TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
ความยั่งยืน(Sustainability) เป็นกระแสที่มาแรงในธุรกิจ ซึ่งโลกเรียกร้องให้ธุรกิจต้องสร้างผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนหรือสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง ที่ธุรกิจเองต้องมีความรับผิดชอบในกระบวนการต่างๆเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่ตัวเองแต่ยังต้องครอบคลุมถึงคู่ค้าตลอดทั้งวงจรการผลิตจนกระทั่งการเลิกใช้
อย่างไรก็ดีหลายประเทศเริ่มมีการจัดตั้งกฎหมายสำหรับการค้าที่มีการบังคับให้ผู้ประกอบการเปิดเผยตัวเลขเรื่องการใช้พลังงาน หรือกระบวนการผลิตที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ผู้ลงทุนในปัจจุบันยังเริ่มพิจารณาธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นด้วย เช่นเดียวกับที่ผู้บริโภคเองมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
การวัดผลสัมฤทธิ์ในความยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากทีเดียว เพราะต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยมากมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ของธุรกิจ ด้วยเหตุนี้เองในมุมของผู้ให้บริการด้านไอทีอย่าง Fujitsu และ NetApp จึงได้ร่วมกันสร้างเครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลนโยบายด้านความยั่งยืนได้
ESG และ Sustainability
เมื่อกล่าวถึงหัวข้อด้านความยั่งยืน หลายท่านมักได้ยินคำศัพท์ชวนสับสนอีกหนึ่งคำ นั่นก็คือ ESG เช่น ESG Report โดยเป็นคำย่อของศัพท์ Environmental, Social และ Governance ในขณะที่ความยั่งยืนคือกระบวนการปฏิบัติของธุรกิจที่จะนำไปสู่การตอบโจทย์ด้าน เศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม เช่น หากพูดถึง Environmental Sustainability ก็จะหมายถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่หากต้องการให้ธุรกิจมีความยั่งยืน (Corporate Sustainability) ก็ต้องมีการกำกับดูแลอย่างมีจริยธรรม มีความรับผิดชอบ และดูแลความเป็นอยู่ของบุคคลากร เป็นต้น
โดย ESG คือเครื่องมือวัดผลใน 3 มุมมองเพื่อชี้แจงกับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น ว่าองค์กรมีการดำเนินการเป็นอย่างไร มีความหมายคือ
- (E)nvironmental – ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานหมุนเวียน อัตราการปลดปล่อยคาร์บอนและมลพิษทางอากาศ การใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบการบำบัดน้ำเสีย ผลกระทบทางชีวภาพ สารเคมีที่เกิดขึ้น การจัดการขยะ
- (S)ocial – ความพึงพอใจจากลูกค้าและพนักงานต่อองค์กร สิทธิมนุษยชน เพศเท่าเทียม เงื่อนไขในการจ้างงานที่เป็นธรรม การปกป้องข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลส่วนบุคคล มาตรฐานแรงงาน ค่าแรงที่สมเหตุสมผล ความเอาใจใส่พนักงาน ความสัมพันธ์ต่อชุมชน
- (G)overnance – ความโปร่งใสขององค์กร ล็อบบี้ ทุจริต สินบน องค์ประกอบของบอร์ดบริหารไม่ให้อำนาจมากเกินไปต่อกลุ่มคนหรือบุคคล โครงสร้างค่าตอบแทนผู้บริหาร ป้องกันการเปิดเผยความลับ ความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือนักการเมือง เรื่องเหล่านี้ต้องมีคณะกรรมการคอยตรวจสอบดูแล
โอกาสใหม่ทางธุรกิจ และ ผลกระทบจากข้อมูล
องค์กรจำนวนไม่น้อยกำลังถูกกำกับดูแลทางกฏหมาย ยกตัวอย่างเช่นกฎหมายในเยอรมันที่มีการควบคุมถึงว่าสินค้าต้องไม่อาศัยแรงงานที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือในกรณีของสหภาพยุโรปหลายท่านคงทราบเรื่องของการบังคับใช้คาร์บอนเครดิตกันมาบ้างแล้ว อย่างน้อยที่สุดท่านจะต้องทราบให้ได้ก่อนว่าในกระบวนการผลิตของท่านมีอัตราการปลดปล่อยคาร์บอนเท่าไหร่ แม้ฟังดูแล้วค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่แท้จริงแล้วซับซ้อนเป็นอย่างมาก
สาเหตุที่การวัดผลทำได้ค่อนข้างยากก็เพราะโดยปกติแล้วการผลิตสินค้าหนึ่งชิ้นมักเกี่ยวข้องกับคู่ค้าจำนวนมาก เช่น การผลิตเคมี การขึ้นรูปวัสดุ การประกอบ การขนส่ง เป็นต้น ซึ่งนั่นหมายความว่าธุรกิจต้องมีการร้องขอข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก นอกจากแค่ส่วนของตนเอง ที่สำคัญกว่านั้นคือจะใช้เครื่องมืออะไรเพื่อวัดผลส่วนต่างๆ อีกทั้งความน่าเชื่อถือของตัวเลขที่ผู้อื่นให้มาอาจมีคุณภาพไม่เท่ากัน
ด้วยเหตุนี้เองหลายองค์กรกำลังพยายามนำไอทีเข้ามาช่วยในการประเมินตัวเลขดังกล่าว Fujitsu ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันไอทีระดับองค์กรสามารถให้คำปรึกษาได้ว่าองค์กรควรเริ่มต้นแนวทางวัดผลด้านความยั่งยืนอย่างไร ตั้งแต่การเลือกโซลูชันที่เกี่ยวข้อง หรือการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับวัดผลข้อมูลในกระบวนการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น Fujitsu มีประสบการณ์พัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้หลายธุรกิจเพื่อติดตามอัตราการปลดปล่อยคาร์บอนในแต่ละกระบวนการของธุรกิจ ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยลดต้นทุนในการทำงาน อย่างไรก็ดี Fujitsu มองเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่กำลังมุ่งสู่หนทางความยั่งยืน อีกทั้งยังกระตุ้นให้โลกธุรกิจเกิดผลิตภัณธ์และบริการใหม่ตามมาด้วย
ในระบบไอทีข้อมูลมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการปลดปล่อยคาร์บอนอย่างที่องค์กรคิดไม่ถึง เนื่องจากข้อมูลคือสินทรัพย์ดิจิทัลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดแวร์ และเมื่อข้อมูลมีอัตราเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเร่งเพิ่มขึ้นทุกปี จึงมีการประเมินกันว่าภายในปี 2030 อัตราการปล่อยคาร์บอนจากโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการจัดเก็บข้อมูลจะมีบทบาทอย่างมากต่อการใช้พลังงานและสร้างการปล่อยคาร์บอน มาถึงตรงนี้องค์กรสามารถตอบได้หรือไม่ว่าปัจจุบันท่านมีการจัดเก็บข้อมูลขององค์กรอยู่ที่ใดบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน และเลือกใช้การเก็บอย่างไร คุ้มค่าจริงหรือไม่ ซึ่งเพื่อการจัดการข้อมูลอย่างคุ้มค่าที่สุด NetApp จึงนำเสนอโซลูชัน NetApp BlueXP และ ONTAP ที่จะช่วยให้องค์กรบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างคุ้มค่า เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรอย่างแท้จริง
Fujitsu UVANCE สร้างโลกที่ยั่งยืน
ในปี 2022 ที่ผ่านมา Fujitsu ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการและโซลูชันไอทีระดับองค์กร ได้เปิดตัวแนวทางของธุรกิจที่นำเสนอการตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนเป็นสำคัญ โดยมุ่งเน้นการจัดการ 4 ความท้าทาย คือ Sustainable Manufacture, Consumer Experience, Healthy Living และ Trusted Society ที่สามารถจัดการได้ด้วยโซลูชัน 3 หมวดคือ Digital Shifts, Business Application และ Hybrid IT โดยเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไอทีเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีต่างๆ
การประกาศแนวทางสำหรับธุรกิจยังก่อให้เกิดการเดินหน้าที่เป็นรูปธรรมของ Fujitsu เช่น บริการใหม่ด้านความยั่งยืนที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัท ด้วยการจับมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันวัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ผนวกกับความเชี่ยวชาญเดิมเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ไอที และการรู้จักลูกค้า นอกจากนี้ยังเข้าร่วมในการโครงการที่เปิดเผยอัตราการปลดปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตของตนด้วย
Fujitsu ไม่ใช่แค่ผู้ให้คำปรึกษาด้านไอทีแต่ยังเป็นผู้ผลิตสินค้าไอทีเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ในแง่ของผู้ผลิต Fujitsu ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับแผนความยั่งยืนทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุและสารเคมีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงการขนส่งให้คุ้มค่า ออกแบบให้สินค้านำกลับมารีไซเคิลได้ ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ตลอดจนการคัดเลือกคู่ค้าในห่วงโซอุปทานอย่างเข้มงวด
ที่ NetApp เราจริงจังกับการสร้างโลกที่ยั่งยืน
NetApp เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนเป็นอย่างมาก โดยมีการจัดทำรายงาน ESG ทุกปีที่แสดงความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการในแง่มุมต่างๆ ดังนี้
- ตั้งเป้าเกณฑ์พัฒนาด้านความยั่งยืนตาม Science based target (SBTi) ในระดับ 1, 2 และ 3 โดยว่าด้วยเรื่องของการลดอัตราการใช้ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ในข้อที่ 3 ที่คนส่วนมากมักละเลยคือการปรับปรุงภาพรวมการผลิตที่ตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งหมดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ NetApp ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการผู้ดูแลโดยตรง รวมถึงจากคณะปฏิบัติงานภาคส่วนต่างๆเพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดขึ้นจริงทั้งในแง่ของการปล่อยคาร์บอน การจัดการขยะ และน้ำ
- มีการเข้าร่วมในโปรเจ็คเพื่อเปิดเผยตัวเลขการปลดปล่อยคาร์บอนหลายโครงการ นอกจากนี้ออฟฟิศและศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์หลายแห่งยังมีการนำพลังงานทดแทนเข้ามาใช้
- ในมุมเชิงสังคม NetApp ได้สร้างความเท่าเทียมทุกระดับด้านเชื้อชาติ เพศ อายุ ให้เกิดขึ้นในทุกระดับตำแหน่งงาน รวมถึงให้สวัสดิการที่ดี สนับสนุนการเรียนรู้และมีแผนการเติบโตรองรับในตำแหน่งต่างๆ ตั้งแต่ผู้เริ่มทำงานไปจนถึงระดับบริหาร นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้พนักงานทำงานอาสาต่างๆ ซึ่งบริษัทเองก็มีการบริจาคในองค์กรการกุศลอย่างต่อเนื่อง
- การปกครององค์กรของ NetApp มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่การใช้กรรมการอิสระและผู้ตรวจสอบในมุมมองของระเบียบนโยบายและด้านบุคคลากรที่แยกกัน ที่สำคัญคือสร้างวัฒนธรรมที่ต่อต้านการทุจริตและสร้างความเท่าเทียม ให้ความเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดีการดำเนินการทั้งหมดต้องอยู่ภายในความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล ข้อมูลต้องถูกปกป้องอย่างสูงสุด โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น GDPR, ISO 27001 และ NIST เป็นต้น
NetApp BlueXP และ ONTAP โซลูชันเพื่อการเก็บข้อมูลในโลกที่ยั่งยืน
การวัดผลอัตราการปลดปล่อยคาร์บอนนั้นต้องอาศัยความร่วมมือในหลายส่วน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากผู้ผลิตเองไม่ได้เตรียมการหรือสร้างมาตรฐานไว้แต่แรก โดยผู้ใช้งาน NetApp จะสามารถวัดผลแพลตฟอร์มข้อมูลของท่านได้ผ่านโซลูชันที่ชื่อว่า BlueXP ที่รองรับข้อมูลที่อยู่ใน On-premise และ Cloud ไว้ในที่เดียว ประโยชน์ก็คือองค์กรสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปสื่อสารกับผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น หรือปรับปรุงกระบวนการใช้ข้อมูลของตนได้ โดยภายในแพลตฟอร์มจะมีตัวเลขที่แสดงถึง KPI ด้านความยั่งยืนของธุรกิจด้วย ว่ามีความก้าวหน้ามากเพียงใด ที่สำคัญคือผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลเชิงลึกลงไปได้ถึงระดับคลัสเตอร์และโหนดได้
นอกจากจะเป็นกระดานแสดงผลตัวเลขต่างๆ BlueXP ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันในการปฏิบัติการที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้ด้วย Blue XP powered by cloud data sense ที่มี AI ขั้นสูง ช่วยวิเคราะห์การใช้งานข้อมูลในองค์กรได้ว่ามีข้อมูลประเภทใดถูกใช้อยู่ จัดเก็บอยู่ที่ใด ใครมีสิทธิเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถออกเป็นรายงานเพื่อนำเสนอผู้เกี่ยวข้อง
ไม่เพียงเท่านั้น BlueXP ยังมาพร้อมกับความสามารถช่วยนำข้อมูลขึ้นคลาวด์(Sync) รวมถึงสำรองและกู้คืนข้อมูล (Backup & Recovery) ที่สำคัญคือเมื่อทราบแล้วว่าแต่ละข้อมูลมีความจำเป็นมากน้อยอย่างไร BlueXP Tiering จะช่วยจัดลำดับข้อมูลให้สอดคล้องกับงานของท่านได้ เพราะคลาวด์เองมีบริการจัดเก็บข้อมูลหลายประเภท ที่ช่วยลดต้นทุนในการจัดเก็บได้
ในกรณีการเก็บข้อมูลบนฮาร์ดแวร์ระบบปฏิบัติการ NetApp ONTAP ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่จะช่วยให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าทุกการจัดเก็บข้อมูลนั้น เกิดขึ้นอย่างคุ้มค่าที่สุดแล้ว ด้วยคุณสมบัติเช่น Deduplication, Thin provisioning, Compression, Snapshot copy, Volume snap mirroring, Flash Cache, Flash Pool และอื่นๆ โดยในมุมของฮาร์ดแวร์เองผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เทคโนโลยี All flash ที่ช่วยตอบโจทย์ประสิทธิภาพการทำงานของท่านได้อย่างเต็มความสามารถผ่าน NetApp AFF A และ C Series เป็นต้น
ผสาน 2 ผู้นำด้านความยั่งยืน
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้ง NetApp และ Fujitsu เองต่างมีความมุ่งมั่นและแบบแผนสำหรับการก้าวไปข้างหน้าในโลกแห่งอนาคต ไม่จำกัดแค่การปฏิรูปการทำงานภายในตั้งแต่การผลิตสินค้าและบริการ ไปจนถึงการรีไซเคิลสินค้าของตน แต่ในฐานะที่เป็นผู้นำเสนอเทคโนโลยีให้แก่ธุรกิจ ทั้งสองได้จับมือกันเพื่อนำส่งโซลูชันที่ช่วยตอบโจทย์ความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในมุมของ NetApp ได้นำเสนอมุมมองที่ตอบโจทย์ด้านข้อมูลแบบครบวงจร ในขณะที่ Fujitsu มาพร้อมกับความเชี่ยวชาญในโซลูชัน NetApp ที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี อย่างไรก็ดี Fujitsu ยังมีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาในโซลูชันอื่นที่อย่างครบครัน ด้วยส่วนผสมทั้งสองนี้เชื่อแน่ว่านโยบายด้านความยั่งยืนของท่านคงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินจริงด้วยความเชี่ยวชาญของ Fujitsu และ NetApp
ผู้สนใจสามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก Fujitsu ได้ที่
คุณ ประพิมพ์ฝัน ฉัตรพุทธรักษา ตำแหน่ง Partners Alliance Lead
อีเมล : prapimfan.cha@fujitsu.com
โทรศัพท์ : +66 2 – 302-1625
Fujitsu (Thailand) Co., Ltd.
