Intel IoT จับมือ Impinj ผู้ผลิต RFID ผลักดันระบบบริหารจัดการคลังสินค้าด้วย IoT

การทำ Inventory Management นั้นถือเป็นกระบวนการพื้นฐานของแทบทุกธุรกิจที่ต้องมีการจัดการให้ดี และเป็นปัญหาที่ถือว่าจัดการให้ดีได้ยากมาโดยตลอด วันนี้ทาง Intel IoT ได้จับมือกับ Impinj ผู้ผลิตเทคโนโลยี RFID ระดับโลก พัฒนาโซลูชัน Internet of Things (IoT) สำหรับตลาด Inventory Management หรือระบบบริหารจัดการคลังสินค้าโดยเฉพาะร่วมกัน

Credit: http://blogs.intel.com/iot/2016/06/13/intel-iot-impinj-usher-new-era-inventory-visibility-2/
Credit: http://blogs.intel.com/iot/2016/06/13/intel-iot-impinj-usher-new-era-inventory-visibility-2/

ในความร่วมมือนี้ เทคโนโลยี Intel Retail Sensor Platform จะถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ RAIN RFID Platform ของ Impinj ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ ItemSense ที่จะช่วยทำให้สินค้าต่างๆ ในคลังขององค์กรมีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น และสามารถทำการเข้าถึงข้อมูลของสินค้าในคลังได้แบบเชิงลึกด้วยความแม่นยำที่ระดับเกือบเต็ม 100% แบบ Real-time โดยดูข้อมูลได้ทั้งฝั่งยอดขายและคลังสินค้าร่วมกัน เพื่อเติมเต็มการทำ Omni-Channel ให้สมบูรณ์ พร้อมจะต่อยอดไปยังการทำ Data Analytics ในอนาคตได้

intel_retail_sensor_platform

แน่นอนว่าตลาดหลักของโซลูชันนี้ก็หนีไม่พ้นธุรกิจค้าปลีกที่ระบบนี้จะสามารถติดตามสินค้าได้ทั้งที่อยู่ในคลังและวางอยู่บน Shelf ขายสินค้าไปพร้อมๆ กันด้วย RFID ผสานกับ IoT รวมถึงยังมีอีกประเด็นที่น่าสนใจคือการรองรับการต่อยอดเพื่อทำ Big Data Analytics ได้ด้วย Open Source Platform อย่าง Trusted Analytics Platform (http://trustedanalytics.org/) ได้อีกด้วย

ที่มา: http://blogs.intel.com/iot/2016/06/13/intel-iot-impinj-usher-new-era-inventory-visibility-2/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

จีเอเบิล ชี้ 3 Mega Trend ไอที เปลี่ยนโฉมธุรกิจองค์กรไทย พร้อมเป็น Tech Enabler ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต [PR]

ในยุคที่ธุรกิจองค์กรแข่งขันกันด้วยความเร็ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และผลกำไรที่มากขึ้น การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจรวมถึงผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจองค์กรต่างๆ กำลังมองหา เพราะการดำเนินธุรกิจองค์กรในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง Competitive Advantage เพื่อเป็นฐานในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่าอาวุธที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการพัฒนาคนในองค์กรให้เรียนรู้ทักษะด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ตรงกับกระแสทิศทางเทรนด์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตอบโจทย์ในการสร้างผลกำไรของแต่ละธุรกิจองค์กรในทุกภาคอุตสาหกรรมก็เป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน

อาลีบาบา คลาวด์ เปิด ดาต้าเซ็นเตอร์ แห่งที่สองในประเทศไทยมาพร้อมกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อรองรับ Generative AI และโซลูชันเฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม [PR]

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในประเทศไทย มุ่งเพิ่มสมรรถนะในการตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะเพื่อรองรับแอปพลิเคชัน generative AI และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลและการพัฒนาเทคโนโลยีที่นำสู่ความยั่งยืน