
Gigamon จับมือ FireEye และ Riverbed เสริมความสามารถด้าน Deployment, Monitoring และ Management บน Hybrid Cloud ให้ Gigamon Hawk ซึ่งเป็นโซลูชันทางด้าน Visibility & Analytics Fabric ตัวแรกของตลาดที่สามารถติดตามเหตุการณ์และวิเคราะห์ทราฟฟิกทั้งบนเครือข่ายภายใน Data Center และเชื่อมต่อกับระบบ Cloud รวมไปถึงข้อมูลที่รับส่งระหว่างกันได้อย่างครอบคลุม

ขจัดช่องโหว่ด้าน Visibility บน Hybrid Cloud ด้วย Gigamon Hawk
หลายองค์กรในปัจจุบันมักประสบปัญหาด้าน Visibility บน Hybrid Cloud Gigamon จึงได้เปิดตัว Hawk โซลูชัน Visibility & Analytics Fabric ตัวแรกในตลาดที่มีความยืดหยุ่นสูง สำหรับติดตามข้อมูลที่รับส่งไปมา (Data-in-Motion) ระหว่างเครือข่ายระบบ Cloud ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและรักษาความมั่นคงปลอดภัยบน Cloud Operations ได้โดยอัตโนมัติ
Gigamon Hawk ถูกออกแบบมาให้องค์กรสามารถมี Visibility ครอบคลุมทุก Cloud ที่ใช้งาน ทั้ง Public และ Private Cloud มีจุดเด่นที่สามารถติดตามเหตุการณ์ของทุก Workload ทั้ง Virtual, Container หรือ Physical Infrastructure ได้ สำหรับเครื่องมือด้านเครือข่ายแบบดั้งเดิม Hawk จะให้บริการความสามารถด้าน Visibility บนระบบ Cloud ตั้งแต่ Layer 2 – 7 โดยไม่ต้องติดตั้ง Agent เพิ่มเติม เช่นเดียวกัน สำหรับเครื่องมือบน Cloud นั้น Hawk จะให้บริการความสามารถด้าน Visibility บนข้อมูลที่รับส่งไปมาบนเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นทราฟฟิกที่รับส่งแบบ East-West ระหว่าง Container หรืออุปกรณ์ประเภท Unmanaged ผ่านทาง Network Application Metadata
นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติ Visibility-as-Code ของ Hawk ทำให้สามารถฝังเข้าไปยังระบบ Cloud Automation เพื่อให้สามารถขยายระบบแบบ Scale-up และ Scale-out ได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการอีกด้วย
จับมือ FireEye เพิ่มความมั่นคงปลอดภัยในการใช้ Hybrid Cloud
ความต้องการในการเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ระบบ IT เป็นแรงขับเคลื่อนในองค์กรพยายามพลิกโฉม Digital Infrastructure ใหม่ และเพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพ พร้อมใช้งานได้ทันความต้องการของตลาด หลายองค์กรจำเป็นต้องรีบเร่งวางระบบแอปพลิเคชันและนำเครื่องมือช่วยบริหารจัดการเข้ามาใช้งาน ความรีบเร่งนี้ส่งผลกระทบต่อรากฐานของเครือข่าย Hybrid Cloud และนำอาจไปสู่ช่องโหว่ด้าน Visibility ได้
Gigamon จึงได้ผสานความร่วมมือกับ FireEye เพื่ออุดช่องโหว่ดังกล่าว ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ Gigamon Hawk สามารถใช้งานโซลูชัน Cloud Network Security ของ FireEye บน Hybrid Cloud ได้ทันที รวมไปถึงสามารถขยายขอบเขตการเฝ้าระวังและติดตามทราฟฟิกได้โดยอัตโนมัติเพื่อรองรับระบบที่ใหญ่มากขึ้น นอกจากนี้ Gigamon Hawk ยังช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง Landing Zone บน Cloud ที่รวมมาตรการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยของทั้ง FireEye และผู้ให้บริการอื่นๆ ไว้ด้วยกัน เพิ่มทางเลือกในการปรับโครงสร้างของมาตรการความคุม นโยบาย และกฎระเบียบข้อบังคับด้านความมั่นคงปลอดภัยบน Cloud ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
“Gigamon Hawk ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่เทคโนโลยี Cloud Visibility ตอนนี้การใช้เครื่องมือสำหรับเฝ้าระวังและรักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบดั้งเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อการทำงานแบบไฮบริดได้ย้ายและอาศัยการใช้งานบน Cloud เพื่อรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจให้เหมือนปกติ Gigamon Hawk จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและได้รับข้อมูลเชิงลึกของไฮบริดคลาวด์ได้อย่างบูรณาการ” — Ramesh Gupta, Senior Vice President, Engineering for Network Security จาก FireEye กล่าว

ร่วมมือกับ Riverbed เพิ่มขีดความสามารถด้าน Visibility บน Hybrid Cloud Network
นอกจาก FireEye แล้ว Gigamon ยังได้ผสานความร่วมมือกับ Riverbed ผู้นำด้าน Network Performance Management (NPM) เพื่อขยายขอบเขตด้าน Packet, Flow และ Device Visibility ให้ครอบคลุมทั้ง Data Center, สำนักงานสาขา, Hybrid Cloud และ Multi-cloud ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหาด้านเครือข่ายและแอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ NPM ของ Riverbed ช่วยเพิ่ม Visiblity ในการค้นหาภัยคุกคามไซเบอร์ ส่งผลให้การตรวจสอบและดำเนินการรับมือสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ การผสานความร่วมมือกับ FireEye และ Gigamon ยังช่วยอุดช่องโหว่ด้าน Visibility ด้วยการสร้างมุมมองแบบบูรณาการซึ่งครอบคลุม Hybrid Infrastructure ทั้งหมด ผู้ดูแลระบบสามารถติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ผ่านทางหน้าต่างบริหารจัดการที่ใช้งานได้ง่ายเพียงหน้าเดียว รวมไปถึงสามารถจัดทำรายงานได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการอีกด้วย
“เราตระหนักดีถึงความท้าทายและความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เป็นผลมาจากการเริ่มแผนทำ Digital Transformation ขององค์กร โซลูชัน Gigamon Hawk และ Riverbed NVM มอบความช่วยเหลือที่จำเป็นทางด้าน Visibility รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะการทำงานและความมั่นคงปลอดภัยของ On-prem และ Multi-cloud Infrastructure” — Judy Mirkin, Vice President of Strategic Alliances จาก Riverbed กล่าว

แต่งตั้ง ศักดิ์ชาย ปัญญจเร เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย
เพื่อสนับสนุนพาร์ทเนอร์และลูกค้าในประเทศไทย Gigamon ได้แต่งตั้งคุณศักดิ์ชาย ปัญญจเร ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการ Network & Security มานานกว่า 20 ปี และเป็นอดีตผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย เวียดนาม และอินโดจีน ของ HPE Aruba เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ และด้วยคอนเนคชันที่คุณศักดิ์ชายมี จะช่วยให้ Gigamon สามารถเข้าถึงลูกค้าองค์กร พาร์ทเนอร์รายใหม่ๆ และรุกตลาดด้านความมั่นคงปลอดภัยในไทยได้เร็วยิ่งขึ้น

“การจับมือกับ FireEye และ Riverbed นี้ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ทราฟฟิกประเภท East-West ระหว่าง Container รวมไปถึงลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ Hybrid Cloud และ Multi-cloud ซึ่งเป็นความท้าทายขององค์กรดิจิทัลยุคใหม่” — คุณศักดิ์ชายกล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Gigamon Technology Partners: https://www.gigamon.com/partners/technology-partners.html