สร้างสรรค์โครงการ AI ขององค์กรให้เป็นจริงด้วย IBM Power

การนำ AI เข้ามาใช้ในองค์กรเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน โดยหนึ่งในความท้าทายที่ทำให้โปรเจ็กต์ AI ขององค์กรไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันก็คือโครงสร้างพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์ ในบทความนี้เราจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ IBM Power ในมุมของงาน AI ให้มากขึ้นว่าจะสร้างความแตกต่างได้อย่างไร

เมื่อพูดถึงการริเริ่มโครงการ AI ขึ้นในองค์กรนั้น มักมีคำถามเกิดขึ้นเสมอในหลายแง่มุมเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่มีว่า จะสามารถรองรับการประมวลผลได้ทันกับปริมาณข้อมูลหรือไม่ รวมไปถึงอัตราการใช้หน่วยความจำที่สามารถรองรับการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนวิธีการในการนำโมเดล AI ไป deploy ใช้งานที่เห็นภาพและจับต้องได้

คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเป็นเหตุเป็นผล เนื่องจากเราทราบกันดีแล้วว่าโมเดล AI ที่แม่นยำเป็นความสามารถที่ส่งผลโดยตรงมาจากปริมาณข้อมูล ซึ่งในกรณีที่การใช้งานนั้นต้องเกี่ยวพันกับข้อมูลมหาศาล คำถามของพลังประมวลจึงเกิดขึ้น พร้อมๆกับความต้องการหน่วยความจำที่มากเพียงพอรองรับกับข้อมูลที่จะถาโถมเข้าสู่การเทรนโมเดล

อย่างไรก็ดีนอกจากพลังการประมวลผลแล้วการส่งเสริมให้โปรเจ็กต์ AI เริ่มต้นขึ้นได้ องค์กรควรพิจารณาไปถึงสภาพแวดล้อมของซอฟต์แวร์ด้วย เช่น การที่ Vendor สามารถนำเสนอโมเดล AI สำเร็จรูป หรือหน่วยประมวลผลที่สามารถสนับสนุนการคำนวณเมทริกซ์ได้ รวมไปถึงการมีซอฟต์แวร์ช่วยเหลือสำเร็จรูปที่ทำให้ท่านสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันหลักขององค์กรเช่น SAP เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มให้ภาพผังการปฏิบัติการในโปรเจ็กต์ AI ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

จากที่กล่าวมานี้เป็นเพียงคำถามส่วนหนึ่งที่ผู้บริหารมักตั้งข้อสงสัย ซึ่งยังไม่นับรวมถึงประเด็นด้านความมั่นคงปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ความคงทนของระบบ และข้อบังคับระดับองค์กรหรือกฎหมายที่ครอบคลุมธุรกิจ

IBM Power ได้ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงโจทย์ของโปรเจ็กต์ AI และงานสำคัญในองค์กรอย่างแท้จริง ด้วย 5 ความโดดเด่นดังนี้

1.) มีระบบ Matrix Math Accelerator

IBM Power 10 มาพร้อมกับ Matrix Math Accelerator (MMA) ที่ช่วยในการทำ AI Inferencing ซึ่งนี่คือจุดหลักที่ช่วยลดงานที่โดยปกติแล้วต้องส่งข้อมูลไปให้ GPU ทำงาน โดยรอยต่อเหล่านี้มักนำมาซึ่ง Latency ที่เพิ่มขึ้นและอาจเกิดประเด็นในความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยด้วย

2.) เพิ่มหน่วยความจำได้อย่างจุใจรองรับงาน In-memory

เป็นที่ทราบกันดีว่าการดึงข้อมูลจาก RAM มักทำได้รวดเร็วกว่าดิสก์ และนี่คือคอนเซปต์ของการประมวลผลแบบ In-memory เช่น แอปพลิเคชัน SAP HANA เป็นต้น ประเด็นคือเซิร์ฟเวอร์จะต้องถูกออกแบบมาให้รองรับกับการเชื่อมต่อกับ Memory จำนวนมหาศาลด้วย โดย IBM Power คือคำตอบนั้น โดยชูจุดเด่นกับการทำงานแบบ In-memory อย่าง SAP HANA เช่นกันในงาน AI ที่มีการประมวลผลข้อมูลปริมาณมาก การคำนวณข้อมูลบน RAM จะช่วยลดเวลาการทำงานได้อย่างมาก

3.) มาพร้อมกับไลบรารี AI มากมายเริ่มต้นได้ทันที

อุปสรรคของงาน AI ไม่จำกัดอยู่แค่โครงสร้างพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์ แต่ยังรวมไปถึงการจัดหาไลบรารีที่เหมาะสมกับงานเข้ามาด้วย และเมื่อได้มาแล้วจะเข้ากันได้กับเซิร์ฟเวอร์หรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องมีการทดสอบและปรับแต่งให้สามารถนำพลังของเซิร์ฟเวอร์มาใช้ได้อย่างสูงสุด แต่ไม่ใช่ปัญหาของผู้ใช้งาน IBM Power เพราะได้มีการคิดเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว โดย IBM ได้นำเสนอซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สไลบรารีต่างๆสำหรับงาน AI เอาไว้ผ่าน RocketCE ที่แพ็กเกจได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้กับ IBM Power ที่สามารถดึงเอาความสามารถจาก Matrix Math Accelerator มาใช้ได้

4.) ผสมผสานการใช้งานได้ทุกรูปแบบด้วย Red Hat OpenShift

IBM Power สามารถจับคู่การทำงานผสานกับระบบเซิร์ฟเวอร์ x86 ทั่วไปได้ด้วยการจัดตั้งคลัสเตอร์การประมวลผลจากความสามารถของ Red Hat OpenShift ซึ่งทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นสำหรับการเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ได้หลายประเภทไม่จำกัดเพียงแค่ IBM โดยอาจจะจัดสรรงานให้กับกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ได้ตามความสำคัญของงานอย่างไร้รอยต่อ

5.) มีฟีเจอร์รักษาความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูลในทุกสถานะ

IBM Power มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยอย่างเข้มข้นและพร้อมให้ความคุ้มครองข้อมูลในทุกสถานะ เริ่มต้นจากความสามารถในการเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งผ่านระหว่างหน่วยความจำและส่วนประมวลผลด้วยฟีเจอร์ Transparent Memory Encryption ที่เกิดขึ้นระดับฮาร์ดแวร์ ดังนั้นการปฏิบัติการจะไม่ส่งผลกระทบต่องานปกติของ CPU

นอกจากนี้ IBM Power ยังนำเสนอความแข็งแกร่งที่พร้อมรับมือกับยุคหลังควอนตัม(Post Quantum Encryption) ที่ข้อมูลจะยังปลอดภัยและไม่ถูกเปิดเผยได้โดยง่ายในอนาคต ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้โดยไม่ต้องถอดรหัสผ่านเทคนิค fully homomorphic encryption ที่เหมาะอย่างมากในงาน AI ที่ต้องการนำข้อมูลมาใช้แบบเปิดเผยข้อมูล

อีกหนึ่งข้อกังวลของโปรเจ็ค AI ในเชิงกลยุทธ์ที่มักถูกถามเสมอคืออำนาจของการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้คลาวด์อาจไม่ใช่คำตอบในทุกอุตสาหกรรม และแน่นอนว่าการเลือกใช้ IBM Power Appliance จะตอบโจทย์นี้ได้ตรงจุดมากกว่า อีกทั้ง IBM ยังมีโมเดลที่ทำให้องค์กรปรับแต่งการใช้งานที่เกิดขึ้นได้ตามจริงด้วยโมเดล Power Private Cloud ที่มีการรวมทรัพยากรและวัดผลการใช้งานแบบรายเดือนได้

อย่างไรก็ดีองค์กรที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจบนคลาวด์หรือมีแผนโยกย้ายนโยบายการทำงานร่วมกับ Cloud ทาง IBM ก็ได้นำเสนอโมเดล IBM Power Virtual Server บน IBM Cloud เพื่อให้ท่านยังคงทำงานกับ IBM Power ในแผน Hybrid Cloud ได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย

ที่มาของบทความ :

https://www.ibm.com/blog/announcement/combining-ai-with-a-trusted-data-approach-on-ibm-power-to-fuel-business-outcomes/

ท่านใดสนใจโซลูชัน IBM Power สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย Computer Union ได้ที่ email : cu_mkt@cu.co.th หรือโทร 02 311 6881#7151, 7156

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

AWS Storage Gateway คืออะไร ?

AWS Storage Gateway คือบริการพื้ที่จัดเก็นบนคลาวด์ (Cloud Storage) แบบ Hybrid ที่มีพื้นที่เสมือนไม่จำกัดสำหรับแอปพลิเคชัน ที่จะสนับสนุนให้แอปพลิเคชันที่อยู่บน On-Premises สามารถเข้าถึงพื้นที่ Cloud Storage บน …

เชิญร่วมงานสัมมนา Splunk Experience Day Thailand [3 เม.ย. @ Siam Kempinski Hotel Bangkok]

Splunk ขอเชิญผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้าน IT Security เข้าร่วมงานสัมมนา Splunk Experience Day Thailand เพื่ออัปเดตเทรนด์และกลยุทธ์ด้าน Security & Observability ล่าสุดในปี 2025 …