Gartner ได้เปิดเผย Hype Cycle ประจำปี 2016 เพื่อแบ่งแยกแนวโน้มของเทคโนโลยีต่างๆ ว่าเทคโนโลยีใดกำลังอยู่ในขั้นไหน ซึ่งในปีนี้ Gartner สามารถแบ่งเทรนด์ออกได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ ด้วยกัน ดังนี้
ประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยีเริ่มถูกกลืนเข้าไปกับสิ่งต่างๆ โดยเทคโนโลยีนั้นจะถูกออกแบบให้เป็น Human-centric มากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้การเชื่อมโยงกันระหว่างผู้คน, ธุรกิจ และสิ่งต่างๆ ผสานรวมเข้ากันได้มากขึ้น และเทคโนโลยีเองก็จะเริ่มรองรับการปรับตัว, การนำข้อมูลรอบด้านเข้าไปร่วมประมวลผล และกลมกลืนไปกับที่ทำงาน, บ้าน และสามารถโต้ตอบกับเหล่าธุรกิจหรือผู้คนได้
การเข้าสู่ยุคของ Smart Machine ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก 10 ปีถัดจากนี้ซึ่งพลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง, เกิดข้อมูลปริมาณมหาศาล และเทคโนโลยี Deep Neural Networks ก็จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยวิธีการใหม่ๆ หรือแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีใครเจอมาก่อนได้อย่างรวดเร็วนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยเหล่าองค์กรควรจะเริ่มพิจารณาเทคโนโลยีดังนี้ Smart Dust, Machine Learning, Virtual Personal Assistants, Cognitive Expert Advisors, Smart Data Discovery, Smart Workspace, Conversational User Interfaces, Smart Robots, Commercial UAVs (Drones), Autonomous Vehicles, Natural-Language Question Answering, Personal Analytics, Enterprise Taxonomy and Ontology Management, Data Broker PaaS (dbrPaaS) และ Context Brokering
Platform จะเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด จากเดิมที่เป็น Technical Infrastructure นั้น โลกเราจะก้าวเข้าสู่การเป็น Ecosystem-enabling Platform แทน และ Platform นี้เองก็จะกลายเป็นรากฐานให้กับโมเดลการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ และเป็นตัวเชื่อมผสานกันระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีต่อไป ซึ่งองค์กรเองก็ต้องเริ่มมองการปรับธุรกิจให้กลายเป็น Platform-based ให้มากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มนี้ก็ได้แก่ Neuromorphic Hardware, Quantum Computing, Blockchain, IoT Platform และ Software-Defined Security and Software-Defined Anything (SDx)