เรียนรู้ Use Case Gen AI จากองค์กรที่ใช้งานจริง จาก Google Cloud APAC Media Summit 2024 วันที่ 2

สำหรับงาน “Google Cloud APAC Media Summit” วันที่ 2 ตลอดทั้งวันทาง Google Cloud ได้พาเรียนรู้เกี่ยวกับกรณีศึกษา (Use Case) ขององค์กรที่มีการใช้งานเครื่องมือ AI และ Generative AI ต่าง ๆ จากทาง Google Cloud จริง ๆ ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเร่งผลิตภาพ (Productivity) ได้อย่างก้าวกระโดด มีองค์กรอะไรมานำเสนอ Use Case อะไรบ้างที่น่าสนใจ ติดตามได้ในบทความนี้

Klook แพลตฟอร์มวางแผนท่องเที่ยวชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่สามารถจองได้แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รถยนต์ เรือ หรือกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเบื้องหลัง Klook มีการใช้งาน AI อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ให้บริการประสบการณ์วางแผนเที่ยวด้วย AI เป็นที่เรียบร้อย

คุณ Sam Kwong, Senior Director of Product Management แห่ง Klook

โดยในเซสชันนี้ คุณ Sam Kwong ได้มาบอกเล่าการใช้งาน AI ของบริษัท โดย Klook ใช้งานทั้ง Vertex AI, Gemini 1.5 models, Gemini Code Assist และโมเดล Predictive AI หลากหลายตัวจาก Google Cloud ใน Use Case หลากหลายแบบ อาทิ

  • การพูดคุยกับคนขับรถ ที่มี AI ช่วยแปลภาษาไปสู่ภาษาท้องถิ่น ทำให้การสื่อสารไร้พรมแดน ไร้ข้อจำกัดมากขึ้น
  • Personalized Recommendations ที่เหนือกว่า ด้วยการทำให้นักท่องเที่ยวสามารถไปยังที่ที่ชื่นชอบในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้มีเวลาว่าง (Free Time) ไปสำรวจที่อื่นได้มากขึ้นกว่าเดิม 
  • การแปลภาษา ที่สามารถแปลได้ 15 ภาษาที่มีความถูกต้องสูงขึ้น
  • การสร้างเนื้อหา (Content) ได้เร็วขึ้นในหลากหลายภาษา ส่งผลให้ผลิตภาพ (Productivity) สูงขึ้นถึง 80% 
  • ประสิทธิภาพในการรีวิวโค้ด (Code Review) เพิ่มสูงขึ้นถึง 60% และทำให้ประสิทธิภาพแพลตฟอร์มดีขึ้นถึง 70%

นอกจากนี้ Klook ยังมีแผนที่จะปล่อยฟีเจอร์ Gen AI ใหม่เพื่อสนับสนุนประสบการณ์ใช้งานที่เหนือกว่าเดิมในเร็ว ๆ นี้ พร้อมกับเตรียมค้นหาแนวทางใหม่ ๆ ในการสนับสนุนการใช้งานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย เช่น 

  • การสรุปรีวิว ที่ Gen AI จะช่วยสรุปจากรีวิวทั้งหมดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว หรือ 
  • การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ที่ Gen AI จะแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้น รวมไปถึงการ

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน AI ของ Google Cloud ภายในแพลตฟอร์ม Klook สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

Arta Finance ผู้สร้างแพลตฟอร์ม Digital Wealth ที่มีผู้เชี่ยวชาญในองค์กรชั้นนำระดับโลกใช้งานมากมาย ก่อตั้งโดย คุณ Caesar Sengupta ได้เคยดำรงตำแหน่ง VP & GM ฝ่าย Payments & the Next Billion Users ใน Google มาก่อนรวมทั้งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง Google Pay อีกด้วย

คุณ Caesar Sengupta, CEO and Co-founder แห่ง Arta Finance

โดย Arta Finance ได้มีการใช้งาน Google Cloud โดยสร้างเป็น Arta AI Copilot แบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานในหลากหลายอาชีพในด้านการเงินด้วย AI เช่น 

  • การทำวิจัยสรุปหุ้น (Summarize Stock) ด้วยการใช้ AI Agent หลาย ๆ ตัวไปร่วมกันทำวิจัยตลาดการลงทุน เพื่อนำมาสรุปให้กับผู้ใช้งานเข้าใจได้ทันที
  • การวิเคราะห์สินทรัพย์ (Asset Analysis) ว่าสินทรัพย์ที่สนใจดังกล่าวนั้น ปัจจุบันสถานะเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อทำให้เข้าใจภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว
  • การสรุปพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio Recap) ภายในพอร์ตโฟลิโอที่จะช่วยทำสรุป (Recap) ให้ตลอดเวลาว่าว่าสถานะพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา
Credit : Arta Finance

AI Copilot ที่อยู่ภายใต้แพลตฟอร์ม Arta Finance นั้นจะสามารถสนับสนุนให้กับผู้ใช้งานได้ทันที ทุกที่ทุกเวลา โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอหรือต้องจ้างที่ปรึกษาทางการเงินที่เป็นมนุษย์มาดำเนินการให้ ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึง Wealth ได้อย่างเท่าเทียมมากขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ Arta Finance

GoTo Group คือกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย โดยเป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Gojek และ Tokopedia ซึ่งปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ที่ได้ให้บริการ Super-app ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ให้บริการในหลากหลายรูปแบบ อาทิ บริการเรียกรถรับส่ง ส่งอาหาร โลจิสติกส์ หรือว่าบริการชำระเงิน บริการทางการเงิน รวมทั้งโซลูชันเทคโนโลยีสำหรับร้านค้าด้วย

คุณ Kelvin Timotius, Head of GoPay Wallet แห่ง GoTo Group

ในเซสชันนี้จะเป็นหนึ่งในส่วนของ GoTo Financial หรือบริการ GoPay โซลูชันชำระเงินที่ให้บริการสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงปีที่ผ่านมานี้เอง โดย คุณ Kelvin Timotius ได้มาโชว์ให้เห็นถึงขีดความสามารถของ GoPay ได้สนับสนุนให้คนอินโดนีเซียสามารถโอนชำระเงินในระบบนิเวศในชีวิตประจำวันทุก ๆ วันได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรณีการโอนเงินข้ามธนาคารที่ประเทศอินโดนีเซียที่ไม่ฟรีและมีราคาแพง

และเนื่องจากคนอินโดยเซียบางส่วนอาจจะยังไม่ได้เชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษมากนัก GoPay จึงสร้างระบบ AI คือ “Dira – Voice Assist เพื่อสนับสนุนให้คนอินโดนีเซียทุกคนสามารถใช้งานแอปพลิเคชันชำระเงินได้ง่ายขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้นผ่านเสียงพูดด้วยภาษาบาฮาซาอินโดนีเซียโดยเฉพาะ โดย Gemini 1.5 Flash คือผู้ที่เบื้องหลัง Dira ของ GoPay นี้ ที่ทำให้การโอนเงินไปมาผ่านแพลตฟอร์มมีความไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น

Generative AI อย่าง Dira บน GoPay คืออีกหนึ่ง Use Case ที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งคนอินโดนีเซียสามารถสั่งการผ่านเสียงเพื่อโอนเงิน จ่ายค่าไฟ ซื้อเครดินโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งแยกบิลเพื่อเรียกเก็บเงินคนที่ไปกินข้าวด้วยกันบน GoPay ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับ Dira ของทาง GoPay สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

Prudential หนึ่งในผู้นำบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพและการบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกองค์กรที่นำ AI มาเสริมบริการให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ประกาศความร่วมมือกับ Google Cloud ในการยกระดับการเคลมประกันสุขภาพให้มีความไร้รอยต่อมากขึ้นด้วย Generative AI

คุณ Mitesh Agarwal, MD for Solutions and Technology แห่ง Google Cloud APAC, คุณ Grace Park, Chief Data, Analytics & AI Office แห่ง Prudential และ คุณ Arjan Toor, CEO of Health แห่ง Prudential

คุณ Arjan Toor, CEO of Health แห่ง Prudential

โดย Prudential ได้เห็นถึง Pain Point หลายประการในการเข้ารักษาพยาบาลครั้งหนึ่งที่ต้องมีขั้นตอนมากมาย เช่น การนัดหมายหมอ การเดินทางไปรอหมอ ทางเลือกในการรักษาต่าง ๆ ควรไปรักษาที่ไหนดี รักษาเสร็จแล้วควรจะทำอะไรต่อ และที่สำคัญคือการเคลมประกันสุขภาพที่มีความไม่มั่นใจว่าจะสามารถเคลมได้จริงหรือไม่ 

ด้วยเหตุนี้ Prudential ที่เชื่อว่า AI และ Data จะสามารถยกระดับบริการได้ดีขึ้นได้ จึงได้ร่วมมือกับ Google Cloud ในการใช้งานโมเดล MedLM ภายใต้แพลตฟอร์ม Vertex AI เพื่อยกระดับการเคลมประกันสุขภาพกับ Prudential ได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น

โดย Prudential จะเริ่มใช้ MedLM ในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียในช่วงแรก เพื่อวิเคราะห์เอกสารที่ส่งเข้ามาเคลมประกันสุขภาพ เช่น รายงานวินิจฉัยโรค ใบสั่งยา ใบแจ้งหนี้ เพื่อให้การเคลมดำเนินการได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Prudential และ Google Cloud สามารถอ่านได้ที่นี่

คุณ Mitesh Agarwal, MD for Solutions and Technology แห่ง Google Cloud APAC, คุณ Grace Park, Chief Data, Analytics & AI Office แห่ง Prudential และ คุณ Arjan Toor, CEO of Health แห่ง Prudential

DiMuto บริษัท ArgiTech สัญชาติสิงคโปร์ ที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีมากมายเพื่อให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าเกษตรและอาหารระดับสากล (Global) ไม่ว่าจะเป็น AI, Blockchain, IoT เพื่อติดตามสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางรวมทั้งติดตามการปล่อยคาร์บอนที่เสริมภาพรวมการมองเห็น (Visibility) ได้อย่างครบวงจร โดยปัจจุบัน DiMuto ที่มีลูกค้าอยู่ทั่วโลกแล้ว ณ ตอนนี้ 

คุณ Jordon Ho, Head of Tech Operations แห่ง DiMuto

โดย คุณ Jordon Ho ได้มาบอกเกล่าว่า DiMuto เห็นถึงปัญหาว่าการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายนั้นควรจะต้องมีความยุติธรรม และควรจะต้องมีข้อมูลประกอบเพื่อลดขยะอาหาร (Food Waste) เช่น ถ้าหากนำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาแล้วอาหารกลับเน่าเสีย ก็จะทำให้สินค้าเกษตรนั้นสูญเปล่าและยังทำให้เกิดความเสียหายในธุรกิจอีกด้วย บริษัทจึงต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ทว่าจะมีข้อมูลเป็นไซโลอยู่มากมาย และมักจะมีสิ่งรบกวนระหว่างทางจำนวนมาก 

DiMuto จึงนำเอา Generative AI จากทาง Google Cloud เข้าไปในแพลตฟอร์ม Marketplace เพื่อช่วยเสริมข้อมูลให้ผู้ใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อขายสินค้า ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลใน Supply Chain ตั้งแต่แหล่งที่มา ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงปลายทาง เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น เช่น สินค้าที่กำลังจะซื้อนั้นเจ้าใดจะยังคงความสดและตรงกับความต้องการรับประทานเมื่อจัดส่งมาถึง ไม่เน่าเสียไประหว่างการจัดส่ง หรือเจ้าใดที่ราคาเหมาะสมกว่าในสภาพเงื่อนไขที่ดีกว่า หรือติดข้อกฎหมายใด ๆ หรือไม่ เป็นต้น

Atlas บริษัทที่เรียกตัวเองว่าเป็น RestaurantOps ไม่ใช่บริษัท AI แต่อย่างใด ซึ่ง คุณ Shawn Liam ได้เรียกตัวเองว่าเป็นระบบปฏิบัติการ (OS) สำหรับร้านอาหาร ที่มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมร้านอาหารแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นระบบสำหรับการจัดการร้าน ระบบแคมเปญการตลาด ระบบ POS ระบบสั่งซื้อบนเว็บไซต์ ระบบ HR ระบบจองไรเดอร์ ฯลฯ 

คุณ Shawn Liam, Co-founder แห่ง Atlas 

โดยคุณ Shawn Liam ได้โชว์ฟีเจอร์ Generative AI จาก Google Cloud บนแพลตฟอร์ม Atlas ในหลากหลายส่วนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • Customer Insights สร้างข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าแบบส่วนบุคคล (Personalization) แต่ละคนได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็น VIP อยู่เสมอ เช่น จากข้อมูลที่มีจะช่วยสรุปขึ้นมาให้เลยว่าลูกค้าที่เข้าร้านนั้นชอบอาหารประเภทใด ไม่ชอบกินอะไร
  • Automatic Coursing เร่งความเร็วในการรับออเดอร์และส่งอาหารได้ดีขึ้น สรุปอาหารให้ผู้สั่งได้อย่างรวดเร็ว และจัดเรียงลำดับในการเสิร์ฟที่โต๊ะได้อย่างเหมาะสมว่าควรจะนำจานใดขึ้นโต๊ะก่อน เช่น กดปุ่มเดียวจะบอกได้เลยว่าควรเสิร์ฟน้ำก่อนอาหารก่อนของหวาน
  • Intelligent Cross-Selling เสริมยอดขาย Upsell ได้ดีขึ้นว่าควรจะเสนอขายเมนูใดเพิ่มโดยอิงจากข้อมูลรูปแบบการสั่งอาหารที่มีก่อนหน้านี้ โดยไม่จำเป็นต้องจำเองทั้งหมด ระบบจะช่วยแนะนำขึ้นมาให้เลยว่าควรจะนำเสนออาหารอะไรให้กับคนนั้น ๆ 
  • Product Description Generator สร้างรายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์ขึ้นมาในโทนที่ต้องการใช้ หรือแปลเป็นภาษาอื่น ๆ ขึ้นมาได้ภายในพริบตาผ่าน Prompt ที่ส่งเข้าไป เช่น อยากได้รายละเอียดอธิบายอาหารให้เป็นโทนสนุกในภาษาอังกฤษ จีน และบาฮาซาก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ทันที
  • Marketing Announcement เพียงแค่ใส่ Prompt เข้าไปว่าอยากจะทำการตลาดอะไร AI ก็จะช่วยสร้างแคมเปญการตลาดที่ตามที่ต้องการขึ้นมาบนแพลตฟอร์มได้ทันที 
ตัวอย่างการสร้างแคมเปญเพื่อ Upsell น้ำดื่มกับการสั่งซื้อเบอร์เกอร์ทุกรายการ

ตัวอย่างใช้ Gemini สร้างรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาบาฮาซาด้วย Prompt เดียว

เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มร้านอาหารที่มีขีดความสามารถของ Generative AI เข้าไปเสริมการใช้งานได้อีกระดับขั้น ที่ทำให้การเริ่มต้นร้านอาหารอาจไม่จำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลอีกต่อไปแล้วก็ได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Atlas สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ atlas.kitchen

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่ทางทีม TechTalkThai ได้รับจากการไปร่วมงาน “Google Cloud APAC Media Summit” วันที่ 2 ที่มีองค์กรมานำเสนอ Use Case การใช้งาน Generative AI ของ Google Cloud ในหลากหลายรูปแบบและหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเชื่อว่า Use Case เหล่านี้ น่าจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ในการนำเอา Generative AI ไปใช้ในธุรกิจได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

BOTNOI บริษัทสตาร์ทอัพไทย ได้พัฒนาผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ Generative AI รองรับหลายภาษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้บริการคลาวด์ของ AWS [PR]

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS เพื่อแปลงข้อความเป็นเสียงพูดและแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับภาษาและวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยข้อมูลภาษาที่ได้รับความยินยอมแล้ว ทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ปรับปรุงการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Tenstorrent ระดมทุน 693 ล้านดอลลาร์ ท้าชน Nvidia

Tenstorrent สตาร์ทอัพผลิตชิป AI ที่ตั้งเป้าท้าชิง Nvidia ระดมทุนรอบ Series D นำโดย Samsung Securities และ AFW Partners ได้กว่า …