เลิกปวดหัวกับการออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษ ๆ ด้วย e-Tax Invoice

ด้วยนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจึงได้ริเริ่มโครงการ “National e-Payment” ขึ้นมา แล้วโครงการนี้ทำอะไรบ้าง? ขอยกตัวอย่างสิ่งที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีก็คือ ระบบ PromptPay เป็นระบบรับ/โอนเงิน โดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์ ส่งผลให้การโอนเงินระหว่างประชาชนด้วยกันหรือระหว่างประชาชนกับภาคธุรกิจ ปลอดภัยและสะดวกมากยิ่งขึ้น

บริการ e-Tax Invoice & Receipt คือบริการจัดทำ จัดเก็บ และนำส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในโครงการ National e-Payment เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก ลดต้นทุน ลดระยะเวลา และลดขั้นตอนของภาคเอกชน ซึ่ง ณ วันนี้ ยังไม่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีหลากหลายองค์กรที่หันมาใช้ระบบ e-Tax ก่อนการบังคับใช้ เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์มากมายที่จะได้รับกับการยอมเปลี่ยนแปลงระบบดังนี้

1. เริ่มก่อนประหยัดก่อน

หากเราต้องการจะเปลี่ยนแปลงระบบอะไรก็ตามภายในองค์กร สิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดก็คือ “การลดต้นทุน” เมื่อใช้ระบบ e-Tax Invoice & Receipt แล้ว จะสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณลดต้นทุนจำพวกนี้ไปได้

  • ค่าพิมพ์เอกสาร ในเดือนหนึ่ง ๆ คุณต้องเสียค่าหมึกพิมพ์ และกระดาษ ไปจำนวนเท่าไหร่ ยิ่งหากเป็นองค์กรใหญ่ ยิ่งเสียเพิ่มมากขึ้น
  • ค่าจัดเก็บเอกสาร กรมสรรพากรบังคับว่าเอกสารทุกอย่างที่ออกต้องเก็บไว้อย่างต่ำ 5 ปี ในบางองค์กรถึงกับต้องเช่า Warehouse ในการจัดเก็บเอกสารเลยทีเดียว แล้วหากเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมา เอกสารทุกอย่างจะสูญหายทั้งหมด
  • ค่าจัดส่งเอกสาร นอกจากค่าพิมพ์และค่าจัดเก็บแล้ว ยังมีค่าบริการในการวิ่งส่งเอกสารให้คู่ค้าและกรมสรรพากรอีกด้วย

เปรียบเทียบการใช้ใบกำกับภาษีรูปแบบเดิม กับ e-Tax Invoice & Receipt

จากภาพประกอบ หากในหนึ่งเดือน คุณออกใบกำกับภาษีจำนวน 1,000 ฉบับ จะต้องเสียเงินไปกับต้นทุนเหล่านี้มากถึง 22,020 บาท แต่หากใช้งาน e-Tax จะเหลือค่าใช้จ่ายเพียง 5,031 บาท ประหยัดได้มากถึง 16,990 บาท หรือ 77.15%

2. เชื่อมต่อได้ทันที ไม่กระทบระบบเดิมที่ใช้อยู่

หลายคนอาจจะคิดว่ายุ่งยากหากต้องมีการเพิ่มระบบเข้ามาภายในระบบเดิมที่ใช้งานได้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP หรือ ระบบบัญชีของค่ายไหนก็ตาม จะต้องเกิดความยุ่งยาก ผู้ใช้งานก็ไม่อยากเรียนรู้ใหม่อีก แต่จริง ๆ แล้ว หากจะใช้งานระบบ e-Tax นั้น สามารถเชื่อมต่อได้เลย ผ่าน REST API, CSV หรือ SDK พร้อมทั้งเก็บไฟล์ทุกอย่างไว้บน Private Cloud มาตรฐานตรงตามข้อกำหนดของกฎหมาย 100% นอกจากนี้หากเป็น SI ที่ต้องการเป็น Reseller หรือนำระบบ e-Tax ติดตั้งเพิ่มให้แก่ลูกค้า ก็สามารถทำได้เช่นกัน

3. ประหยัดคน ประหยัดเวลา

นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนในการออกใบกำกับภาษีแล้ว ยังช่วยประหยัดทั้งคนและเวลาอีกด้วย เพราะในการออกใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น ต้องใช้ ลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) เพื่อเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวบุคคลจริง ๆ ว่าหากมีการลงลายเซ็นดิจิทัลที่เอกสารใดแล้ว จะถือว่าเอกสารถูกเซ็นจากบุคคลนั้นจริง ตรงนี้ยังได้ประโยชน์ในแง่ของ การพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริง และแสดงให้เห็นว่าเอกสารไม่ได้มีการแก้ไขอะไรเพิ่มเติม และยังเพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ระหว่างคู่ค้า ด้วยการที่นำลายเซ็นดิจิทัลมาใช้ ทำให้ช่วยลดบุคลากรที่ต้องเซ็นเอกสาร และประหยัดเวลาที่ต้องรอบุคลากรเซ็นให้ครบทุกท่านไปได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

ถึงแม้ว่าปัจจุบันกรมสรรพากรยังไม่บังคับใช้ระบบ e-Tax ก็ตาม แต่เหลือเวลาอีกไม่ถึงปีก็จะประกาศใช้อย่างเข้มงวดแล้ว แล้วทำไมองค์กรคุณต้องรอให้ถึงวันที่ประกาศบังคับใช้? หากการที่องค์กรเริ่มก่อน ใช้ก่อน ทำให้เกิดผลดีต่อองค์กรอย่างมากมาย สามารถลดค่าใช้จ่ายในด้านนี้ขององค์กรไปได้มากกว่า 50% แล้วคุณรออะไรอยู่?

สนใจใช้บริการ e-Tax Invoice & Receipt ติดต่อเราได้ทันที
Web:  https://www.cloudhm.co.th/solutions/e-tax-invoice-and-receipt/
Email: sales@cloudhm.co.th
Tel: 02-119-7300
Line: @cloudhmco
FB:  https://www.facebook.com/messages/t/cloudhmco

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google เปิดพรีวิว Jules ผู้ช่วย AI Agent เขียนโค้ดแก้บั๊กให้อัตโนมัติ

หนึ่งในการต่อยอดจาก Gemini 2.0 ที่ Google เปิดตัวออกมาล่าสุด คือ Jules หรือ AI Agent ที่จะสนับสนุนการทำงานของนักพัฒนาระบบให้สามารถช่วยเขียนโค้ด แก้ไขบั๊กได้อัตโนมัติ

Google จับมือ 2 บริษัทพลังงานสะอาด สร้าง “Power-First” AI Data Center

พลังงานคือปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างและให้บริการ Data Center สำหรับ AI ซึ่ง Google ได้ชี้ให้เห็นว่าระบบกริดไฟฟ้านั้นอาจจะไม่สามารถส่งมอบพลังงานได้เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ 2 บริษัทพลังงานสะอาด เพื่อหนุนแนวทางใหม่ “Power-First” เพื่อให้บริการ …