ในงาน Dell Future Ready 2016 ( #dellfuturereadyindex2016 ) ที่กำลังจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้ ทาง Dell ได้ประกาศถึงผลการสำรวจว่าองค์กรแห่งอนาคตนั้นต้องการอะไรบ้างจากรายงานการศึกษา Dell Future Ready Index ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอสรุปให้ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ
Dell Future Ready Index นี้เป็นรายงานที่ถูกสำรวจจากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 2,500 คนจาก 11 ประเทศทั่วโลก ด้วยการติดตามผลการศึกษาเป็นระยะเวลา 3 ตั้งแต่ปี 2012 – 2015 ดังนั้นก็เรียกได้ว่าหลายๆ องค์กรก็พอจะยึดแนวทางดังต่อไปนี้ไปใช้อ้างอิงในการวางแผนสำหรับองค์กรของตนในอนาคตได้ครับ โดยมีตัวเลขสรุปต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้
- Yale University จัดให้อายุเฉลี่ยขององค์กรขนาดใหญ่ในอนาคตเหลือเพียงแค่ 15 ปี
- มูลค่าเงินหมุนเวียนในตลาดของภูมิภาคอาเซียนนั้นใหญ่ถึง 2.5 ล้านล้านเหรียญ และอนาคต Digital Economy จะทำให้เติบโตเป็น 3.5 ล้านล้านเหรียญ
- อาเซียนมีสัดส่วนประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีถึง 40% และมีการใช้ Smartphone สูงถึง 35% แสดงให้เห็นโอกาสของการเติบโตในอนาคต โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความพร้อมเป็นอันดับ 3 และฮ่องกงเป็นอันดับ 25 ที่พร้อมจะก้าวสู่อนาคต
- ในอาเซียนมีการร่วมมือกันในระดับภาครัฐ ทำให้ตลาดมีความน่าสนใจมาก
- IDC ได้จัดให้ 16% ของบริษัททั้งหมด เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นเฉพาะปัจจุบัน, 32% เป็นองค์กรที่ตระหนักถึงอนาคต, 33% เป็นองค์กรกลุ่มที่มุ่งเน้นอนาคต ส่วน 18% นั้นเป็นองค์กรผู้สร้างอนาคต
- องค์กรที่พร้อมรับอนาคตที่สุดนั้นจะนำเทคโนโลยีกลุ่ม Converged Infrastructure, Cloud, Big Data และ Analytics มาใช้สร้างความคล่องตัวและเพิ่มขีดความสามารถหรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา
- องค์กรที่มุ่งเน้นเฉพาะปัจจุบันนั้น ไม่ได้มีกลยุทธ์ใดๆ ทางด้าน Big Data หรือมีน้อยมาก และข้อมูลที่ได้จากระบบ Big Data Analytics ก็แทบไม่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ
องค์กรผู้สร้างอนาคตนั้นจะนำ Big Data Analytics มาใช้กันทั้งองค์กร และผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจก็ใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างจริงจัง - 98% ขององค์กรที่เป็นผู้สร้างอนาคต สามารถเข้าถึงระบบ Big Data Analytics ได้ทันทีในเวลาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ในขณะที่องค์กรที่มุ่งเน้นเฉพาะปัจจุบันจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เพียง 58%
- กว่า 50% ขององค์กรผู้สร้างอนาคตในแถบเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นชี้ว่าการนำ Cloud มาใช้สามารถช่วยให้องค์กรทำ Big Data Analytics ได้สำเร็จ และใช้ระบบ Infrastructure ต่างๆ ที่องค์กรมีอยู่ได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยหนึ่งในกรณีศึกษาที่สำคัญของไทยก็คือโรงพยาบาลสมิติเวช
- ระบบ Hyper-Converged นั้นช่วยให้องค์กรสามารถลงทุนทางธุรกิจได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น และนำทรัพยากรบุคคลและระบบต่างๆ ไปใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์มากขึ้น
นอกจากนี้ Dell ยังได้จับมือกับ Intel เพื่อทำการศึกษาเรื่อง The Future Workforce Study ประจำปี 2016 จากพนักงานเกือบ 4,000 คนใน 10 ประเทศทั่วโลก เพื่อดูว่าแนวโน้มของการทำงานในอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร และมีตัวเลขที่น่าสนใจดังนี้
- 57% ของพนักงานเชื่อว่าตนเองจะได้ทำงานกับ Office ที่มีความชาญฉฃาดมากยิ่งขึ้นภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
- 51% เชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดีขึ้นจะทำให้การประชุมแบบพบปะเจอหน้ากันเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า
ก็หวังว่าสถิติเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเหล่า IT Manager นะครับ