นักวิจัยพบ Botnet ที่พัฒนาต่อยอดจาก Mirai Botnet กำลังโจมตีอุปกรณ์ IoT ด้วยช่องโหว่ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน โดยมีโหนดที่ติดมัลแวร์กว่า 15,000 เครื่อง
ทีมวิจัยจาก Chainxin X Lab รายงานว่า Botnet ตัวนี้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และได้พัฒนาความสามารถในการโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายน 2024 เริ่มใช้ช่องโหว่ Zero-day หลายรายการ รวมถึง CVE-2024-12856 บน Industrial Router ของ Four-Faith และช่องโหว่ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยบนอุปกรณ์ของ Neterbit และ Vimar
Botnet นี้มีเป้าหมายหลักในการโจมตีแบบ DDoS เพื่อสร้างรายได้ โดยพุ่งเป้าไปที่องค์กรหลายร้อยแห่งต่อวัน ด้วยการโจมตีที่มีความเข้มข้นสูงถึง 100 Gbps แม้จะมีระยะเวลาสั้นเพียง 10-30 วินาที นอกจากนี้ยังใช้การแพ็กโค้ดด้วย UPX แบบกำหนดเอง และมีโมดูลสำหรับการ Brute-force รหัสผ่าน Telnet โดยอุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน, สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, ตุรกี, และอิหร่าน ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตอุปกรณ์เป็นเวอร์ชันล่าสุด, ปิดการเข้าถึงจากภายนอกหากไม่จำเป็น, และเปลี่ยนรหัสผ่านผู้ดูแลระบบจากค่าเริ่มต้น