ขณะที่อุตสาหกรรมต่างๆ กำลังปรับตัวให้สอดรับกับกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล อะโดบีได้แต่งตั้ง “คณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศ (International Advisory Board)” เป็นครั้งแรก เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการรับมือกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) เพื่อสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้าในโลกยุคใหม่ คณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศของอะโดบีประกอบด้วยผู้นำ 6 ท่านที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเรื่องระหว่างประเทศ และมีประสบการณ์ในการให้คำแนะนำแก่องค์กรชั้นนำสำหรับการฟันฝ่าวิกฤติ และการปฏิรูปองค์กร ทั้งในส่วนของภาคธุรกิจ B2B, B2C และภาครัฐ
คณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศได้รับการสรรหาโดยพิจารณาจากประสบการณ์ความเป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงภาคการเงิน ค้าปลีก ยานยนต์ โรงแรม สินค้าอุปโภค-บริโภค สื่อและบันเทิง พลังงาน และการดูแลสุขภาพ และเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในองค์กรขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศ ได้แก่ พอล ร็อบสัน ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของอะโดบี
รายชื่อคณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศมีดังนี้:
บาร์บาร่า คักซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ด้วยประสบการณ์การเป็นคณะกรรมการในหลายบริษัท และประสบการณ์ระดับบริหารในอุตสาหกรรมอุปโภค-บริโภคมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มงานในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการจัดการของ McKinsey และทำหน้าที่เป็นกรรมการกำกับดูแลให้กับ Henkel และ Grosvenor Group รวมถึงเป็นรองประธานกรรมการของ Firmenich บริษัทน้ำหอมที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2556 บาร์บาร่า คักซ์ ทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหารของ Siemens โดยเป็นผู้หญิงคนแรกที่เคยดำรงตำแหน่งนี้ในระยะเวลา 160 ปีนับตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัท นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในโครงการสำคัญๆ ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและธรรมาภิบาล และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการจัดการที่ซีเมนส์ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น บริษัท อุตสาหกรรมที่ยั่งยืนที่สุดในโลกในปี 2555
โบดูอิน พร็อต มีประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 40 ปีในธุรกิจธนาคารระดับโลก เคยดำรงตำแหน่งซีอีโอและประธานกรรมการบริหารของ BNP Paribas นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหารให้กับ Kering กลุ่มธุรกิจสินค้าแบรนด์หรูของฝรั่งเศส รวมถึง Finastra ผู้นำด้านการให้บริการซอฟต์แวร์ฟินเทค และ Alstom บริษัทข้ามชาติในธุรกิจการผลิตรถไฟ และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของ Boston Consulting Group
ดร. ดีเทอร์ เซทช์ ประธานกรรมการบริหารของ TUI AG และเป็นกรรมการบริหารของ Daimler AG ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2541 นอกจากนี้ เคยทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหารของ Daimler AG ในช่วงปี 2549 ถึง 2552 และในระยะเวลาดังกล่าว ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายธุรกิจรถยนต์ Mercedes-Benz เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของ Daimler ในบราซิลและอาร์เจนติน่า และเคยเป็นประธานบริษัท Freightliner Corporation และหัวหน้าฝ่ายยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และซีอีโอของ Chrysler Group
ศาสตราจารย์ เฮโซ ทาเคนากะ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทาเคนากะเคยเข้าร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโคอิซูมิในช่วงปี 2544 ถึง 2549 ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายการคลัง และหลังจากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงบริการด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเคยทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลการแปรรูปกิจการไปรษณีย์ และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยและการสื่อสาร ทาเคนากะ เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะกรรมการด้านกลยุทธ์เศรษฐกิจเมื่อปี 2541 และคณะกรรมการด้านกลยุทธ์ไอทีเมื่อปี 2543 ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคโอะ นอกจากนี้ ทาเคนากะ ยังดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาและคณะกรรมการด้านอื่นๆ อีกหลายตำแหน่ง เช่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านการรักษาความปลอดภัยระดับโลก และประธานกรรมการบริหารของ Pasona Group, Inc. เป็นต้น
ไนเจล ฮินเชลวูด เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้า HSBC UK และรองซีอีโอของ HSBC Bank plc. เขาเคยทำหน้าที่เป็นผู้บริหารในหลายๆ ตำแหน่งภายในกลุ่มบริษัท HSBC รวมถึงหัวหน้า HSBC Insurance Holdings, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการภาคพื้น EMEA และหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระอาวุโสของ Lloyds Bank Plc และ Bank of Scotland Plc, ผู้อำนวยการและประธานคณะกรรมการด้านความเสี่ยงของ Nordea Bank นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการด้านเทคโนโลยีและการปฏิรูปของ Lloyd’s of London อีกด้วย
แพทริค อัลลาเวย์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของ Bank of Queensland และกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารของ Dexus Funds Management Ltd และ Allianz Australia เขามีประสบการณ์ที่ยาวนานในตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัท และเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารและตำแหน่งอื่นๆ ใน Citibank และ Swiss Bank Corporation (ปัจจุบันคือ UBS) และไนน์เอ็นเตอร์เทน และเคยเป็นประธานกรรมการบริหารของ Saltbush Capital Markets
พอล ร็อบสัน ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศ และประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของอะโดบี กล่าวว่า “ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลขับเคลื่อนโดยอาศัยความสัมพันธ์กับลูกค้า และปัจจุบันองค์กรธุรกิจจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในทุกที่ทั่วโลกกำลังปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกับลูกค้า และดึงดูดลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล อะโดบีและคณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศจะให้ความช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในปรับเปลี่ยน Customer Journeys อย่างเหมาะสม เพราะประสบการณ์ลูกค้าและการมีความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ”
ธุรกิจในต่างประเทศของอะโดบีครอบคลุม 160 ประเทศในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA), เอเชีย-แปซิฟิก (APAC) และญี่ปุ่น และมีพนักงานเกือบ 10,000 คน อะโดบีมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและพร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำตลาดด้านงานสร้างสรรค์ เอกสารดิจิทัล และการจัดการประสบการณ์ลูกค้า
เมื่อไม่นานมานี้ อะโดบีได้รายงานผลประกอบการไตรมาสหนึ่งของบริษัท คลิ๊กดูเพิ่มเติม ที่นี่
เกี่ยวกับ อะโดบี
อะโดบีเปลี่ยนโลกผ่านประสบการณ์ด้านดิจิทัล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.adobe.com