IBM Flashsystem

OpenStack เข้าสู่การดูแลโดย Linux Foundation

The Linux Foundation อ้าแขนต้อนรับโปรเจ็ค OpenStack โดยจะกลายเป็นผู้ผลักดันโปรเจ็คโอเพ่นซอร์สยอดนิยมถึง 3 ตัวคือ Linux, Kubernetes และ OpenStack

OpenStack เกิดขึ้นในปี 2010 จาก Rackspace และ NASA เพื่อการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ส่วนตัวที่ให้บริการคล้ายกับ AWS ต่อมาก็กำเนิดผู้ผลักดันโปรเจ็คที่เรียกว่า OpenStack Foundation และก็คล้ายๆกระแสจะแผ่วลงจนนำไปสู่การเปลี่ยนชื่อในปี 2021 เป็น The Open Infrastructure Foundation ที่หวังส่งต่อไปให้ the Linux Foundation ซึ่งมีผลงานที่โดดเด่นจาก Kubernetes ทำให้ OpenStack ดูเหมือนเป็นเทคโนโลยีที่จากอดีต แต่ล่าสุดที่ VMware ระส่ำระสายทำให้องค์กรจำนวนหนึ่งเริ่มมองทางเลือกของ Private Cloud

The Linux Foundation เป็นองค์กรไม่แสดงหาผลกำไรที่อยู่เบื้องหลังโปรเจ็คโอเพ่นซอร์สสำคัญมากมายทั้ง the Cloud Native Foundation (CNCF), PyTorch, OpenSearch, RISC-V และอื่นๆ โดยล่าสุดคือ The Open Infrastructure Foundation จะเข้าทำงานภายในการดูแลของ The Linux Foundation และปัจจุบันมีการออกพิมพ์เขียวที่สนับสนุน Infrastructure ที่เป็นโอเพ่นซอร์สโดย 3 พี่ใหญ่อย่าง Linux, OpenStack และ Kubernetes

อย่างไรก็ตาม The Open Infrastructure Foundation ยังมีโปรเจ็คอื่นในมือ เช่น Kata Container, StarlingX (Edge Computing Platform), Zuul (CI/CD Platform) และ Airship (Software Management) ซึ่งโปรเจ็คเหล่านี้ภายใต้บ้านใหม่ก็อาจจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นด้วย

ที่มา : https://techcrunch.com/2025/03/12/openstack-comes-to-the-linux-foundation/

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Cloudian ปล่อยตัวเชื่อมต่อ PyTorch รองรับ RDMA ช่วยประมวลผลข้อมูล AI เร็วขึ้น

บริษัทบริหารจัดการข้อมูลคลาวด์ไฮบริด Cloudian ประกาศเปิดตัวตัวเชื่อมต่อ PyTorch รุ่นใหม่ที่รองรับ Remote Direct Memory Access (RDMA) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับเวิร์กโหลดปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง

Google แชร์อัปเดตล่วงหน้า Black Hat และ DEF CON ใช้ AI เสริมความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

Google กำลังเร่งขยายการดำเนินงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ด้วยการประกาศข่าวสำคัญหลายรายการในสัปดาห์นี้ ก่อนงานประชุม Black Hat USA และ DEF CON 33 ที่จะมีขึ้นในต้นเดือนสิงหาคม