จากบทสัมภาษณ์ของ CEO แห่ง NVIDIA คุณ Jensen Huang ในช่อง No Priors: AI, Machine Learning, Tech, & Startups ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดว่า ณ ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในยุคที่การขยายตัว (Scaling) แบบดั้งเดิมกำลังจะจบสิ้น และกำลังจะเป็นรูปแบบใหม่ที่เขาเรียกว่า “Hyper Moore’s Law”
“พวกเรากำลังจะอยู่ในช่วงเส้นที่อาจจะเรียกว่าเป็น Hyper Moore’s Law และฉันหวังจริง ๆ ว่าพวกเราจะยังคงทำสิ่งนั้น” CEO แห่ง NVIDIA คุณ Jensen Huang กล่าว ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นถึง Paradigms Shift อีกครั้งในโลกของการประมวลผล (Computing) ที่ประสิทธิภาพของชิปหน่วยประมวลผลจะขยายไปได้ไกลกว่าเดิม
โดยประวัติศาสตร์แล้ว กฎของมัวร์ (Moore’s Law) คือแนวคิดที่ว่าจำนวนทรานซิสเตอร์ (Transistor) ในแผงวงจรรวม (Integrated Circuit) จะเพิ่มเป็นสองเท่าในทุก 2 ปีโดยราคาจะยังคงที่หรือลดลงไป หากแต่ในทางปฏิบัติจะหมายถึงประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและราคาจะถูกลงเรื่อย ๆ เป็นเท่าตัวในทุก 2 ปี
แต่ดูเหมือนว่า Moore’s Law อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับวิวัฒนาการของหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดดแล้วในยุคนี้ ซึ่งคุณ Jensen Huang ได้วิธีการ “ออกแบบร่วมกัน (Codesign)” หรือการพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ร่วมกันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้นคืออนาคต ที่จะต้องปรับเปลี่ยนไปมาทั้ง 2 ฝั่งให้ได้ในจุดที่เหมาะสมที่สุด
และหนึ่งในสิ่งที่พิสูจน์ว่า Moore’s Law อาจใช้ไม่ได้แล้วในยุคนี้คือสถาปัตยกรรม Blackwell ของ NVIDIA สำหรับ Data Center ยุคใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในพลังการประมวลผลอย่างก้าวกระโดด ซึ่ง คุณ Jensen Huang กล่าวว่า NVIDIA ใช้เวลาเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้นในการเพิ่มพลังความสามารถในการประมวลผลได้ราว 1,000 เท่าเลยทีเดียว
สำหรับบทสัมภาษณ์เต็มของคุณ Jensen Huang กับทาง @NoPriorsPodcast สามารถรับชมได้ที่นี่