TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
ในงานสัมมนาออนไลน์ Atmosphere 2021 โดย Aruba Networks ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมานี้ ได้มีการนำเสนอถึงวิสัยทัศน์ทางด้านระบบ IT Infrastructure แห่งอนาคตอย่าง Edge-to-Cloud ซึ่งจะต้องเป็นก้าวถัดไปของธุรกิจองค์กร ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้เข้าร่วมรับฟังในประเด็นนี้ จึงขอนำสรุปสิ่งที่น่าสนใจจากหัวข้อนี้เอาไว้ในบทความนี้ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
Digital และ COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปอย่างสิ้นเชิง
คุณ Keerati Melkote ผู้ก่อตั้งและประธานแห่ง Aruba ได้กล่าวเปิดงานในครั้งนี้โดยเริ่มต้นจากการเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจทั่วโลกจากการมาของ Digital และโรคระบาดในครั้งนี้ ที่ทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและวิธีการทำงานกันไปโดยสิ้นเชิง ด้วยการนำเสนอตัวเลขสถิติที่น่าสนใจ ได้แก่
- บริการ Telehealth เติบโตขึ้น 15 เท่า
- E-Commerce สำหรับของสดและของชำเติบโตขึ้น 3 เท่า
- อุตสาหกรรมบันเทิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยบริการ Streaming อย่าง Disney+ นั้นก็มี Subscriber มากกว่า 93 ล้านรายแล้ว
- ฟิตเนสเองก็เปลี่ยนไปเป็น Digital เช่นกัน โดยธุรกิจอย่าง Peloton นั้นก็สามารถสร้างรายรับได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญภายในไตรมาสเดียวเท่านั้น
ไม่เพียงแต่แนวโน้มของธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมเท่านั้นที่เปลี่ยนไปจากการมาของ Digital แต่เป้าหมายในการทำ Digital Transformation ของธุรกิจเองนั้นก็มีความชัดเจนมากขึ้นไปด้วย โดย Aruba ได้สรุปถึง 5 เป้าหมายที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญเอาไว้ดังนี้
- Employee Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานทั้งในแง่ของจิตใจ, อารมณ์ และกายภาพ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้จะต้องทำงานจากที่บ้านหรือที่ใดก็ตาม
- Customer Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทั้งแบบ Physical และ Digital ไปพร้อมๆ กัน
- Automated Operations ทั้งในส่วนของ IT Operations และ Back Office Operations ด้วยการนำเทคโนโลยีหลากหลายทั้ง IT, Digital, Robotic และอื่นๆ มาใช้งานร่วมกัน
- Cyber Security ในทุกๆ ภาคส่วนของการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน เพื่อให้ธุรกิจมีความมั่นคง และเกิดความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจในแต่ละวัน
- TCO การประหยัดค่าใช้จ่ายและการพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับหลายธุรกิจท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
คุณ Keerti ได้กล่าวต่อว่าแนวปฏิบัติที่เราเคยใช้กันในอดีตนั้นอาจไม่ได้ผลอีกแล้ว และหลังจากนี้คือช่วงเวลาที่ทุกคนต้องแสวงหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะตอบโจทย์ต่อโลกในปัจจุบันและอนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจองค์กรต้องต้องเปลี่ยนจากระบบ IT Infrastructure แบบเดิม ไปสู่ภาพของ Edge-to-Cloud
ในมุมของ Aruba นั้น ภาพของ Edge-to-Cloud ประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่
- Hybrid Cloud ที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการแบบ As-a-Service, Multi-Cloud, Data Center และ SaaS ผสานรวมกัน
- Intelligent Edge ที่ประกอบไปด้วย User, Device, Thing, Data ที่กระจัดกระจายอยู่ในหลายส่วนขององค์กร ซึ่งถูกบริหารจัดการและประมวลผลโดยอัตโนมัติ และควบคุมได้ผ่าน Cloud ทั้งหมด
- SD-WAN ที่จะมามีบทบาทด้าน WAN & Security Transformation เพื่อเชื่อมผสาน Hybrid Cloud และ Intelligent Edge เข้าด้วยกัน
การที่ธุรกิจองค์กรจะสามารถบริหารจัดการระบบ IT Infrastructure ในแบบ Edge-to-Cloud นี้ได้ ก็ต้องอาศัย 4 หลักการที่ไม่ต่างจากในอดีตมากนัก ก็คือ Connect, Protect, Analyze, Act ซึ่งก็คล้ายคลึงกับหลักการในการบริหารจัดการระบบเครือข่ายในอดีตนั่นเอง แต่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เป็นอัตโนมัติมากขึ้น และชาญฉลาดมากขึ้นจากการมาของเทคโนโลยีอย่าง AI
Aruba Edge Services Platform หรือ ESP คือโซลูชันของ Aruba ที่จะมาตอบโจทย์ภาพของ Edge-to-Cloud นี้ได้ โดยการนำระบบ Unified Infrastructure สำหรับระบบเครือข่ายทั้งมีสายและไร้สายมาใช้ในการเชื่อมต่อ Edge และทำการ Protect ด้วยแนวคิด Edge-to-Cloud Security ก่อนที่จะทำ Analyze และ Act โดยอัตโนมัติด้วย AIOps และบริหารจัดการภาพรวมของระบบได้ด้วย Aruba Central
ท่ามกลางความยากลำบากในปี 2020 ที่ธุรกิจทั่วโลกต้องเผชิญนี้ ก็ยังมีโอกาสใหญ่คือการที่วิกฤตครั้งนี้ได้เป็นตัวเร่งสำคัญให้ Edge เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคุณ Keerti ได้ระบุว่า Aruba นั้นยังคงเติบโตในไตรมาสแรกของปี 2021 นี้ทั้งในเชิงของยอดขายและชุมชนของผู้ใช้งาน
ทั้งนี้ อีกสิ่งหนี่งที่จะมาช่วยเสริมภาพของ Aruba ESP ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั้น ก็คือโซลูชันจาก Silver Peak ที่ Aruba ได้ซื้อกิจการมา ทำให้โซลูชัน SD-WAN ของ Aruba นั้นมีความครอบคลุมยิ่งขึ้นทั้งในเชิงของการ Integration, SD-Branch, Zero Trust และ SASE
ส่วน Wi-Fi 6 เองนั้นก็ถูกใช้งานอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดย Aruba ได้ขาย Wi-Fi 6 AP ไปแล้วมากกว่า 2 ล้านชุด จาก AP ทุกรุ่นรวมกันทั้งหมด 20 ล้านชุด โดยมี AOS 10 เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุด
ทางด้านตลาด Switch เองนั้น Aruba CX SWries เองก็เติบโตมากถึง 46% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีลูกค้าใช้งานมากกว่า 4 ล้านพอร์ตทั่วโลกแล้ว
ในแง่ของการบริหารจัดการ Aruba Central นั้นก็ถูกใช้งานในปี 2020 มากขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมถึงยังมีการเปิดตัว Aruba Central On-Prem เข้ามาเติมเต็มความต้องการของธุรกิจองค์กรด้วย
ในขณะที่ AIOps ซึ่งถูกเสริมเข้าไปในโซลูชันนั้นก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูงและมีอุปกรณ์จำนวนมาก โดยระบบ Reactive AIOps อย่างเช่น AI Insights, AI Search และ AI Assist นั้นก็ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในระบบเครือข่ายเร็วขึ้นถึง 90% ส่วน Proactive AIOps นั้นก็ช่วยปรับปรุงการตั้งค่าของระบบให้เหมาะสมกับงานมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจองค์กรสามารถใช้งานระบบเครือข่ายได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยไม่ต้องลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด และยังช่วยปกป้องเครือข่ายให้มั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ IoT
คุณ Keerati ได้สรุปว่าหลังจากนี้ AIOps จะกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญของ Aruba ที่จะถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจองค์กรทั่วโลกสามารถใช้งานระบบเครือข่ายได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นต่อไป โดยมีการเชิญลูกค้าจาก Northwestern University ที่มีการใช้งาน Aruba AP ถึง 7,000 ชุดและ LOWE ที่ใช้ Aruba AP ถึง 85,000 ชุดมาเล่าถึงประสบการณ์การบริหารจัดการเครือข่ายขนาดใหญ่ด้วย AIOps นี้
การลงทุนในระบบเครือข่าย จะเปลี่ยนไปเป็นแบบ As-a-Service
คุณ Keerati ยังได้เปิดประเด็นเรื่องรูปแบบการลงทุนเทคโนโลยีในอนาคตที่จะมีแนวโน้มเปลี่ยนไปเป็น As-a-Service มากขึ้นเรื่อยๆ โดย Aruba เองนั้นก็พร้อมจะตอบโจทย์นี้ได้ด้วยทั้ง Software-as-a-Service, Managed Services, Network-as-a-Service และ HPE Financial Services เพื่อให้ธุรกิจมีทางเลือกในการลงทุนในระบบเครือข่ายที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ตอบโจทย์ Edge-to-Cloud ให้ครบถ้วน ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่าง Aruba และ HPE
สำหรับทิศทางในอนาคตของ Aruba นั้นก็จะมีการทำงานร่วมกับ HPE มากยิ่งขึ้นเพื่อให้นำเสนอภาพของ Edge-to-Cloud ได้อย่างครบถ้วนยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่เฉพาะส่วนของ Network เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึง Compute และ Storage ด้วย เพื่อให้วิสัยทัศน์ทางด้าน Unified Experience สำหรับ Edge-to-Cloud นี้เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
รับชมงานสัมมนา Atmosphere 2021 แบบย้อนหลัง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถรับชมงานสัมมนา Atmosphere 2021 ซึ่งมีหัวข้ออื่นๆ อีกมากมายได้ในแบบ On-Demand ที่ https://www.arubanetworks.com/en-au/atmosphere/?utm_source=Techtalkthai&utm_campaign=atmdigital&utm_medium=display&utm_geo=APJ&utm_content=TH ทันทีครับ
