Enterprise Mobile Management (EMM) ถือเป็นเทคโนโลยีที่ถูกวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์พกพาเป็นหลักกันมากขึ้น และการต้องการความคล่องตัวที่มากขึ้นในการทำงาน ด้วยเหตุนี้เอง SOTI หนึ่งในผู้นำทางด้านเทคโนโลยี EMM จึงได้ทำการประกาศเปิดตัว SOTI ONE ระบบ Platform รวบรวมโซลูชันสำหรับการทำงานด้วยอุปกรณ์พกพาแบบครบวงจร ที่สามารถบริหารจัดการได้ทั้งอุปกรณ์ Mobile, PC และ IoT ได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังรองรับการพัฒนา Mobile Application ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม เพื่อเสริมความคล่องตัวให้กับเหล่าธุรกิจในการก้าวสู่ Digital Business ได้อย่างเต็มตัว

แนวโน้มการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เทคโนโลยี EMM ต้องปรับตัวตาม
ด้วยจำนวนลูกค้าองค์กรกว่า 17,000 รายจาก 170 ประเทศทั่วโลก ทำให้ SOTI ถือเป็นหนึ่งในแนวหน้าของผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การทำงานสำคัญของธุรกิจองค์กรได้ผ่านทางอุปกรณ์พกพา เพื่อให้เหล่าองค์กรสามารถใช้งานเทคโนโลยี Digital เพื่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะที่พนักงานภายในองค์กรธุรกิจต่างๆ นั้นต่างก็ต้องการความคล่องตัวในการทำงานที่มากขึ้น และยังคงสามารถทำงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัยจากทุกที่ทุกเวลา ในขณะที่องค์กรก็ยังคงต้องสามารถควบคุมการเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ของพนักงานภายในองค์กรได้ ทำให้เทคโนโลยี EMM ต้องเปลี่ยนแปลงไปดังนี้
- การรองรับอุปกรณ์จะต้องมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะ Apple iOS และ Google Android เท่านั้น แต่ Microsoft Windows 10 เองก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่องค์กรยังคงใช้ในการทำงานกันอยู่
- การรองรับอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ให้มีความมั่นคงปลอดภัยนั้นก็ถือเป็นอีกโจทย์ที่สำคัญมาก เพราะในอนาคตทุกองค์กรนั้นก็จะต้องเริ่มใช้งาน IoT ไม่มากก็น้อย
- นอกจากการสื่อสารที่เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานในระดับองค์กรแล้ว การวิเคราะห์ข้อมูลเองก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งงานที่สำคัญสำหรับทุกๆ องค์กรไปแล้ว โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลงานได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์ใดๆ ก็ตามที่เชื่อมต่อถึงระบบเครือข่ายของธุรกิจองค์กรได้อย่างทันท่วงที
- การดูแลรักษาและแก้ไขปัญหาให้กับอุปกรณ์ Endpoint ต่างๆ เองนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบของ Managed Services มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าผู้พัฒนาระบบ EMM จะพัฒนาเพียงแต่เทคโนโลยีไม่ได้แล้ว แต่จะต้องมีบริการเสริมเข้าไปด้วย
ประเด็นเหล่านี้ทำให้ SOTI ต้องทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติม เสริมโซลูชันเดิมให้ตอบโจทย์ความท้าทายที่เหล่าธุรกิจกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และช่วยให้เหล่าธุรกิจชั้นนำสามารถก้าวข้ามความท้าทายที่ต้องเผชิญในอนาคตให้ได้ และนี่เองก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ SOTI ONE
SOTI ONE: Platform รวม 6 โซลูชันด้าน Mobile ในหนึ่งเดียว
เพื่อตอบรับต่อแนวโน้มของการทำงานที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว SOTI จึงได้เลือกที่จะพัฒนาโซลูชันใหญ่ซึ่งรวมเอาความสามารถอันหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาแต่ละข้อได้เป็นอย่างดีมาประกอบรวมกันกลายเป็น Platform ที่มีชื่อเรียกว่า SOTI ONE ทำให้ Platform นี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจในการจัดการกับอุปกรณ์ลูกข่ายที่ใช้ในการทำงานได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วน โดยภายใน SOTI ONE มีโซลูชันย่อยด้วยกัน 6 รายการ ดังต่อไปนี้

- SOTI MobiControl ระบบ EMM สำหรับบริหารจัดการและควบคุมความมั่นคงปลอดภัยเครื่องลูกข่ายทั้ง Apple iOS, Google Android, Microsoft Windows 10 และ Linux ทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับโซลูชันจากผู้ผลิตระบบอื่นๆ ได้มากมาย
- SOTI Assist ระบบ Help Desk สำหรับช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถช่วยผู้ใช้งานแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์พกพาได้อย่างง่ายดายผ่านเทคโนโลยี Remote Control ที่เชื่อมต่อได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างมั่นคงปลอดภัย
- SOTI Snap ระบบพัฒนา Mobile Application แบบ Cross-Platform ที่ทำให้เหล่าองค์กรสามารถสร้าง Mobile Application ได้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยลง อีกทั้งยังลดความซับซ้อนในการพัฒนา Mobile Application สำหรับตอบโจทย์ทางธุรกิจลงได้อย่างชัดเจน
- SOTI Insight ระบบ Business Intelligence ที่ทำงานบน Smartphone เป็นหลักเพื่อใช้ในการทำ Mobile Analytics วิเคราะห์ข้อมูลจาก Application หรือ File ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวและชาญฉลาด
- SOTI Connect โซลูชันสำหรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT อย่างมั่นคงปลอดภัย โดยรองรับได้หลาย Protocol และหลายระบบปฏิบัติการ
- SOTI Collaborate ช่องทางสำหรับการแบ่งปันข้อมูลและปรึกษาปัญหาที่เป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน SOTI ONE ทำให้ SOTI สามารถให้บริการลูกค้าและคู่ค้าได้ดียิ่งขึ้น
SOTI ONE ได้แก้ไขปัญหาการที่ระบบต่างๆ บนอุปกรณ์พกพานั้นทำงานแยกจากกัน ด้วยการเชื่อมผสานทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์พกพา, อุปกรณ์ IoT, Application และระบบ Back-office ที่จำเป็นต่อการทำงาน เรียกได้ว่าเป็นการรวมหลายๆ ความสามารถที่ไม่เคยเห็นในระบบ EMM อื่นมาก่อนเข้าไว้ด้วยกัน และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นก็คงไม่ผิดนัก
บริหารจัดการได้ทั้ง Apple iOS, Google Android, Microsoft Windows และ IoT
SOTI MobiControl ซึ่งเป็นระบบ Mobility Management ที่ได้รับการยอมรับจากเหล่าลูกค้าองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมนั้นสามารถบริหารจัดการได้ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Apple iOS, Google Android, Linux หรือ Microsoft Windows 10 ได้อย่างครบถ้วนจากศูนย์กลางในหน้าจอเดียว ทำให้ทั้งองค์กรที่มีผู้ใช้งาน Smartphone เยอะ หรือองค์กรที่มีการใช้งาน PC เป็นหลักนั้นต่างก็สามารถใช้งาน SOTI ได้อย่างคุ้มค่า ไม่ต้องมีระบบริหารจัดการและควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยของ Mobile Device และ PC แยกจากกัน

การควบรวมการบริหารจัดการของ Endpoint หลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันนี้ ทำให้การ Integrate ระบบต่างๆ เพิ่มเติมเช่น Anti-virus, Backup, Ticketing System สามารถทำได้อย่างไม่ซับซ้อน อีกทั้งการที่มีระบบ IT Inventory Management สำหรับฝั่ง Endpoint เป็นระบบเดียวนี้ก็ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ SOTI Assist เองก็ยังจะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถสนับสนุนการใช้งานอุปกรณ์พกพาของพนักงานในองค์กรได้จากทุกที่ทุกเวลา ทำให้การทำงานของพนักงานทุกคนเกิดความลื่นไหล ในขณะที่ฝ่าย IT เองก็สามารถปฏิบัติงานได้จากทุกที่ทุกเวลาที่มีระบบเครือข่าย การทำงานทั้งหมดจึงเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าแต่ก่อน

พัฒนา Cross Platform Mobile Application ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากของ SOTI ที่เปิดให้องค์กรสามารถพัฒนา Mobile Application ได้เองด้วยวิธีการ Drag and Drop โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเองเลย และง่ายดายในระดับที่ไม่ต้องอาศัยคน IT ทำ แต่เปิดให้พนักงานในแต่ละแผนกสามารถพัฒนา Application ที่ตนเองต้องการใช้งานขึ้นมาได้ ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มเติม Workflow เล็กๆ บนอุปกรณ์พกพาได้อย่างอิสระ รวมถึงสร้าง Application สำหรับใช้ในการเข้าถึงและแสดงข้อมูลได้อย่างคล่องตัว ตอบรับต่อการก้าวสไปสู่การเป็น Digital Business สำหรับองค์กรได้เป็นอย่างดี

บริหารจัดการผ่านระบบ Cloud รองรับการเพิ่มขยายอุปกรณ์ได้อย่างคล่องตัว
SOTI นี้เป็นบริการแบบ Dedicated SaaS ที่มีการแยกการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละองค์กรออกจากกันอย่างชัดเจน และมีทีมงานคอยดูแลรักษาระบบให้ทำงานได้ต่อเนื่อง 24×7 เหมือนบริการ Cloud ชั้นนำ ทำให้องค์กรไม่ต้องลงทุนฝั่ง IT Infrastructure เอง และยังไม่ต้องดูแลรักษาด้านความมั่นคงปลอดภัยด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเพิ่มขยายระบบได้อย่างต่อเนื่อง รองรับการเติบโตขององค์กรได้เป็นอย่างดี
Gartner ยกให้ SOTI เป็นโซลูชัน EMM ที่สามารถตอบโจทย์การบริหารจัดการอุปกรณ์เฉพาะทางได้ดีกว่าผู้ผลิตรายอื่น
ในรายงาน Critical Capabilities for Enterprise Mobility Management Suites ที่เพิ่งตีพิมพ์โดย Gartner เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา SOTI นั้นได้รับคะแนนสูงที่สุดในหมวดของการสนับสนุนอุปกรณ์เฉพาะทางจากการประเมินผู้ผลิตด้วยกันทั้งสิ้น 9 ราย และ Gartner ได้ยกให้ SOTI เป็นผู้ผลิตที่มีความพร้อมสูงสุดสำหรับการบริหารจัดการอุปกรณ์เฉพาะทางและโซลูชันทางด้าน EMM ที่สามารถรักษาความมั่นคงปลอดภัยและบริหารจัดการอุปกรณ์ IoT ได้ อีกทั้งยังระบุด้วยว่า SOTI นั้นมีฐานลูกค้าองค์กรที่ใช้งานจริงสำหรับระบบ IoT ขนาดใหญ่แล้ว ซึ่ง Gartner ได้มองว่าความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์พกพา, PC และอุปกรณ์ IoT ได้จากระยะไกลของ SOTI ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมั่นคงปลอดภัยด้วย EMM นี้ดีที่สุดในบรรดาผู้ผลิตทั้งหมด รวมถึง Gartner ยังได้ยืนยันอีกด้วยว่า SOTI นี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนอุปกรณ์ Apple iOS และ Google Android ได้เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนอุปกรณ์ที่ใช้ Microsoft Windows ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าที่ใช้งาน Windows CE ก็ตาม
ติดต่อทีมงาน DTCi ได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจในโซลูชันของ SOTI และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงาน DTCI พันธมิตรของ SOTI อย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้ทันทีที่ DTC Internetworking Co., Ltd. [บริษัท ดีทีซี อินเตอร์เน็ทเวิร์คกิ้ง จำกัด] 123/3 ถ.นนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120, เบอร์ติดต่อ 02-294-6776 ต่อ 221, Email: Sales@dtci.co.th, Website:http://www.dtci.co.th