Google ได้รับอนุญาตให้เริ่มการทดสอบระบบ Wi-Fi บนย่านความถี่ 3.5 GHz หรือที่เรียกว่า “Innovation Band” ในเมืองแคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสามารถใช้เสาไฟสำหรับติดตั้ง Antenna กระจายสัญญาณบนย่านที่อยู่อาศัย 8 จุดรวมกลางเมือง
Innovative Band ย่านความถี่ใหม่ 3.5 GHz
หลังจากที่ Federal Communications Commission (FCC) ออก Framework สำหรับ “บริการคลื่นวิทยุบรอดแบนด์สำหรับประชาชน” ที่จะใช้ย่านความถี่ 3.5 GHz ในการรับส่งข้อมูล และมีการแชร์สเปกตรัมแบบไดนามิก เมื่อปีที่ผ่านมา จึงได้มีการเตรียมพร้อมทดสอบการใช้จริงขึ้น โดยทาง Google ชนะการโหวต 11-2 ในการใช้เสาไฟของเมืองแคนซัสซิตี้เพื่อติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สายในแถบที่อยู่อาศัย 8 จุด รวมถึงเขตกลางเมืองใกล้ออฟฟิศของ Google ซึ่งระยะการทดสอบจะกินเวลานาน 18 เดือน
Credit: Diego Schtutman/ShutterStock
เตรียมให้บริการอุปกรณ์พกพาและ IoT
การทดสอบ Wi-Fi บนคลื่นความถี่ 3.5 GHz นี้ ช่วยให้ Google สามารถให้บริการการเชื่อมต่อแบบไร้สายแก่บ้านเรือนหรือสำนักงานต่างๆ ที่อยู่นอกเขต Google Fibre คาดการณ์ว่าคลื่นความถี่นี้จะเพิ่มช่องทางการให้บริการอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต รวมไปถึงอุปกรณ์ Internet of Things ในอนาคต อย่างไรก็ตาม สำหรับช่วงแรกที่ทดสอบ คงจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi USB สำหรับเป็นเสารับสัญญาณคลื่นความถี่ 3.5 GHz ในการเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คไปก่อน
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
ตามทฤษฎีแล้ว คาดว่าย่านความถี่ดังกล่าวจะรองรับความเร็วได้สูงสุด 300 Mbps ซึ่งสูงกว่า 4G LTE ที่ให้บริการความเร็วประมาณ 10 – 20 Mbps หลายสิบเท่า นอกจากนี้ Google ยังยืนยันว่า ย่านความถี่ที่ใช้นี้ สามารถทำงานร่วมกับ LTE และระบบเรดาห์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ใช้คลื่นความถี่ 3.5 GHz เหมือนกันได้อย่างไร้ปัญหา
Google ต้องจ่ายเงิน $45 หรือประมาณ 1,500 บาทต่อต้น ต่อปี ในการใช้เสาไฟสำหรับช่องทดสอบ และ $540 (ประมาณ 19,000 บาท) ต่อต้น ต่อปี หลังจากนั้น