เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Red Hat, Inc ผู้ให้บริการโซลูชั่น Open-source ระดับโลก ได้เปิดตัวแพลทฟอร์ม Red Hat Enterprise Linux OpenStack 5 ที่ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการสร้างระบบคลาวด์ที่ขับเคลื่อนโดย OpenStack ให้กับผู้ใช้งานระบบคลาวด์ขั้นสูง, Telco, ISP และผู้ให้บริการระบบคลาวด์สาธารณะ
Red Hat Enterprise Linux OpenStack นำเสนอระบบคลาวด์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่บน Red Hat Enterprise Linux ที่ผนวกรวมระบบวิศวกรรมเข้ากับเทคโนโลยี Red Hat’s OpenStack ทำให้การใช้งานระบบ IT ในองค์กรมีความเสถียร ปรับขยายได้อย่างคล่องตัว และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สูญเสียความพร้อมในการทำงาน ความปลอดภัย หรือประสิทธิภาพ
Red Hat Enterprise Linux OpenStack 5 ทำงานบน OpenStack Icehouse และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อช่วยให้องค์กรปรับใช้งานเทคโนโลยี OpenStack ให้เข้ากับ Data Center ที่มีอยู่แล้วได้ง่าย และเพิ่มความสามารถในการทำให้แพลทฟอร์มระบบคลาวด์มีความเสถียรและความน่าเชื่อถือมากขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้ประกอบด้วย
- สนับสนุนการใช้งานตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยให้บริการที่มีเสถียรภาพและสนับสนุนสภาพแวดล้อมของระบบคลาวด์ในองค์กรอย่างเต็มที่ ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทีมบริการที่ได้รับการรับรองระดับโลก รวมทั้งพันธมิตรด้าน OpenStack ที่ได้ใบรับรองกว่า 250 ราย รวมถึงความร่วมมือร่วมกันระหว่างนักซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และพันธมิตรด้านการให้บริการนับร้อยๆราย
- สนับสนุนการทำงานร่วมกับโครงสร้างพื้นฐาน VMware ซึ่งครอบคลุมระบบ Virtualization, การบริหารจัดการ, ระบบเครือข่าย และระบบจัดเก็บข้อมูล ลูกค้าสามารถใช้ VMware vSphere ที่มีอยู่แล้วเป็น Virtualization Driverให้กับ OpenStack Compute (Nova) Node ที่มีการบริหารแบบไร้รอยต่อจาก OpenStack Dashboard (Horizon) นอกจากนี้ ยังสนับสนุน VMware NSX Plug-in สำหรับ OpenStack Networking (Neutron) และ VMware Virtual Machine Disk (VMDK) Plug-in สำหรับ OpenStack Block Storage (Cinder) อีกด้วย
- เพิ่มประสิทธิภาพการจัดวาง Workload ในระบบคลาวด์ให้ดีขึ้น กลุ่มเซิฟเวอร์ช่วยให้ปริมาณงานกระจายไปได้ทั่วระบบคลาวด์ใน OpenStack เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นของแอพลิเคชั่นที่กระจายตัวอยู่ รวมทั้งสามารถจับตำแหน่งคร่าวๆ ในช่วงการใช้งานต่ำๆ และทำให้การใช้งานแอพลิเคชั่นที่สลับซับซ้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เพิ่มสมรรถนะในการใช้งานร่วมกับ Virtual Machine และสนับสนุนข้อกำหนดด้านการเข้ารหัสความปลอดภัยใหม่ๆจากประเทศสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร โดยในขั้นตอนการเข้ารหัสการใช้งานทั่วไป จะสามารถเข้าถึงการเข้ารหัสที่มีคุณภาพดีกว่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ด้วยการใช้ Para-virtualized Random Number Generator ที่เป็นฟีเจอร์เพิ่มใน Red Hat Enterprise Linux 7
- เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันของ Stackในระบบเครือข่าย สถาปัตยกรรมใหม่ในรูปแบบ Plug-in ของ Neutron ทำให้การใช้งาน OpenStack ด้วยเทคโนโลยีระบบเครือข่ายใหม่ๆสามารถทำได้สะดวกขึ้น สถาปัตยกรรมใหม่นี้นำเสนอช่องทางสำหรับลูกค้าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของระบบเครือข่ายที่หลากหลาย ที่ต้องการใช้โซลูชั่นระบบเครือข่ายแบบผสมผสานในสภาพแวดล้อม OpenStack ของตน
นอกจากนี้แพลทฟอร์ม Red Hat Enterprise Linux OpenStack 5 ยังให้บริการ OpenStack Data Processing (Sahara) ซึ่งอยู่ในช่วงการทดสอบ ช่วยให้สามารถทำการ Provisioning ได้เร็วขึ้น และบริหารจัดการ Hadoop Cluster บน OpenStack ได้ง่ายขึ้น Hadoop มีไว้เพื่อจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล เมื่อรวมกับ Sahara แล้วจะเกิดแพลทฟอร์มอันทรงพลังที่สามารถสร้างแอพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และนำไปใช้งานบนระบบคลาวด์แบบ Hybrid ได้ทันที
การวางจำหน่าย
Red Hat Enterprise Linux OpenStack 5 พร้อมด้วยระบบวิศวกรรมของ Red Hat Enterprise Linux 7 เปิดวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ว
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Red Hat’s OpenStack offerings
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Red Hat Enterprise Linux OpenStack Platform