AVEVA เชิญกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมาร่วมบรรยายในเรื่อง ทำไมการเปลี่ยนเข้าสู่ระบบดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมในการปฏิบัติงานที่มีความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น
กลุ่มองค์กรอุตสาหกรรม –พร้อมปรับตัวตามเป้าหมายด้านการพัฒนาอันยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
ผู้ดำเนินรายการ คุณโรเบิร์ต ออปป์ หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลแห่งองค์การ UNDP ได้บรรยายถึงความสำคัญขององค์การต่าง ๆ ที่ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนในการสร้างผลกำไรจากเทคโนโลยีรุ่นใหม่ โดยต้องปรับให้เข้ากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ซึ่งมีเป้าหมาย 17 ข้ออันสอดประสานที่ใช้กันทั่วโลก ออกแบบมาเพื่อเป็น “แม่แบบเพื่อให้พวกเราทุกคนมีหนทางสู่อนาคตที่ดีกว่าและมีความยั่งยืนมากขึ้น” อีกทั้งการผสานรวมของเทคโนโลยีรุ่นใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบคลาวด์ บิ้กดาต้าและระบบการวิเคราะห์ กำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมและรังสรรค์โอกาสใหม่ในทุก ๆ อุตสาหกรรม คุณออปป์ยังชี้ให้เห็นถึงหนทางที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะเป็นหัวใจสำคัญในการหาวิธีแก้ปัญหา ทั้งด้านความท้าทายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างโอกาสการจ้างงานจนไปถึงการสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างประสิทธิภาพ
“การสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเกิดความยั่งยืน ประกอบกับการลงทุนด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมต่างเป็นหนทางสำคัญในการเอื้อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน” คุณออปป์กล่าว “เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้เกิดการพลิกโฉมในเรื่องความยั่งยืน อีกทั้งภารกิจของ UNDP ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกลุ่มองค์กรด้านเทคโนโลยี เช่น AVEVA ที่ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการให้ความสำคัญด้านการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและประเมินผลประโยชน์รอบด้านที่สามารถช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์และใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี”
ผู้ให้บริการเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรม – เป็นผู้เล่นแนวหน้าในสนามแข่งเพื่อให้สร้างให้เกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ซอฟต์แวร์ของ AVEVA ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มีความยั่งยืนในกลุ่มลูกค้ามาหลายปีแล้ว เป้าหมายของบริษัทเราก็คือ ต้องให้ลูกค้าได้รับข้อมูลจริงเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีโซลูชั่นจำนวนมากที่ทางบริษัทเตรียมพร้อมไว้ให้ ดังนั้นเมื่อมีข้อมูลพร้อมแล้ว จะเริ่มเกิดกระบวนการที่ลูกค้าสามารถทำความเข้าใจข้อมูลที่ไม่ปะติดปะต่อกันและสามารถเริ่มทำบางอย่างเพื่อแก้ไขให้ข้อมูลเชื่อมต่อกันได้
คุณเครก เฮย์แมน CEO แห่ง AVEVA ยังกล่าวเสริมว่า “แม้ AVEVA จะกำลังอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของเส้นทางด้านสิ่งแวดล้อม แต่เราก็ได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจของเราให้ตรงตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ดังนั้นจะแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทางบริษัทได้ประกาศเข้าร่วมกับเครือข่าย Global Compact แห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอาสาสมัครเพื่อการพัฒนา การประยุกต์ใช้และการเปิดเผยวิธีการปฏิบัติทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ ด้วยกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ระบบดิจิทัล AVEVA จึงได้จัดเตรียมซอฟต์แวร์โซลูชั่นที่ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มค่า ROI ขึ้นได้ แต่ยังทำให้แบบจำลองทางธุรกิจของกลุ่มลูกค้ามีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อ “สร้างกรอบ” แผนงานด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้าของทางบริษัท ด้วยการจัดเตรียมข้อมูลแบบเรียลไทม์และสนับสนุนประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติงานที่ได้พัฒนาให้ดีขึ้นแล้ว AVEVA จึงมีศักยภาพช่วยเหลือลูกค้านับพันในการลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งลูกค้าบางกลุ่มได้ปล่อยปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์จำนวนสูงมาก”
ชไนเดอร์อิเล็คทริกก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ตามที่ทางบริษัทชไนเดอร์อิเล็คทริกได้กล่าวไว้ว่า เราเหลือเวลาอีกแค่เพียง 10 ปีเท่านั้นที่จะทำไม่ให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นไปอีก 1.5 องศาและผู้คนกำลังคาดหวังว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้น และอยากให้กลุ่มธุรกิจฟื้นตัวมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เพราะว่า คำว่า ดี นั้นยังไม่มากพอ มากกว่านั้นในเดือนมกราคม 2564 ทางบริษัทยังได้รับคัดเลือกให้เป็น องค์กรที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก ในการจัดอันดับประจำปีอันทรงเกียรติ โดยเกิดขึ้นพร้อมกับการที่บริษัทประกาศว่าจะมุ่งมั่นวางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนและเปิดตัวการให้บริการให้คำแนะนำด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย
คุณโอลิเวียร์ บลัม หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และความยั่งยืนแห่งชไนเดอร์อิเล็คทริก ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากองค์กรต่าง ๆ ด้วยการใช้โซลูชั่นแบบ end-to-end “แม้ว่าจะเกิดแรงผลักดันครั้งใหญ่ แต่มีโครงการที่เกี่ยวกับความยั่งยืนเพียงร้อยละ 4 เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องอาศัยกลยุทธ์อันแข็งแกร่ง รวมถึงไม่ต้องอาศัยการวางแผนที่ปฏิบัติใช้ได้จริงเพื่อเปลี่ยนเข้าสู่ระบบดิจิทัล การวัดผล การปฏิบัติใช้ และแม้แต่การปฏิบัติซ้ำ เราได้เริ่มปฏิบัติการรูปแบบนี้มานานกว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งได้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ให้แก่ลูกค้าเราได้ถึงล้านตันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยมุมมองพิเศษและความชำนาญของทางบริษัท พวกเราพร้อมแล้วที่จะก้าวไปข้างหน้าและก้าวไปให้เร็วขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้อื่นเกิดความยั่งยืนและประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนโฉมทางดิจิทัลซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพและความยั่งยืนโดยมีทีมที่ปรึกษาที่ดีที่สุดในวงการคอยดูแล”
ผู้นำทางการเงินเล็งเห็นความยั่งยืนว่าเป็นส่วนสำคัญในการประกอบธุรกิจในทุกวันนี้
คุณเดวิด เมตคาลฟี CEO แห่งบริษัทเวอร์แดนเท็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาและวิจัยอิสระที่มีความเชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์ทางดิจิทัลเพื่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพและความปลอดภัย ESG และความยั่งยืน ความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงานและอาคารอัจฉริยะ โดยให้ความสนใจในเรื่องผลกระทบด้านความยั่งยืนในกลุ่มผู้นำทางการเงิน คุณเมตคาลฟียังชี้ให้เห็นว่า สิ่งแวดล้อมที่มีความท้าทายสำหรับการประกอบธุรกิจในทุกวันนี้จะส่งผลกระทบต่อวิธีการที่กลุ่มธุรกิจจะทำให้เกิดและจัดลำดับความสำคัญเรื่องความยั่งยืน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะปรับเปลี่ยนไปเทียบเท่ากับความสำคัญที่ธุรกิจอื่นได้ให้ความสนใจตั้งแต่แรกเริ่ม “ถ้าเราลองเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงวิกฤตการเงินในปี 2551 ประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนถูกผลักตกไปจากวาระสำคัญต่าง ๆ แต่น่าประหลาดใจที่ประเด็นเหล่านั้นได้นำกลับมาอยู่ในวาระสำคัญในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้” คุณเมตคาลฟียังเสริมอีกว่า “และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่าง กลยุทธ์ความยั่งยืน “แบบตั้งรับ” ในอดีตกับการเปลี่ยนผันทางความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้”
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์คือเป้าหมายของหนทางสู่อนาคต
คุณประกาช กุมาร การุนาการาน หัวหน้าศูนย์ NervCentre แห่งบริษัทปีโตรนัส ชี้ให้เห็นว่า ปีโตรนัสได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนอันมั่นคงอีกครั้งด้วยการให้คำจำกัดความในข้อความแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ว่า ปีโตรนัสเป็น “คู่ค้าที่มีความก้าวหน้าด้านพลังงานและโซลูชั่น ซึ่งทำให้ทุกชีวิตมีคุณภาพที่ดีขึ้นด้วยอนาคตอันยั่งยืน” เขายังกล่าวอีกว่า “ข้อความแสดงวิสัยทัศน์นี้จะกระตุ้นและสร้างจุดยืนด้านความยั่งยืนที่ชัดเจนให้แก่บริษัท” เมื่อปีที่แล้ววิสัยทัศน์ของบริษัทเช่นนี้ยังก่อให้เกิดความตื่นตัวอย่างยิ่งเมื่อ ปีโตรนัสได้ตั้งเป้าหมายอันแน่วแน่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (หรือเรียกว่า NZCE) ภายในปี 2593 เป้าหมายที่มุ่งมั่นเช่นนี้จึงทำให้ต้องกลับมาพิจารณางานด้านวิศวกรรมใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะทำงานได้ตรงตามเป้าหมายด้าน NZCE ได้
คณะผู้ร่วมบรรยายมารวมกัน ณ ที่นี้เพื่อร่วมสังเกตการณ์ว่า แนวทางอันเป็นหัวใจสำคัญในการประกอบธุรกิจและสร้างผลกำไรจะต้องเชื่อมโยงกับเส้นทางสู่ความยั่งยืนของแต่ละองค์กร สาระสำคัญแห่งอนาคตอันยั่งยืนในวงการอุตสาหกรรมจะต้องใช้เป้าหมายร่วมกัน เช่น เป้าหมายต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้ในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ อีกทั้งรัฐบาลกับเอกชนจะต้องใช้หลักการร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนและรังสรรโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้โลกที่เราอยู่ทุกวันนี้สะอาดขึ้น
คุณเฮย์แมนสรุปว่า “การนำหลักการสากลเข้ามาปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนจะทำให้วงการอุตสาหกรรมสามารถพัฒนาเป้าหมายด้านความยั่งยืนไปได้พร้อมกับวงการอื่น ๆ นั่นรวมถึงการไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิสู่ชั้นบรรยากาศ พวกเราชาว AVEVA ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับลูกค้า พันธมิตรและคู่ค้าในการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเพื่อช่วยจัดการและวัดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ้นท์ เรายังมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน นั่นก็คือพลังงานที่มีราคาเหมาะสมและสะอาด นวัตกรรมทางอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน เมืองและชุมชนที่มีความยั่งยืน รวมถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดีอีกด้วย”
เกี่ยวกับ AVEVA
AVEVA เป็นผู้นำโลกด้านซอฟต์แวร์วิศวกรรมและอุตสาหกรรมซึ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนโฉมทางดิจิทัลทั่วทั้งสินทรัพย์ทั้งหมดและวงจรชีวิตของการปฏิบัติการในอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิต พร้อมด้วยงานวิศวกรรม การวางแผนและการปฏิบัติงาน ความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ และโซลูชั่นการติดตามและการควบคุม ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์จากลูกค้ากว่า 16,000 รายทั่วโลก ระบบนิเวศทางซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเราได้ดูแลลูกค้า รวมถึงผู้ร่วมธุรกิจกว่า 4,200 รายและผู้พัฒนาที่ได้รับการรับรองแล้วกว่า 5,700 ราย AVEVA มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร และมีพนักงานมากกว่า 4,400 คน สำนักงาน 80 แห่งในกว่า 40 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าไปที่ www.aveva.com