสียหน่อย Rubrik นี้จริงๆ แล้วถือว่าเป็นโซลูชัน Data Center Backup/DR ที่เกิดขึ้นมาในยุคสมัยของ Cloud และ HCI ดังนั้นจริงๆ แล้ว Rubrik จึงพยายามเลือกใช้สถาปัตยกรรมระบบที่ทำให้องค์กรสามารถนำไปใช้ได้อย่างง่ายดายที่สุด และยืดหยุ่นที่สุดไปพร้อมๆ กันเป็นหลัก เหมือนกับพวกผลิตภัณฑ์ที่เกิดมาในยุคหลังๆ ที่ง่ายกว่าแต่ก่อนมาก แทบไม่ต้องแตะ Command Line และมีหน้าจอ UI สวยงามให้ใช้งานได้ทันที
ความสามารถของ Rubrik นี้มีครบหมดตั้งแต่ Backup, Replication, Archive, Search, Analytics โดยรองรับทั้งการสำรองข้อมูล Physical Server, Virtual Machine และ Cloud Server ทั้งบน Windows Server, Linux, AIX, VMware ESXi, Nutanix AHV, Micropsoft Hyper-V ไปจนถึง Application ต่างๆ อย่าง Microsoft SQL Server, Oracle Database, Microsoft Exchange, Microsoft SharePoint, Microsoft Active Directory ทำให้องค์กรสามารถลงทุนระบบ Backup เพียงหนึ่งเดียว แต่รองรับการสำรองข้อมูลได้ทั้งระบบที่อยู่ภายใน Data Center ของตนเอง และระบบที่พัฒนาขึ้นมาทำงานบน Cloud
ตัว Rubrik เองนี้ผลิตภัณฑ์แรกเริ่มคือตัว Hardware ที่เป็น HCI สำหรับการทำ Backup/DR โดยเฉพาะ ซึ่งการเลือกใช้ HCI แทนที่จะเป็น Software นี้ก็ทำให้ Rubrik สามารถเพิ่มขยายแบบ Scale-Out สำหรับเพิ่มความจุและความเร็วในการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อให้สำรองข้อมูลได้เร็วขึ้น และมีความทนทานสูงในตัว ลดประเด็นปัญหาเรื่องการเลือกใช้และออกแบบ Hardware สำหรับเหล่าองค์กรไปได้ในจังหวะก่อนเริ่มติดตั้ง และยังลดความซับซ้อนโดยรวมของระบบสำรองข้อมูลและกู้คืนทั้งหมดอีกด้วย
ถัดมา สำหรับองค์กรที่มีสาขาอื่นๆ นอกเหนือจากสาขาใหญ่ ทาง Rubrik เองก็มี Software Appliance สำหรับนำไปติดตั้งที่สาขาเหล่านั้น และเชื่ีอมต่อกลับมายัง Hardware Appliance ที่สาขาหลัก เพื่อให้สามารถบริหารจัดการการ Backup ได้จากศูนย์กลาง และส่งข้อมูลมาสำรองระยะไกลกลับมาที่สาขาใหญ่ได้ด้วย
ส่วนล่าสุดนี้ Rubrik เองก็เพิ่งได้เพิ่มวิธีการติดตั้งใช้งานใหม่อีกสองรูปแบบ แบบแรกคือการใช้งาน Rubrik บนบริการ Cloud ชั้นนำอย่าง AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud Platform ส่วนแบบที่สองนั้นคือการติดตั้งระบบ Software ของ Rubrik บน Server ที่ผ่านการทดสอบร่วมกันจากผู้ผลิตรายอื่น เพื่อให้ Server เหล่านั้นทำหน้าที่เสมือนเป็น Rubrik HCI Appliance นั่นเอง เป็นทางเลือกใหม่ให้กับเหล่าองค์กรที่ต้องการใช้งาน Hardware ที่ตนเองคุ้นเคย
Rubrik นี้ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน Gartner’s Magic Quadrant for Data Center Backup and Recovery Solutions 2017 ในตำแหน่ง Visionaries โดยในปี 2017 ที่ผ่านมานี้ก็มีการเติบโตของธุรกิจสูงถึง 400% เลยทีเดียวหากนับจากปริมาณองค์กรลูกค้าที่เลือกใช้งาน Rubrik เพิ่มเติม
ผู้ที่สนใจลองตรวจสอบผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ ของ Rubrik ได้ที่ https://www.rubrik.com/product/overview/ ครับ
ตอบโจทย์ Hybrid Cloud ได้ ด้วยความสามารถที่รองรับ Cloud อย่างเต็มที่ในตัว
เนื่องจากการที่โซลูชันของ Rubrik นี้เกิดขึ้นมาในยุคสมัยของ Cloud ดังนั้นฟีเจอร์ต่างๆ จึงสามารถรองรับ Cloud ได้เป็นอย่างดี โดยหลักๆ แล้วความสามารถของ Rubrik ที่เกี่ยวข้องกับ Cloud จะมีดังนี้
-
สำรองข้อมูลหรือ Archive ข้อมูลไปยัง Cloud ทำให้สามารถใช้งานบริการ Cloud ในฐานะ Cold Storage ที่มีความคุ้มค่าสูงได้
-
กู้คืนระบบไปยัง Cloud โดยตรงด้วยการสร้าง Instance ชั่วคราวขึ้นมาทำงาน ทำให้สามารถใช้ Cloud ในฐานะของระบบ DR หรือใช้เป็นระบบ Test/Dev ก็ได้
-
สำรองข้อมูลของ Application หรือ Server บน Cloud ได้
ความสามารถกลุ่มนี้เรียกได้ว่าทำให้เหล่าองค์กรนั้นสามารถใช้งานบริการ Cloud ที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถใช้งานบริการ Cloud ต่างๆ ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยการมีการสำรองข้อมูลเพิ่มเติมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งสามารถบริหารจัดการจากศูนย์กลางร่วมกับการสำรองข้อมูลของระบบงานต่างๆ ภายในองค์กรได้นั่นเอง
ทั้งนี้ Rubrik เองก็มีความสามารถในการรองรับการให้บริการแบบ Multi-tenancy รองรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการกำหนดสิทธิ์ให้แต่ละแผนกหรือแต่ละบริษัทในเครือสามารถเข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลที่ตนเองเกี่ยวข้องเท่านั้น สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ระบบ IT มีความซับซ้อนหลากหลายและกระจายตัวสูง Rubrik ก็น่าจะเข้าไปช่วยตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ดีทีเดียว
ปัจจุบันนี้ Rubrik ยังคงรองรับบริการ Cloud เพียงแค่ AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud Platform เท่านั้น แต่ 3 ผู้บริการนี้ก็ถือเป็นผู้ให้บริการหลักที่เหล่าธุรกิจในไทยเลือกใช้งานทั้งสิ้น ดังนั้นก็น่าจะสามารถครอบคลุมความต้องการของหลายๆ องค์กรได้แล้ว
ใช้กลยุทธ์ API First: ทำงานร่วมกับอุปกรณ์และโซลูชันอื่นได้หลากหลาย รองรับการทำ Automation ได้ทันที
อีกหนึ่งสิ่งที่ Rubrik ให้ความสำคัญมากในผลิตภัณฑ์ก็คือการพัฒนา API เพื่อให้เชื่อมต่อการทำงานกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ดี เพราะ Rubrik เชื่อว่าการทำ Automation นั้นจะเป็นหนทางที่จะช่วยให้เหล่าผู้ดูแลระบบ IT สามารถประหยัดเวลาลงได้อย่างมหาศาล และช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการ Integrate เข้ากับระบบต่างๆ เพื่อเปลี่ยนให้การสำรองข้อมูลและกู้คืนนั้นกลายเป็นแบบ Self-Service, การส่งออกข้อมูลเพื่อนำไปใช้งานในระบบ Analytics, การทำงานร่วมกับ Virtualization หรือ SAN Storage หรือ Tape Storage เพื่อสร้าง Backup Workflow ที่ต้องการโดยอัตโนมัติ, การทำงานร่วมกับระบบสำรองข้อมูลเฉพาะของ Database แต่ละค่ายเพื่อให้ฝ่าย DBA ยังคงทำงานต่อไปด้วยเทคโนโลยีเดิมได้ และการสำรองข้อมูลมาจัดเก็บในรูปแบบ Immutable ที่ไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงหรือทำลายจากภายนอกได้ เพื่อป้องกันกรณีถูกโจมตีด้วย Ransomware
สนใจติดต่อ Rubrik ได้โดยตรง
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ Rubrik และต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม, ต้องการทดสอบเทคโนโลยี หรือต้องการใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงาน Rubrik ได้ทันทีที่ Email tanade.sattarujawong@rubrik.com หรือโทร 0816324440 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Rubrik ได้ที่ https://www.rubrik.com/