TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
กรุงเทพ 1 ธันวาคม 2558 – แนวโน้มการทำงานและการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ ต่างมุ่งไปสู่กระแสของโมบายและคลาวด์ ( Mobile-first, Cloud-first ) องค์กรทั่วโลกที่ต่างวิ่งเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีจึงมีบทบาทสำคัญในการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้จำกัดเฉพาะการทำงานในรูปแบบเก่า ๆ ต่อไป ปัจจุบัน หลาย ๆ องค์กรต่างนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน สร้างความพร้อมในการแข่งขันทางธุรกิจเพื่อผลักดันให้องค์กรประสบความสำเร็จและตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับไว
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ จัดงาน Solutions Summit 2015 นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี บนแนวคิด Empower the Enterprise in the Digital Age ตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
งาน Solutions Summit 2015 โดยไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดย มีผู้เข้าร่วมงานในปีนี้ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจและฝ่ายไอทีกว่า 933 คน จาก 500 หน่วยงานราชการและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศ รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจของไมโครซอฟท์จำนวน 40 องค์กรอีกด้วย
จากการสำรวจของไมโครซอฟท์ในกลุ่มผู้บริหารภาคธุรกิจจำนวน 300 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่างลงความเห็นว่าเทคโนโลยี 3 ประเภท ที่จะมีความสำคัญเป็นอย่างสูงต่อธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า คือ 1) ระบบคลาวด์ ( Cloud ) 2) ความเป็นโมบิลิตี้ ( Mobility ) และ 3) บิ๊ก ดาต้า ( Big Data ) และผู้บริหารเหล่านั้นต่างยอมรับว่าเทคโนโลยีคลาวด์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการวางแผนธุรกิจในอนาคต
นายอรพงษ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “จากแนวโน้มของธุรกิจและการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคของโมบายและคลาวด์ ( Mobile-first, Cloud-first ) ไมโครซอฟท์เองมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นกำลังสำคัญแก่องค์กรให้บรรลุผลสำเร็จ ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีใน 3 แนวทาง คือ การปฏิรูปการทำงานและกระบวนการสร้างประสิทธิภาพทางธุรกิจ ( reinventing productivity and business processes ) การพัฒนาคลาวด์อัจฉริยะ ( building the intelligent cloud ) และการสร้างเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละบุคคล ( more personal computing ) ก้าวสำคัญของไมโครซอฟท์ที่ตอบโจทย์การเป็นผู้นำเทคโนโลยีนั้น คือ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้มีการเปิดตัววินโดวส์ 10 ซึ่งเป็นวินโดวส์ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาและให้บริการในรูปแบบเซอร์วิสหรือบริการ ( as a service ) ทั้งยังมอบประสบการณ์หนึ่งเดียวที่ใช้งานบนอุปกรณ์ที่หลากหลายชนิดมากที่สุด และการเปิดตัวของ Office 2016 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของ Microsoft Office และสามารถดาวน์โหลดได้ใน Office 365 ที่ไมโครซอฟท์สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์การทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัว Surface Pro 4 แท็บเล็ตที่บางที่สุด เบาที่สุดและสามารถแทนที่การทำงานของแล็ปท็อปได้อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน ลูเมีย 950 ที่ใช้แพลตฟอร์มวินโดวส์ 10 อีกด้วย
การจัดงาน Solutions Summit 2015 ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงนวัตกรรมของไมโครซอฟท์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญที่เชื่อมโยงองค์กรและพันธมิตรเข้าด้วยกันเพื่อเดินหน้าผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยจากผลการศึกษาล่าสุด พบว่าทุก 1 เหรียญสหรัฐที่ไมโครซอฟท์สร้างรายได้ ไมโครซอฟท์สามารถช่วยให้พันธมิตรนำไปสร้างรายได้ต่อได้มากถึง 12 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของเราอย่างยิ่ง
นายอรพงษ์ยังกล่าวอีกว่า เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์นั้น ต่างได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก เห็นได้จากผลประกอบการและหุ้นที่มีมูลค่าสูงขึ้น การเปิดกว้างของแพลตฟอร์มวินโดวส์ 10 ที่ทำให้สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งประเด็นเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวนั้น ยังเป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญเป็นอย่างสูง โดย Windows Hello ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ของไมโครซอฟท์ทำให้เข้าถึงอุปกรณ์ Windows 10 ได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ยังได้รับการยอมรับจากรัฐบาลจีนอีกด้วย และล่าสุด ไมโครซอฟท์ยังเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำจากผลการสำรวจ Magic Quadrant ของการ์ทเนอร์ ในด้าน Operational Database Management Systems ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากผลิตภัณฑ์ SQL และเป็นผู้นำในด้าน Social Software in the Workplace สำหรับผลิตภัณฑ์แยมเมอร์ (Yammer) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 นอกจากนี้ ระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ยังมาพร้อมมาตรฐานระดับโลกด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ด้วยมาตรฐาน ISO 27001 และการรับรองมาตรฐานจากสหภาพยุโรป โดยร้อยละ 80 ของบริษัทในฟอร์จูน 500 ต่างไว้วางใจเลือกใช้ระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์
“และท้ายนี้ ผมต้องขอขอบคุณผู้เข้าทุกท่านที่เข้าร่วมงานและให้การสนับสนุนงาน Solutions Summit 2015 ในครั้งนี้ และไมโครซอฟท์พร้อมจะมุ่งนำเทคโนโลยีสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแก่องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง” นายอรพงษ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าว
ซึ่งหนึ่งในพันธมิตรที่เข้าร่วมงาน Solutions Summit 2015 นายกฤษฏิ์พจน์ จัตตะมละกุล เจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า “สำหรับธนาคารทหารไทยนั้นเป็นธนาคารที่ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบไอทีให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงได้มีการลงทุนในการสร้างเครื่องมือสำหรับการทำงานที่ครบวงจรเพื่อช่วยให้พนักงานของเราสามารถทำงานที่ตอบสนองและตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยแทนที่เราจะอัปเกรดโซลูชั่นที่มีอยู่เดิม เราเลือกที่จะมาใช้บริการคลาวด์ Office 365 ของไมโครซอฟท์ซึ่งสามารถตอบโจทย์ ทั้งด้านความปลอดภัย ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ความสามารถในการปรับตัวตามสถานการณ์และความคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว ซึ่งเราทำงานร่วมกับเมโทรซิสเต็มส์ พันธมิตรที่ไมโครซอฟท์ให้ความไว้วางใจ”
นอกจากนี้ ด้วยโซลูชั่นที่รองรับความปลอดภัยและเชื่อมโยงกับเทรนด์ของโลกโมบาย-คลาวด์สำหรับองค์กรธุรกิจ ทำให้องค์กรธุรกิจหลายองค์กรปรับเปลี่ยนมาใช้ Office 365 ของไมโครซอฟท์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า เพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน “ในฐานะพันธมิตรของไมโครซอฟท์ ดูแลการขายและให้กับปรึกษาแก่ บริษัท ไทย ยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) ฟูจิตสึได้นำเทคโนโลยี Office 365 เข้ามาปรับปรุงพัฒนา การจัดการ การทำงานของสำนักงานใหญ่ที่อยู่ในเมืองไทย ด้วยการวางระบบจัดการส่วนกลางให้เป็น “แพลตฟอร์มเดียวกัน” รวมถึงการเชื่อมต่อ บริษัทแม่และบริษัทในเครือที่กระจายตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อการจัดการเตรียมความพร้อมงานบริการด้านไอที เสริมทัพให้ ไทย ยูเนี่ยน อยู่บนตลาดโลกอย่างภาคภูมิ” มร. กิลเบิร์ต บาร์เร็ต Integration Consultant Enterprise Solution & Delivery Services and Solutions, Fujitsu Systems Business ( Thailand ) Ltd. กล่าว
นอกจากการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อสร้างความสำเร็จแก่องค์กรในยุคดิจิทัลแล้ว ภายในงานยังมีการสัมมนาจากพันธมิตรหลาย ๆ บริษัท ที่ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างสูง อาทิ การสัมมนาเกี่ยวกับการทำธุรกิจผ่านระบบคลาวด์และความปลอดภัยในหัวข้อ “เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมระบบป้องกันข้อมูลขององค์กรบนอุปกรณ์พกพา” โดย บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด หรือการสัมมนาเรื่อง “การปฏิวัติดิจิทัลโดยใช้แนวคิด Internet Of Things” โดยบริษัท ไดแมนชั่น ดาต้า ( ประเทศไทย ) จำกัด และ “แนวโน้มการจัดการความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ Cyber Security ในปี 2016” โดยบริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น ( ประเทศไทย ) จำกัด
นอกจากนี้ งาน Solutions Summit 2015 ที่จัดโดยไมโครซอฟท์ ยังมีการแสดงเทคโนโลยีจากบริษัทพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งยังมีการบรรยายประสบการณ์ จากแชมป์โลกไอที “ปลาย ทวีลาภ สุวัฒนพันธุ์กุล” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ( มทร. ) ธัญบุรี ที่คว้าอันดับ 1 คะแนนสูงสุดการแข่งขัน Microsoft PowerPoint 2013 ในรายการ The 2015 Microsoft office Specialist World Championship ณ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ร่วมงานอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์
บริษัท ไมโครซอฟท์ ( NASDAQ “MSFT” ) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการ ซอฟต์แวร์ ดีไวซ์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ
บริษัท ไมโครซอฟท์ ( ประเทศไทย ) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนยีเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสารไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ มีความสะดวกทันสมัยและช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทย http://news.microsoft.com/th-th/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH
