เป็นมหากาพย์ที่ดำเนินมานานหลายเดือน กับ FBI vs. Apple หรือกรณีที่ FBI ร้องขอให้ Apple ช่วยปลดล็อกเครื่อง iPhone 5C ของผู้ก่อการร้ายที่ยิงกราดสังหารผู้บริสุทธิ์ไปกว่า 14 คนที่เมืองซานเบอร์นาดิโอ รัฐแคลิฟอเนียร์ เมื่อปลายปี 2015 ที่ผ่านมา เพื่อที่ FBI จะได้เก็บข้อมูลและหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม ทาง Apple ได้ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมทำตามเพราะผิดหลัก Privacy จนเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้าย FBI ก็สามารถปลดล็อคเครื่องได้สำเร็จ โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจาก Apple
FBI ร้องหาให้ Apple ทำ Backdoor บน iPhone ของเครื่องผู้ก่อการร้าย
เคสนี้กลายเป็นประเด็นดังที่น่าสนใจ เนื่องจากทาง FBI ต้องการให้ Apple สร้าง iOS เวอร์ชันที่แฝง Backdoor เพื่อให้ช่วยปลดล็อก iPhone 5C ของผู้ก่อการร้าย โดยอาศัยข้อกฏหมายที่ระบุว่า บริษัทจำเป็นต้องช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการสืบสวน สอบสวนหาข้อเท็จจริงในกรณีที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง แต่ทาง Apple กลับปฏิเสธ เนื่องจากถ้า iOS เวอร์ชันดังกล่าวหลุดรอดออกไปสู่ภายนอก อาจนำมาซึ่งความเสียหายแก่ลูกค้าของ Apple และบริษัทได้
ศาลแขวงสหรัฐฯ สนับสนุน FBI สั่ง Apple ต้องทำตาม
แม้กระนั้น ศาลแขวงสหรัฐฯ กลับสนับสนุน FBI และออกคำสั่งให้ Apple ช่วยเหลือ FBI ในการปลดล็อกเครื่อง iPhone ดังกล่าว ส่งผลให้หลายบริษัท IT ใน Silicon Valley ตบเท้าออกมาสนับสนุน Apple เป็นการใหญ่ เพราะทุกบริษัทต่างมองว่า Privacy เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจ ถ้าลูกค้าสูญเสีย Privacy ไป อาจส่งผลกระทบถึงขั้นยกเลิกการใช้บริการของบริษัท IT ได้เลย
ปลดล็อกได้สำเร็จ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากบุคคลที่สาม
แต่หลังจากที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน สุดท้าย รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ล้มเลิกการบังคับให้ Apple สร้าง Backdoor บน iOS จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (28 มีนาคม 2016) กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่า FBI ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงข้อมูลบนเครื่อง iPhone ของผู้ก่อการร้าย โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่ง ส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา Apple อีกต่อไป นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า “FBI กำลังตรวจสอบข้อมูลบน iPhone โดยดำเนินการตามกระบวนการมาตรฐานตามปกติ”
คาดว่าใช้เทคนิค NAND Mirroring
ถึงแม้ว่า FBI จะไม่เปิดเผยว่าใช้วิธีไหนปลดล็อก iPhone แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการณ์ว่าคงใช้เทคนิค NAND Mirroring ซึ่งช่วยให้สามารถคัดลอกข้อมูลบน iPhone กลับไปกลับมาได้ ทำให้ FBI สามารถทดลองใส่ Passcode ได้อย่างไม่จำกัด
ด้วยเหตุนี้ คาดว่ากรณี FBI vs. Apple คงมาถึงจุดยุติ Apple สามารถปกป้องศักดิ์ศรีของตนในการไม่ยอมปล่อยปละละเลยเรื่อง Privacy ไปได้ แต่การต่อสู่กันระหว่าง Privacy และ Security คงยังดำเนินต่อไป
ที่มา: http://thehackernews.com/2016/03/fbi-iphone-unlock_28.html