Oracle และ AWS ประกาศเปิดตัวบริการ Oracle Database@AWS

Oracle และ AWS ประกาศความร่วมมือระหว่างบริษัท พร้อมเปิดตัว Oracle Database@AWS

Oracle และ Amazon Web Services (AWS) ได้ประกาศเปิดตัว Oracle Database@AWS ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง Oracle Autonomous Database บน Infrastructure แบบแยกพิเศษและ Oracle Exadata Database Service ภายใน AWS ได้ บริการนี้ช่วยให้การใช้งานระหว่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) และ AWS ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น

Oracle Database@AWS มีจุดเด่นดังนี้

  • การบริหารจัดการฐานข้อมูลที่ง่ายขึ้น
  • การเชื่อมต่อแบบ low latency ระหว่างฐานข้อมูล Oracle และแอปพลิเคชันบน AWS
  • รองรับการใช้งาน Zero-ETL ระหว่างบริการฐานข้อมูล Oracle และบริการ AWS Analytics ต่างๆ
  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการย้ายฐานข้อมูล Oracle ไปยังคลาวด์ รองรับเครื่องมือ Oracle Zero Downtime Migration
  • การจัดซื้อที่ง่ายขึ้นผ่าน AWS Marketplace และรองรับ Bring Your Own License (BYOL) รวมถึง Oracle Support Rewards (OSR)
  • การสนับสนุนลูกค้าแบบครบวงจรจากทั้ง AWS และ Oracle

บริการใหม่นี้คาดว่าจะเปิดให้ทดลองใช้ภายในปีนี้ โดยสามารถเปิดใช้งานผ่าน AWS Management Console, CLI, และ AWS CloudFormation และจะพร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2025 โดยมีแผนจะขยายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

ที่มา: https://www.prnewswire.com/news-releases/oracle-and-amazon-web-services-announce-strategic-partnership-302242532.html

About เด็กฝึกงาน TechTalkThai หมายเลข 1

นักเขียนผู้มีความสนใจใน Enterprise IT ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในไทย ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่ Cupertino, CA แต่ยังคงมุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีให้กับทุกคน

Check Also

Sertis จับมือ Google จัดสัมมนายกระดับการตลาดด้วย Generative AI [PR]

บริษัท เซอร์ทิส จำกัด ผู้นำด้านโซลูชันดาต้าและเอไอชั้นนำในอาเซียน นำโดย คุณธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง (คนกลาง) คุณเจมส์ แมคกรอว์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ (คนที่สองจากขวา) เรียนเชิญนักการตลาด ผู้นำด้านนวัตกรรม …

UnifyApps ระดมทุน 20 ล้านดอลลาร์ ใช้ AI ตอบโจทย์การทำงานอัตโนมัติสำหรับองค์กร

UnifyApps สตาร์ทอัพน้องใหม่ที่ให้บริการชุดเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ได้รับเงินทุน Series A จำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจาก ICONIQ Growth