Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

สรุปงาน Juniper SP Innovation Day 2017 อัปเดตเทคโนโลยีล่าสุดจากทาง Juniper Networks

ทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Juniper SP Innovation Day 2017 ที่ทาง Juniper Networks ร่วมกับ DataOne Asia ประเทศไทย และพันธมิตรรวม 8 ราย จัดงานสำหรับอัปเดตเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับผู้ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ พร้อมแสดงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับกระแสการใช้ระบบ Cloud และ Internet of Things ที่นับวันจะทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

ร่วมกับพันธมิตร 8 รายพร้อมพัฒนาและนำเสนอโซลูชันร่วมกัน

SP Innovation Day เป็นงานสัมมนาครั้งใหญ่ประจำปีของ Juniper Networks สำหรับอัปเดตเทคโนโลยีสำหรับผู้ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โดยในปีนี้จัดในธีมเรื่อง “Build the Future” ซึ่ง Juniper Networks ได้จับมือกับพันธมิตรอีก 8 รายเพื่อนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีและโซลูชันแห่งอนาคตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งด้านการเชื่อมต่อและความมั่นคงปลอดภัยในยุค Cloud และ Internet of Things ดังนี้

  • NEC, VMware, Bluesharp และ Opsta พันธมิตรที่มีการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านซอฟต์แวร์ร่วมกัน
  • Vnohow พันธมิตรที่ให้บริการศูนย์อบรมอย่างเป็นทางการของ Juniper Networks
  • DataOne Asia ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ (Value-added Distributor) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานสัมมนานี้
  • MFEC และ PPlus Vision ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงข่ายและระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยชั้นนำ ซึ่งให้คำปรึกษาและนำเสนอโซลูชันของ Juniper Networks แก่องค์กรขนาดใหญ่ในยุคดิจิทัล

อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ตอบโจทย์ความต้องการยุค IoT และ Cloud

ภายในงาน Juniper Networks ได้อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ 3S ได้แก่ Silicon, System และ Software สำหรับสนับสนุนระบบเครือข่ายที่มีการขยายตัวเพื่อรองรับจำนวนอุปกรณ์และการเชื่อมต่อที่เพิ่มมากขึ้นในยุค Internet of Things ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ระบบเครือข่ายมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การบริหารจัดการที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม และการทำงานอย่างอัตโนมัติ

1. Silicon

Juniper Networks เป็นผู้พัฒนาและผลิต Chipset สำหรับระบบเครือข่ายมาอย่างยาวนานถึง 21 ปี จนถึงตอนนี้ผลิต Chipset ออกมาแล้วกว่า 80 รุ่น เพื่อให้หน่วยประมวลผลสามารถดึงพลังของฮาร์ดแวร์ออกมาได้ถึงขีดสุด ส่งผลให้เมื่อเปิดใช้งานทุกฟีเจอร์จะไม่ทำให้ Throughput ของอุปกรณ์ตกลงแต่อย่างใด ล่าสุด Juniper Networks ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ 2 รายการ คือ

  • Hybrid Memory Cube ช่วยให้หน่วยความจำบน Line Card มีขนาดเพียง 10% เมื่อเทียบกับหน่วยความจำของผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นๆ ส่งผลให้พื้นที่สำหรับใส่ชิปประมวลมีมากขึ้น และมี Bandwidth สูงกว่า DDR4 ถึง 8.5 เท่า
  • Silicon Photonics สำหรับย้ายฟังก์ชันการทำงานบน Transceiver มาที่ชิปประมวลผลของอุปกรณ์แทน ทำให้ Transceiver ที่ใช้มีขนาดเล็กและราคาถูกลง พื้นที่สำหรับเสียบ Transceiver เพิ่มมากขึ้น

ด้วยเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ ทำให้อุปกรณ์ Switch/Router ของ Juniper Networks รองรับ Throughput และจำนวนพอร์ตที่เชื่อมต่อได้สูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ตอบโจทย์การบริหารจัดการระบบเครือข่ายที่มีอุปกรณ์จำนวนมหาศาลในยุค Internet of Things

2. System

Juniper Networks เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ด้าน Chassis Design คือ สถาปัตยกรรมแบบ Midplane-less ซึ่งช่วยให้ Line Card และ Fabric Card สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยตรง ไม่ต้องผ่าน Midplane อีกต่อไป ทลายข้อจำกัดของการมี Midplane รวมไปถึงช่วยลดอัตราการบริโภคพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของอากาศและระบบทำความเย็นอีกด้วย ที่สำคัญคือทำให้สามารถขยายระบบแบบ Scale up ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

3. Software

โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ ISP และ Cloud Provider ต้องดูแลอุปกรณ์เน็ตเวิร์กหลายพันหรือหลายหมื่นเครื่อง และพร้อม Provisioning ให้ลูกค้าใช้บริการได้ภายในไม่กี่นาที เพื่อให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายสามารถบริหารจัดการอุปกรณ์เน็ตเวิร์กจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และอัตโนมัติ Juniper Networks ได้พัฒนาระบบ Software-defined Network และ Network Controller สำหรับใช้จัดการกับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่และระบบ Cloud โดยเฉพาะ ได้แก่

  • Contrail – แพลตฟอร์ม SDN Controller สำหรับควบคุมและบริหารจัดการระบบ SDN โดยรองรับการทำ Virtualization และ Automation แบบครบวงจร
  • Northstar – โซลูชัน WAN SDN Controller สำหรับบริหารจัดการและควบคุมทราฟฟิกบน IP/MPLS สำหรับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่และ ISP

สำหรับ Junos OS เองก็มีการเพิ่มฟีเจอร์เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานแบบ Virtualization มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำ Node Slicing เพื่อจัดสรรทรัพยากรของ Router ออกเป็นหลายๆ Virtual Router ได้ทันที เสมือนมี Router หลายเครื่องรันอยู่ภายใต้ฮาร์ดแวร์เดียวกัน เพื่อให้ Virtual Router แต่ละตัวรองรับการทำงานเฉพาะทางเช่น PE, BNG และ Peering Functions ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficiency) และมีเสถียรภาพ (Availability) มากยิ่งขึ้น

“Juniper MX series is one of industry highest capacity and features rich Router with clear direction to further advancement in both capacity and features to meet Service Provider requirement both present and in the future. In addition, Juniper’s teams have been a great partner to Service Provider in delivering the highest quality services to the mass” — คุณธนะพล จันทวสุ ผู้อำนวยการสายงานโครงข่ายและอินเทอร์เน็ตจากบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าว

ย้ำภาพผู้นำทางด้าน SDx

นอกจากจะเป็นผู้นำโซลูชันด้านเครือข่ายสำหรับระดับ Carrier-grade แล้ว Juniper Networks ยังพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการนำเสนอโซลูชันแบบ Software-defined ประสิทธิภาพสูงสำหรับระบบเครือข่ายในยุค Cloud ได้แก่ Contrail สำหรับ Software-defined Data Center, Northstar สำหรับ SDN WAN และ Smart CPE สำหรับ SD-WAN ซึ่งโซลูชัน SDx ของ Juniper Networks ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในหมู่ ISP และ Cloud Provider โดยล่าสุด ผลสำรวจจาก IHS Markit ระบุว่า Contrail เป็น SDN Controller Platform ที่ผู้ดูแลระบบเครือข่ายเลือกใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย Cisco APIC และ VMware NSX ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้งาน OpenStack เองก็เลือกใช้ Contrail เป็นอันดับหนึ่งเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันเช่นกัน

เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Secured Router สำหรับสำนักงานสาขาโดยเฉพาะ

ภายในงาน SP Innovation Day 2017 ทาง Juniper Networks ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับสำนักงานสาขาโดยเฉพาะ นั่นคือ Juniper SRX300 ซึ่งเป็น Secured Router แบบ All-in-one หรือ Smart CPE โดยรองรับการทำหน้าที่เป็น Router, L7 Firewall และ SD-WAN ภายในอุปกรณ์เดียว มีจุดเด่นที่ฟีเจอร์ Zero-touch Provisioning ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าและบริหารจัดการอุปกรณ์จากสำนักงานใหญ่ให้พร้อมใช้งานได้ภายใน 10 นาที โดยไม่ต้องส่งคนเข้าไปติดตั้งที่สำนักงานสาขาแต่อย่างใด รวมไปถึงสามารถกำหนดนโยบายการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการเชื่อมต่อกับสำนักงานใหญ่เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วในราคาที่ถูกกว่า MPLS อีกด้วย

นอกจากนี้ SRX300 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น UTM, Anti-malware, Anti-spam, URL Filtering, Application Control และยังสามารถทำงานร่วมกับ Juniper Sky Advanced Threat Prevention เพื่อตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามแบบ Zero-day ได้อีกด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าสำนักงานสาขาสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างมั่นคงปลอดภัย

“ความท้าทายสำคัญของเครือข่าย WAN สำหรับองค์กร คือ ความมั่นคงปลอดภภัย การใช้บริการบน Cloud และ การบริหารจัดการการเชื่อมต่อของสำนักงานสาขา ด้วย Juniper SRX300 ซึ่งเป็น Smart CPE ช่วยให้องค์กรสามารถก้าวข้ามความท้าทายเหล่านั้นไปได้อย่างสิ้นเชิง กลายเป็นปัจจัยสำคัญของการผลิกโฉมเครือข่าย WAN ในปัจจุบัน” — คุณปรเมศวร์ ปรีชญางกูร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการออกแบบโครงข่ายจากบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด กล่าว

วางระบบเครือข่ายในยุค IoT ด้วยคุณสมบัติ Self-driving Network

ในยุคของ Cloud และ Internet of Things อย่างในปัจจุบันนี้ ทั้ง ISP และ Cloud Provider ต่างต้องรองรับการขยายตัวของระบบเครือข่ายออกไปอย่างไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก หรือการขยายสาขา การบริหารจัดการและทำ Automation อุปกรณ์เน็ตเวิร์กทั้งหมดจากศูนย์กลางจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดภาระของผู้ดูแลระบบและช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เน็ตเวิร์กทั้งหมดจะถูกตั้งค่าและทำงานอย่างถูกต้อง

คุณสมบัติเด่นของอุปกรณ์เน็ตเวิร์กของ Juniper Networks คือ รองรับการทำ Automation ตั้งแต่การเริ่ม Provisioning การตั้งค่าอุปกรณ์ และการติดตามการทำงาน ผ่านทางฟีเจอร์ Zero-touch Provisioning และ Ansible Server โดยไม่ต้องติดตั้ง Agent แต่อย่างใด ช่วยให้สามารถขยายระบบเครือข่ายให้พร้อมใช้งานจากหลักวันเหลือเพียงไม่กี่นาที รวมไปถึงสามารถตรวจสอบการทำงานและแก้ไขข้อผิดพลาดของอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว

แนะนำ Juniper Services ออกแบบ ติดตั้ง และดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ

ในยุคดิจิทัลที่มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้สนับสนุนธุรกิจอย่างหลากหลาย การนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้และให้บริการภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาและงบประมาณที่จำกัด ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้า จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายผู้ให้บริการในปัจจุบันเป็นอย่างมาก

Juniper Services พร้อมให้บริการทีมวิศวกรที่มีความรู้และประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งประกอบไปด้วยทีม Professional Services, Advanced Services และ Education Services สำหรับให้คำปรึกษาและแนะนำตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) สำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง เฝ้าระวัง ไปจนถึงการอบรมลูกค้าอย่างครบวงจร เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้บริการสามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ Juniper Networks ไปใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ

ปรับทีมใหม่ พร้อมเจาะตลาดทุกอุตสาหกรรมในไทยและอินโดจีน

Juniper Networks เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ได้ทำตลาดในไทยมาแล้วกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้มุ่งเน้นการทำตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด Service Provider และ FSI แต่ในปี 2018 Juniper Networks เตรียมวางแผนขยายตลาดให้ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม รวมไปถึงเสริมความแข็งแกร่งของพาร์ทเนอร์ให้พร้อมดูแลและสนับสนุนลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญคือ Juniper Networks มีแผนที่จะเจาะตลาดพม่า ลาว และกัมพูชา โดยปรับทีมให้คุณสวิส หงส์พิทักษ์พงศ์ เป็น Lead Partner Account Manager รับผิดชอบด้านการบริหารช่องทางการขายและการตลาดทั้งในประเทศไทยไทยและภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งจะมุ่งเน้นการทำตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

“เรามีความภูมิใจที่ได้นำเสนอโซลูชันด้านเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยยุคใหม่สำหรับขับเคลื่อนธุรกิจของทุกอุตสาหกรรมให้พร้อมแข่งขันในยุค Thailand 4.0 และในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม Juniper Networks และเหล่าพันธมิตรไม่เคยหยุดยั้งที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัล ที่การเชื่อมต่อและการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง” — คุณสวิส หงส์พิทักษ์พงศ์ จาก Juniper Networks ประเทศไทยกล่าว

ติดตามความเคลื่อนไหวและอัปเดตของ Juniper Networks ได้ที่ https://www.juniper.net/us/en/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต โดย Infor

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้งานในธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่ละอุตสาหกรรมก็มีความท้าทายเฉพาะตัวที่ต้องเผชิญหน้า ในอุตสาหกรรมการผลิตเองก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า Supply Chain และอื่นๆ 

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว