Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

ESG เผยผลทดสอบ ชี้ Huawei OceanStor Dorado V3 ประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูง และคุ้มค่าในด้านการลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ได้ถึง 75% ในระยะเวลา 5 ปี

ทาง Huawei ได้จัดงานแถลงข่าวร่วมกับ ESG Lab เพื่อเล่าถึงผลการทดสอบ Huawei OceanStor Dorado V3 อุปกรณ์ All Flash Storage รุ่นเรือธงเมื่อปี 2017 กับสถานการณ์ในการใช้งานร่วมกับ Enterprise Application ชั้นนำต่างๆ ทั้งในแง่มุมของประสิทธิภาพ, เสถียรภาพ และยังได้วิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าในด้านการลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ได้ถึง 75% ในระยะเวลา 5 ปี รวมถึงยังมีการเล่าถึงภาพรวมเรื่องกลยุทธ์และการตลาดของ Huawei ในการบุกตลาดองค์กรทั่วโลกด้วย ซึ่งหลายๆ ประเด็นก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนทำงานในสาย IT Infrastructure ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอสรุปเนื้อหาต่างๆ ให้ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ

 

Credit: Huawei

 

Huawei ชี้ All Flash Storage ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ Huawei ลงทุนพัฒนาและขยายตลาดอย่างเต็มตัว ด้วยสิทธิบัตรกว่า 800 รายการ และยอดขายอันดับ 1 ของจีน

โดยปกติเรามักเห็นภาพของ Huawei ในฐานะของผู้ผลิตเทคโนโลยีฝั่งโทรคมนาคมหรืออุปกรณ์ Smartphone กันเสียมากกว่า แต่อันที่จริงแล้ว Huawei เองนั้นก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีหลากหลายขึ้นมาตอบโจทย์องค์กรนอกเหนือจากเพียงแค่ส่วนของระบบเครือข่าย เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Server, Storage, Cloud และ Software ต่างๆ อีกทั้งยังมีบริการระบบ Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML) และอื่นๆ อีกมากมาย แข่งขันกับเหล่าผู้ผลิตเทคโนโลยี IT Infrastructure สำหรับองค์กรทั่วโลกทั้งในกลุ่มของ On-premises และ Cloud

อย่างไรก็ดี หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ Huawei ตั้งใจ Focus ตลาดเป็นอย่างมากนั้นก็คือเทคโนโลยีฝั่ง Enterprise Storage ที่มีการเติบโตเป็นอย่างมากทั้งในจีนและทั่วโลก ด้วยการที่ข้อมูลนั้นได้กลายเป็นหัวใจสำคัญทั้งสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการในฝั่ง Consumer และ Enterprise ก็ทำให้ Huawei ลงทุนเป็นอย่างมากในการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในฝั่ง Storage ขึ้นมาตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ Solid State Drive (SSD) นี้ได้กลายเป็นเทคโนโลยีทางเลือกหลักในการจัดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน ก็ถือเป็นจังหวะดีที่ Huawei ได้เข้ามาร่วมพัฒนาเทคโนโลยี SSD ของตนเองนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของตลาด

 

Credit: Huawei

 

Huawei นั้นมีสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้าน Storage มากกว่า 800 รายการ และทีมวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนามากกว่า 3,000 คนใน 5 ประเทศทั่วโลก โดยมีการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาตั้งแต่ระดับรากฐาน เริ่มตั้งแต่ตัว SSD เองที่ได้มีการพัฒนาทั้งในส่วนของ Hardware และ Software เพื่อให้ได้ SSD ที่มีทั้งคุณภาพและความทนทานสูงสำหรับตลาดระดับองค์กร, การพัฒนาระบบ Hardware เชื่อมต่อและรับส่งข้อมูลภายในระบบ Storage การพัฒนาชิพเซ๊ทในการควบคุม และการพัฒนา Software ขึ้นมาควบคุมการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ทั้งหมดภายในระบบ Storage ให้มีทั้งประสิทธิภาพ, ความมีเสถียรภาพ, ความคุ้มค่า และความง่ายในการบริหารจัดการอย่างครบถ้วน ด้วยการดึงเอาศักยภาพของ Hardware แต่ละส่วนที่พัฒนาขึ้นมาเองให้ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็ทำให้ Huawei นั้นถือว่ามีข้อได้เปรียบสูงกว่าผู้พัฒนาเทคโนโลยี Storage หลายๆ ราย และแข่งขันกับผู้ที่พัฒนา All Flash Storage ชั้นนำทั่วโลกได้อย่างทัดเทียม

 

Credit: Huawei

 

สำหรับผลิตภัณฑ์เรือธงของ Huawei ในกลุ่ม All Flash Storage นี้ก็มีชื่อว่า Huawei OceanStor Dorado V3 ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดสำหรับการใช้งานในระดับองค์กรโดยเฉพาะซึ่งรองรับทั้ง NVMe และ SAS โดยมีความสามารถเป็นระบบ Unified Storage ที่ให้บริการได้ทั้ง Block Storage และ File Storage ด้วย Protocol ที่หลากหลาย ทั้ง 8/16Gbps Fibre Channel, 10GbE iSCSI และ 56Gbps Infiniband พร้อมกับความสามารถอย่างเช่นการทำ RAID5/6 และ RAID-TP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Huawei ที่รองรับในกรณีที่มี Disk สามารถเสียพร้อมกันได้มากสุด 3 ชุด ในขณะที่เทคโนโลยีอื่นรองรับในกรณีที่มี Disk สามารถเสียพร้อมกันได้มากสุด เพียง 2 ชุด, การทำ Deduplication/Compression สามารถบีบอัดข้อมูลได้ถึง 3 เท่า ซึ่งจะประหยัดกว่าการใช้ระบบจัดเก็บเดิมได้ถึง 10 เท่า, การทำ Gateway-free Active-Active ระยะไกล, การทำ Snapshot และการทำ Replication อย่างครบถ้วน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทานและความคุ้มค่าในการใช้งานในระบบ Mission-critical Application แต่อย่างใด

ส่วนในแง่ของการรองรับการทำงานร่วมกับ Application ต่างๆ นั้น Huawei OceanStor Dorado V3 นี้ก็รองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการและ Hypervisor มาตรฐานได้มากมาย ครอบคลุมทั้ง Windows, Linux, AIX, HP-UX, Solaris, VMware ESXi, Citrix XenServer, Microsoft Hyper-V และ Huawei FusionSphere/OpenStack รวมถึงยังมีการทดสอบและใช้งานจริงกับ Business Application ชั้นนำอย่าง Oracle และ SAP ด้วย

 

ผลทดสอบจาก ESG ระบุ ประทับใจ Huawei OceanStor Dorado V3 เกินความคาดหมาย วิเคราะห์ความคุ้มค่าในด้านการลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ได้ถึง 75% ในระยะเวลา 5 ปี หรือ 50% ในปีเดียว

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ได้มีการพูดถึงประเด็นหลักอย่างผลการทดสอบใน ESG Lab ที่ได้นำ Huawei OceanStor Dorado V3 ไปรองรับ Workload หนักๆ ที่มักพบเจอในองค์กร ทั้ง Oracle Database, Microsoft Exchange และ VMware Horizon View ซึ่งเป็นระบบ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) พร้อมทดสอบการใช้งานใน Scenario ต่างๆ เช่น กรณีที่มี SSD เสีย, กรณีที่ทำ Failover ระหว่าง Storage Controller หรือ Chassis รวมถึงยังมีการวิเคราะห์ค่า Total Cost of Ownership (TCO) เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลตัดสินใจสำหรับเหล่าองค์กรที่กำลังมองหา All Flash Storage ไปใช้งานกับระบบสำคัญของตนอีกด้วย

 

Credit: Huawei

 

การทดสอบครั้งนี้ใช้เวลา 7 วัน โดยนำ Huawei OceanStor Dorado V3 จำนวน 2 ชุดมาเชื่อมต่อกับ Server ด้วยกันทั้งสิ้น 10 เครื่อง แล้วทำการติดตั้ง Oracle Database 12c RAC ขนาด 9.6TB, Microsoft Exchange Server 2013 ขนาด 5,000 Mailbox/5TB และ VMware Horizon View ที่สร้าง Virtual Desktop ขึ้นมา 1,000 เครื่อง ทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บน VMware vSphere และบริหารจัดการด้วย VMware vCenter เพื่อทำการทดสอบ Load Test ในรูปแบบต่างๆ เพื่อดูการตอบสนองเชิงประสิทธิภาพและความทนทานของระบบ Storage โดยเฉพาะ

การทดสอบด้านประสิทธิภาพ พบว่าในการรองรับ Workload ของ Application จริงนั้นสามารถรองรับได้หลากหลายรูปแบบพร้อมๆ กันในระบบเดียว ทำให้มีความคุ้มค่าสูง ด้วย IOPS มากกว่าสี่ล้าน และ Response Time เฉลี่ยที่ระดับไมโครsecond

การทดสองด้านความทนทาน โดยการทดสอบ RAID-TP นั้นก็สามารถทำงานได้จริงแม้ว่าจะมี SSD ในระบบถูกถอดออกไปจนถึง 3 ชุด และ IOPS ลดลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่การ Rebuild ข้อมูลขนาด 7.4TB นั้นก็ใช้เวลาเพียงแค่ 9 นาทีเท่านั้น ถือว่าเป็นความเร็วที่เร็วเหนือกว่าการทดสอบรายอื่นๆ

 

Credit: Huawei

 

ส่วนการทดลองทำ HyperMetro เพื่อทดสอบการทำ Failover ข้ามอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันแบบ Active-Active นั้น Huawei OceanStor ก็สามารถกลับมาให้บริการ Application ทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียง 3 วินาที และรองรับการใช้งานได้ไกลสุดถึง 100 กิโลเมตร ก็ถือเป็นตังเลขที่เพียงพอต่อการทำ Disaster Recovery ในหลายๆ กรณีแล้ว

การประเมินความคุ้มค่าในการลงทุน หากเทียบกับ Traditional Storage หรือ All Flash Storage ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบเดิมๆ จากค่ายอื่นๆ นั้น ในการลงทุนใช้งานไป 5 ปี Huawei OceanStor Dorado V3 นี้จะมีค่า Total Cost of Ownership (TCO) ที่ต่ำกว่าถึง 75% ทั้งด้วยการลงทุนเริ่มต้นที่ไม่แพง, การประหยัดพื้นที่ติดตั้ง, การประหยัดค่าไฟ และความง่ายดายในการบริหารจัดการและการดูแลรักษานี้ต่างก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ความคุ้มค่าในการลงทุนสูงทั้งสิ้น

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://www.techtalkthai.com/huawei-oceanstor-dorado-v3-all-flash-review-summary-from-esg/ ครับ

 

Credit: TechTalkThai

 

ลูกค้าองค์กรเลือกใช้ Storage จาก Huawei กว่า 8,000 รายทั่วโลก ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม มีลูกค้าใช้งานจริงแล้วในไทย

สำหรับเทคโนโลยีด้าน Storage ของ Huawei ที่ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องมากว่า 15 ปีปัจจุบันนี้ Huawei เองก็มีลูกค้าองค์กรกว่า 8,000 รายทั่วโลกในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างเช่น ธนาคาร ICBC, China Telecom, Volkswagen และ Honda ด้วยการสนับสนุนและผลักดันจากเหล่า Channel Partner นับพันรายทั่วโลก โดยหากนับจากตัวเลขสถิตินั้น Huawei จะมีปริมาณการขาย Storage ที่สูงเป็นอันดับ 4 และอัตราการเติบโตต่อปีเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คนที่ไม่ค่อยรู้จัก Huawei มาก่อนเลยทีเดียว

สำหรับในไทย Huawei นั้นได้เข้ามาทำตลาด Enterprise ได้อย่างจริงจังเป็นเวลาประมาณ 7 ปีแล้ว และก็มีลูกค้าองค์กรไทยไว้วางใจใช้ Huawei กันแล้วในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งธนาคาร, การเงิน, หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย และหน่วยงานราชการ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อทีมงาน Huawei เพื่อทดสอบใช้งานผลิตภัณฑ์ได้ทันทีหากต้องการ

 

Credit: Huawei

 

ตลาดยังคงเติบโตได้อีกมาก ตอบรับความต้องการด้าน Digital Transformation และไฟล์ขนาดใหญ่หลากหลายที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต

ทางทีมงาน Huawei ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ถึงภาพของอนาคตที่โลกเราจะมุ่งเข้าสู่การทำ Digital Transformation ในทุกๆ อุตสาหกรรม ทำให้ข้อมูลนั้นมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมากต่อธุรกิจ และเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลนั้นก็จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะด้วยแรงผลักดันจากโซลูชันทางด้าน Big Data และ Open Data ของทางภาครัฐ, การทำ Internet of Things (IoT) ของหน่วยงานทางด้านสาธารณูปโภค, การปรับปรุงระบบ ERP และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้งานในองค์กรของธุรกิจเอกชน ไปจนถึงธุรกิจด้านสื่อที่ต้องก้าวผ่านจากความละเอียดระดับ 4K ไปสู่ 8K

และแน่นอนว่าด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางด้าน SSD และ All Flash Storage อย่างต่อเนื่องนี้ ก็ทำให้ระบบ All Flash Storage มีทั้งประสิทธิภาพ, ความจุ, ความทนทาน และความสามารถใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ทางด้านธุรกิจได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเบื้องต้นและการดูแลรักษาต่อเนื่องที่ต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้ยิ่งนับวัน ความคุ้มค่าของการลงทุนใน All Flash Storage ก็ยิ่งเหนือขึ้นไปกว่า Traditional Storage แบบเดิมๆ อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น Huawei จึงเชื่อว่าตลาด All Flash Storage นี้จะมีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน

 

Credit: Huawei

 

ทดสอบใช้งาน Huawei OceanStor Dorado V3 ได้ฟรีๆ พร้อมมี Open Lab ให้ใช้งานได้เสมอ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อทีมงาน Huawei Enterprise Thailand เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์, ขอใบเสนอราคา หรือทดสอบผลิตภัณฑ์ได้ทันที โดยนอกจากอุปกรณ์ Demo ที่มีให้ยืมไปทดสอบกันได้ฟรีๆ แล้ว ทาง Huawei เองก็ยังมี Open Lab ในประเทศไทย เพื่อให้เหล่าองค์กรและ Partner ในไทยมายืมใช้พื้นที่ใน Data Center ของ Huawei เพื่อทำการทดสอบเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Huawei เองได้โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อ Data Center ของตนเอง

 

ติดต่อทีมงาน Huawei ประเทศไทยได้ทันที

 

 

Huawei Enterprise Business ; Marketing Contact Center
Mobile 095-878-7475 e-mail : Th_enterprise@huawei.com
Website : e.huawei.com

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว

NVIDIA เปิดตัว NIM Microservices และ Cloud Endpoints ใหม่ ช่วยองค์กรพัฒนา Generative AI ใช้งานได้สะดวกขึ้น

NVIDIA เปิดตัว API และเครื่องมือใหม่สำหรับการพัฒนาและใช้งาน Generative AI ในงานสัมมนา NVIDIA GTC 2024 ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาและนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเตรียมข้อมูล ปรับแต่งโมเดล ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยด้วย Guardrails