IBM Flashsystem

NVIDIA Omniverse Enterprise เชื่อมโยงการผลิตวิดีโอและฝาแฝดดิจิทัล ผ่านการทำงานร่วมกันแบบเสมือนจริง [Guest Post]

ปัจจุบันเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของพลังการประมวลผลจาก GPU อุตสาหกรรมภาพยนตร์ โฆษณา และมิวสิกวิดีโอจึงได้นำเทคนิคการผลิตเสมือนจริงต่าง ๆ มาใช้มากขึ้น ซึ่งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถเอาชนะความท้าทายด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมลดต้นทุนการผลิตภาพยนตร์ลงได้มาก รวมทั้งยังเพิ่มความประสิทธิภาพ ความสมบูรณ์ในองค์ประกอบภาพและความยืดหยุ่นในการทำงาน   อย่างไรก็ตามการสื่อสารก่อนการถ่ายทำงานที่ยุ่งยากและขั้นตอนหลังการถ่ายทำที่มีความซับซ้อนถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมบันเทิง  ดังนั้นการมีเครื่องมือช่วยในกระบวนการสร้างภาพยนตร์เสมือนจริงที่คล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพจึงเป็นคำตอบของคนทำงาน  “Luputa Studio” และ “Cogito Marketing”  ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านโฆษณาทางทีวีและการผลิตมิวสิควิดีโอ ได้ร่วมมือกับ LeadTek  ทำการทดสอบและใช้แพลตฟอร์มกับการทำงานร่วมกันของ NVIDIA Omniverse Enterprise

ปฏิวัติการผลิตวิดีโอแบบเดิมด้วย NVIDIA Omniverse Enterprise

ถึงแม้ว่าสตูดิโอสร้างกราฟิกเสมือนจริงในภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีและมิวสิควิดีโอจะมีจำนวนมาก แต่ Luputa Sun ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luputa Studio เชื่อว่าในขั้นตอนหลังการผลิตยังมีความยาก เพื่อสนับสนุนเหตุผลข้างต้นทางผู้กำกับ Jesse Chu จาก Cogito Marketing  กล่าวเสริมว่า ก่อนการผลิตโฆษณาทางทีวีและมิวสิควิดีโอแบบดั้งเดิมจะทำขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนบนกระดาษ การทำงานร่วมกันเพื่อประสานความคิดอย่างแม่นยำกับหลายฝ่ายจึงเป็นเรื่องท้าทาย

สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองส่วน โดยการส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิตเสมือนจริงและปฏิวัติกระบวนการสร้างภาพยนตร์ให้เป็นอิสระจากรูปแบบการผลิตภาพยนตร์แบบเดิม ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัล พร้อมกันนี้พวกเขาตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและปรับการใช้ต้นทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น เมื่อโครงการกำหนดให้ต้องเพิ่มโมเดลต้นไม้ขนาดใหญ่ในฉาก แผนกต่าง ๆ จะมีข้อจำกัดความและวิธีการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องใช้เวลามาก

นอกจากนี้ การกำหนดพื้นที่ในการเซ็ทฉากหลักก็เป็นเรื่องยาก ซึ่งส่งผลกับการกำหนดงบประมาณหากฉากที่ใช้มีจำนวนมาก อย่างไรก็ตามในระหว่างการถ่ายภาพจริง จุดโฟกัสของกล้องอาจถูกจำกัดไว้ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งแทนที่จะเป็นทิวทัศน์ทั้งหมด ส่งผลให้มีต้นทุนเพิ่มและขัดแย้งกับเป้าหมายในการช่วยลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม

นอกเหนือจากความท้าทายก่อนการผลิตแล้ว การผลิตโฆษณายังมีข้อจำกัดของนักแสดง ซึ่งนำไปสู่การใช้สตูดิโอเสมือนสำหรับการถ่ายทำ ตามด้วยงานหลังการผลิตโดยใช้เทคโนโลยี 3 มิติ  ซึ่งคุณคาดการณ์ต่อได้ว่าในขั้นตอนเหล่านี้จะใช้เวลามากขึ้น รวมถึงการแก้ไขจนถึงอนุมัติงานของลูกค้า

“Luputa Sun” อธิบายเพิ่มเติมว่า “เนื่องจากขนาดไฟล์ที่ใหญ่ การอัปโหลดและดาวน์โหลดเพียงอย่างเดียวอาจใช้เวลานานมาก นอกจากนี้ หลังจากที่ลูกค้าหรือผู้กำกับให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิดีโอ แม้ว่าทีมแอนิเมชันจะแก้ไขเสร็จสิ้นในวันถัดไป แต่จะใช้เวลาอย่างน้อย 3 วันสำหรับฟีดแบ็ครูปทั้งหมด ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม กระบวนการทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ทำให้ขั้นตอนหลังการผลิตใช้เวลานานมาก ดังนั้นเราจึงกระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนแปลง”

แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อ Jesse Chu พบว่า Leadtek แสดงให้เห็นถึงพลังของ NVIDIA Omniverse Enterprise ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ตอบโจทย์การทำงานให้กับพวกเขา

NVIDIA Omniverse Enterprise ช่วยเร่งความเร็วอย่างมากในการสร้างกราฟิก 3 มิติ

เมื่อเทคโนโลยีซอฟต์แวร์การสร้างกราฟิก 3 มิติ เติบโตขึ้นและมีพลังการประมวลผลเพิ่มขึ้น การผลิตกราฟิก 3 มิติ จึงเป็นรูปแบบที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่สามารถทดสอบความสามารถในการออกแบบร่วมกันของทีมได้อย่างแท้จริง  และในยุคการทำงานทางไกลซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดโควิดที่ผ่านมา กระบวนการผลิตแบบเสมือนจริงจึงจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของเครื่องมือซอฟต์แวร์หลายตัว และความแตกต่างของรูปแบบไฟล์ ทำให้เกิดความท้าทายอย่างมากต่อการทำงานร่วมกันแบบเสมือนให้มีประสิทธิภาพและราบรื่น

 ซึ่ง NVIDIA Omniverse Enterprise ทำได้โดย Leadtek ได้นำเสนอแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันและการจำลองอย่างเต็มรูปแบบที่สามารถเชื่อมต่อทีมระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อทำงานอย่างกลมกลืนและมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิผลมากขึ้น

Luputa Sun เองก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องมือ 3 มิติ แต่เน้นย้ำว่าแต่ละฟังก์ชันมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้เครื่องมือซอฟต์แวร์หลายตัวสำหรับการผลิตกราฟิกเสมือนจริง ในอดีต ที่เทคโนโลยีมีจำกัด การทำงานร่วมกันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้ NVIDIA Omniverse Enterprise ซึ่งสนับสนุนเครื่องมือ 3D หลักต่าง ๆ และช่วยให้สมาชิกข้ามทีมสามารถแก้ไขฉากเดียวกันบนแพลตฟอร์มเดียวได้ ควบคู่ไปกับการใช้กราฟิกการ์ดระดับมืออาชีพ NVIDIA RTX ซีรีส์ ในแบ็กเอนด์ การเรนเดอร์งานสามารถทำได้ภายในไม่กี่นาที  ซึ่งหมายความว่าในระหว่างการประชุมออนไลน์ การตอบกลับ    คำติชมจากผู้กำกับและลูกค้าสามารถทำได้ทันที  ดังนั้นจึงลดขั้นตอนการแก้ไขงานกลับไปกลับมาและอาจช่วยประหยัดเวลาได้อย่างน้อย 50%

Motion Board สร้างขึ้นได้ดีที่สุดด้วย Omniverse Machinima

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันและการจำลองของ NVIDIA Omniverse Enterprise ยังมีเวอร์ชันทดลองในตัวของ Omniverse Machinima ซึ่งมีโมดูล ฟังก์ชัน และฐานข้อมูลมากมายเพื่อให้ศิลปินด้านเทคนิค ผู้สร้างเนื้อหา และมืออาชีพสามารถสร้างภาพเหมือนภาพยนตร์หรือเกมคุณภาพสูงโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือการเรนเดอร์ที่มีความเที่ยงตรงสูง

นอกจากนี้ คุณสมบัติการจับการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกยังใช้ฟังก์ชันการทำนายท่าทางของปัญญาประดิษฐ์ใหม่ที่สนับสนุนโดย NVIDIA Maxine AR SDK ทีมออกแบบสามารถจับภาพการเคลื่อนไหวของมนุษย์โดยใช้อุปกรณ์พกพาหรือเว็บแคมเพื่อจำลองการเคลื่อนไหวของตัวละครอนิเมชั่น 3 มิติให้ใกล้เคียงกับชีวิตจริง แพลตฟอร์มนี้ยังรวมถึงไลบรารีวัสดุ NVIDIA MDL ซึ่งให้พื้นผิว วัสดุ และพื้นผิวของตัวละครและการตั้งค่ามีลักษณะเหมือนจริง เมื่อรวมกับตัวเรนเดอร์ Omniverse RTX ที่รองรับ multi-GPU คุณสามารถสร้างฉากที่สมจริงอย่างที่สุดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายกว่าที่เคยเป็นมา

“ความสามารถที่แข็งแกร่งของ Omniverse Machinima ช่วยให้เราสามารถผลิตกระดานเคลื่อนไหวโดยใช้เวลาและต้นทุนน้อยที่สุด ซึ่งช่วยปรับปรุงการสื่อสารก่อนการผลิตได้อย่างมาก” Jesse Chu กล่าว แง่มุมนี้เพียงอย่างเดียวแสดงถึงความสำเร็จครั้งสำคัญ ก่อนการถ่ายทำ นักแสดงสามารถดูวิดีโอสาธิต ซึ่งช่วยลดเวลาที่จำเป็นในการดื่มด่ำกับสถานการณ์ที่จำเป็น นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการสร้างภาพยนตร์เสมือนจริง  จากการเปรียบเทียบทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย วิดีโอสาธิตความยาว 3-4 นาที หนึ่งครั้งต้องใช้คน 4 คนและตอนนี้เวลา 1 สัปดาห์จะถูกเร่งให้เหลือเพียงวันเดียว ซึ่งช่วยประหยัดเงินและเวลาได้อย่างมาก

ในฐานะพันธมิตรของ NVIDIA ทาง Leadtek มีบริการแพลตฟอร์มประสบการณ์ NVIDIA Omniverse Enterprise โดยเฉพาะ ในขณะที่ให้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็นล่วงหน้าและเครื่องมือการออกแบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันได้ทันที

สิ่งเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกลผ่านเว็บเบราว์เซอร์ธรรมดาผ่านบริการ NVIDIA Omniverse Enterprise Test Drive ของ Leadtek ฮาร์ดแวร์ที่ให้บริการคือระบบที่ได้รับการรับรองจาก NVIDIA พร้อมเซิร์ฟเวอร์ WinFast GPU ที่ขับเคลื่อนด้วย NVIDIA RTX professional GPU

คลิกลิงค์เพื่อทดลองใช้บริการ ทดลองและทดสอบ NVIDIA Omniverse Enterprise (leadtek.com) https://www.leadtek.com/event/omniverse_testdrive/index.html

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Cloudflare ยืนยัน 1.1.1.1 ล่มจากการตั้งค่าผิด ไม่ใช่การโจมตีหรือ BGP Hijack

Cloudflare ออกมาชี้แจงว่าเหตุการณ์บริการ 1.1.1.1 Resolver ล่มเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดจากการตั้งค่าภายในผิดพลาด ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์หรือ BGP hijack อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด

AWS เปิดตัวเครื่องมือพัฒนา AI และระบบจัดเก็บข้อมูล Vector ใหม่

Amazon Web Services ประกาศเปิดตัวชุดเครื่องมือใหม่สำหรับพัฒนา AI Agent พร้อมทั้ง Amazon S3 Vectors ระบบจัดเก็บข้อมูล Vector ที่ประหยัดต้นทุนได้ถึง 90%