เมื่อการทำงานในปัจจุบัน ศูนย์กลางไม่ได้อยู่ที่ สำนักงาน หรือ Office อีกต่อไป การทำงานในแต่ละวันของพนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ มีการทำงานนอกเครือข่ายของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น ผู้ใช้มีคาดหวังความสะดวกสบายในการใช้งานเช่นเดิมเสมือนนั่งอยู่ในสำนักงาน ความคาดหวังการทำงานลักษณะเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ฝ่าย IT คำนึงถึง และให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ความซับซ้อนในการทำงาน การปฏิบัติงาน และการส่งมอบความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิด User experience ที่ดี รวดเร็ว รวมไปถึงความปลอดภัยของข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการนำเครื่องของบริษัทฯ (Corporate Own Device: COD) หรือ การนำเครื่องส่วนตัว (Bring Your Own Device: BYOD) มาใช้ในการทำงานอีกด้วย

ใช่คะ เรากำลังกล่าวถึง Platform ที่ช่วยให้การทำงานคุณ ไม่ว่าจะทำงานภายใน หรือ ภายนอกเครือข่าย มีการทำงานผ่านอุปกรณ์ปลายทาง endpoint หลากหลาย รวมถึงการบริหารจัดการที่ง่าย และสะดวกไว้ในหน้าต่างเดียว (Single Pane) แต่ทว่า การทำงานด้วยพีซี (Personal Computer :PC) ยังคงเป็นหัวใจสำคัญหลักของการทำงาน ที่ทุกคนคุ้นเคย สามารถทำงานได้สะดวกสบายคล่องตัว ผู้ใช้งานมี user experience ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานในทุกวันนี้
ซึ่ง Fusion Advantec Co. Ltd. และ Vmware (Thailand) ขอแนะนำ Platform Modern Management of Windows 10 ได้พร้อมใช้งานแล้ว มีความสามารถของ Platform รวมไปถึง Feature โดยสรุป ดังนี้

1. VMware Workspace ONE combine complete cloud-based
สามารถบริหารจัดการ Windows 10 โดยอัติโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ให้กับผู้ใช้งาน และลดความยุ่งย่างให้กับฝ่าย IT เพราะสามารถจัดการ Device ผ่าน Web Cloud Console ประกอบกับมีการ Update ทั้ง Modern App , Window Version ใหม่ ๆ ที่ทันสมัยอยู่เสมอ และการบริหารจัดการ สามารถทำเป็น Real Time จาก Cloud ได้ทันที
2. Simplified Device Onboarding
การกำหนดค่าติดตั้งการใช้งาน ต่าง ๆ โดยสามารถ Manage Windows 10 สำหรับการตั้งค่าพีซี PC (Personal Computer) ที่ใช้งานได้ง่าย และมีความพร้อมใช้งานทันที ตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก ด้วยความยืดหยุ่นของ Platform VMware ในการตั้งค่าข้างต้นนี้ ผู้ใช้งานสามารถเปิดอุปกรณ์ขึ้นมา เชื่อมต่อไปยัง platform ผ่าน Internet ก็สามารถทำให้ผู้ใช้งาน หรือกรณีมีพนักงานเข้าใหม่ ได้รับเครื่อง PC ในการทำงาน สามารถใช้งานเครื่องได้ทันที ง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้งานแบบนี้ ยังลดภาระงาน Operation ที่ไม่จำเป็นลงของฝ่าย IT เพราะผ่านจัดการที่ศูนย์กลางPlatform ของ Vmware ในที่เดียว
3. Configuration
การตั้งค่า สามารถตั้งค่า Policy สำหรับการใช้งาน ตาม Group ผู้ใช้งานได้ สามารถใช้งานร่วมกับ Mobile Device ได้ และการกำหนดการตั้งค่า Configuration ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น GPO Policy / Baseline Policy หรือ ต้องการปรับเปลี่ยน การตั้งค่าได้แบบ real-time รวมถึง Asset Tacking ที่สามารถตรวจสอบได้ผ่าน Web Cloud Console ซึ่งทำให้สามารถติดตาม Device Asset ได้อีกด้วย
4. OS Updates / Patching
สามารถ ทำ OS update ได้แบบอัตโนมัติ และสามารถตั้งค่า หรือปรับแต่งกำหนดค่าได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ดูแลระบบในการบริหารจัดการ OS อีกทั้ง สามารถกำหนดค่า Update Windows เช่น Windows Update Source / Automatic Updates / Update Policies / Update Installation Behavior ต่างๆ ในการ Assign เราสามารถแยกได้ว่าจะ Assign ให้กับ Group / Device / User หรือ ทั้งหมดสามารถปรับแต่ง กำหนดค่าได้
5. App Management
มีความสามารถที่จะบริหารจัดการ Lifecycle Application ตั้งแต่การ Deploy Application / update Version / Remove Application สามารถกระจาย Application ในแบบ Peer-to-Peer สามารถจัดการทำ App ขององค์กร รวมไปถึง Public App ได้ด้วย รวมไปถึงการทำ Inventory App และกำหนด Single Sign On (SSO) ระบุตัวตนผู้ใช้งาน กำหนด role , group ในการเข้าใช้ Application รวมไปถึง การทำ Catalogue ให้กับ Application ส่งมอบ footprint software ให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. Security
มีความสามารถตรวจสอบกำหนดค่าความปลอดภัย เช่น Secure Boot, BitLocker, Code Integrity Check , Early Launch Anti-Malware, Boot App Security Version Number, Software Version Identifiers เป็นต้น ยังสามารถเขียน Command Sensors เพื่อตรวจสอบการทำงานของ Hardware / Software เพิ่มเติมได้
7. VPN (Virtual Private Network)
การใช้งาน Resource ต่าง ๆ เสมือนนั่งอยู่ในสำนักงาน ผ่านการใช้บริการระบบเครือข่ายภายในองค์กร ผู้ใช้งานสามารถใช้งานโดยอาศัยเครือข่ายสาธารณะได้ ( Public Network ) หรือ Internet โดยที่พนักงานสามารถเชื่อมต่อ VPN (Virtual Private Network) และสามารถนั่งทำงานอยู่สถานที่ใด ๆ ก็สามารถทำงานได้ แต่คงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เสมือนนั่งอยู่ในสำนักงาน เช่น การใช้งานผ่าน app ไม่ว่า app นั้น จะอยู่ ภายใน หรือภายนอก ก็สามารถทำงานได้ ยกตัวอย่าง การจะเข้าใช้งาน Application SAP ภายในองค์การ สามารถเข้าผ่าน web intranet ได้ เป็นต้น การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่าย สะดวกสบาย ทำงานแบบ Auto Connect ซึ่งฝ่าย IT สามารถตั้งค่า Per-App Vpn หรือ สามารถระบุได้ว่าจะให้ Domain ใด เชื่อมต่อ VPN ได้นอกเหนือจาก Domain นั้นสามารถตั้งค่าให้ทำการ By-pass การเข้าใช้งาน ก็สามารถทำได้อีกด้วย
8. Self-Service and Remote Support
หากทางผู้ใช้งาน พบปัญหาในการทำงาน และต้องการความช่วยเหลือ ในการแก้ไขโดยเร่งด่วน หรือ ต้องการโต้ตอบ การสื่อสารระหว่างกันกับฝ่าย IT สามารถทำการ Remote ไปยัง เครื่อง device ของผู้ใช้งาน และทำการแก้ไขปัญหาในเวลาสั้นๆ เพิ่มความสะดวกสบาย ลดงานด้าน Operation Cost ได้เป็นอย่างดี พร้อมประสิทธิภาพที่มีความปลอดภัยของข้อมูล ขณะที่ทำการ Remote ด้วย
9. Compliance Policy
ฝ่าย IT สามารถอนุญาตให้ผู้ใช้งานนำเครื่องส่วนตัว (Bring Your Own Device : BYOD) มาใช้งานได้ในการทำงานได้ เพื่อความสะดวก คล่องตัว และยังสามารถตั้งค่า Windows Health Attestation เพื่อตรวจสอบทราบถึง ความปลอดภัยของข้อมูลภายในองค์กร อีกทั้ง ยังสามารถตั้งค่า ตรวจช่องโหว่ด้านความปลอดภัย หรือ ภัยคุกคาม รวมถึง Secure Boot, Code Integrity, BitLocker และ Boot Manager ได้
รายละเอียดเพิ่มเติม -> https://www.youtube.com/watch?v=nWQiYjyHEu8
ที่มา : https://www.vmware.com/solutions/modern-endpoint-management.html
สนใจสินค้า และบริการ ของ Vmware Product

ติดต่อ Fusion Advantec Co., Ltd.
ฝ่ายขาย Tel. +66 2 079 1860 กด 1
หรือ ติดต่อ คุณสุทธินันท์ Tel. 081-923-3660
Email: info@fusion.co.th
Website: https://www.fusion.co.th/