เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันด้วย Database as a Service จาก Cloud HM

ฐานข้อมูลคือหัวใจสำคัญของแอปพลิเคชัน กล่าวคือเป็นส่วนที่ไม่ควรล่มเพราะหมายถึงการสูญหายของข้อมูลที่เป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ดียังมีความท้าทายอีกหลายด้านเมื่อพูดถึงการบริหารจัดการฐานข้อมูลด้วยเองในองค์กร นอกจากความทนทาน ยังต้องสามารถรองรับความยืดหยุ่นต่อความต้องการทางธุรกิจด้วย เช่น แอปพลิเคชันที่มีช่วงการใช้งานสูงไม่ต่อเนื่อง อย่างการออกแคปเปญใหม่ในเทศกาลสำคัญ

ไม่เพียงแค่นั้นการเริ่มต้นสร้างแอปพลิเคชันในสมัยใหม่ยังต้องแข่งขันกับเวลา จะเห็นได้ว่ามีแอปพลิเคชันจำนวนมากสามารถถูกสร้างเสร็จได้ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งเทคโนโลยีเบื้องหลังก็คือบริการคลาวด์ที่เรารู้จักกันดี

ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงเทคโนโลยีเบื้องหลังบริการ Database as a Service จาก Cloud HM ผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย พร้อมกับเหตุผลสำคัญว่าเหตุใดท่านถึงควรเลือกใช้บริการ DBaaS กับ Cloud HM

Database as a Service (DBaaS) ก็คือบริการคลาวด์ตัวหนึ่งที่เป็นฟังก์ชันด้านฐานข้อมูลพร้อมใช้ กล่าวคือสืบทอดคุณประโยชน์ของคลาวด์ที่มีความสามารถอย่างเจาะจงมากขึ้น ดังนี้

1.) ปลดเปลื้องภาระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

สิ่งที่เราทราบดีเกี่ยวกับคลาวด์ก็คือการที่มีผู้อาสารับผิดชอบฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติพื้นฐานให้ผู้ใช้งานเป็นอย่างน้อย (IaaS) ในมุมของ DBaaS ก็คือการที่ท่านไม่ต้องจัดซื้อหรือลงทุนฮาร์ดแวร์สำหรับงานด้านฐานข้อมูล ไม่เพียงเท่านั้นยังมาพร้อมกับความสามารถด้านฐานข้อมูลแบบพร้อมใช้งานที่ถูกจัดการโดยผู้ให้บริการ เช่น การแพตช์ฐานข้อมูล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล หรือการตั้งค่าต่างๆ

2.) ตอบทุกความต้องการของธุรกิจ

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่หรือเล็ก หากพูดถึงความรวดเร็วในการให้บริการเชื่อแน่ว่าคงไม่มีใครทำได้ดีไปกว่า DBaaS ที่พร้อมเปิดใช้ในทันที โดยผู้ใช้เพียงแค่เขียนโค้ดให้แอปพลิเคชันเชื่อมต่อเข้ามาใช้งานฐานข้อมูลได้ในเวลาไม่นาน เทียบกับในอดีตการตั้งค่าการเชื่อมต่อระหว่างแอปพลิเคชันและฐานข้อมูลถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อนทีเดียว บางครั้งอาจเวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเริ่มงานได้ นอกจากนี้ความรวดเร็วยังเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณีที่ท่านไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านฐานข้อมูลเป็นของตัวเอง ซึ่ง DBaaS จะช่วยลดข้อจำกัดในการพัฒนาแอปพลิเคชันของท่านได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

3.) ปรับเพิ่มลดได้อย่างต่อเนื่อง

ฐานข้อมูลล่มเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในบริการที่มีการใช้งานอย่างเข้มข้น แต่ประเด็นคือหากท่านอาศัยฮาร์ดแวร์สำหรับฐานข้อมูล จะทำให้การขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการชั่วคราวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แต่เมื่อ DBaaS เป็นบริการคลาวด์ นั่นหมายถึงความสามารถในการขยายเพิ่มหรือลดได้อย่างอัตโนมัติด้วยเช่นกัน

4.) ทนทานต่อการให้บริการ

ข้อมูลคือสิ่งที่สำคัญต่อองค์กรมาที่สุด หากปราศจากซึ่งข้อมูลแล้ว ธุรกิจส่วนใหญ่ย่อมไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้เองสำหรับงานการบริหารจัดการข้อมูล มักกล่าวถึงเรื่องของการสำรองข้อมูลและระบบสำรองที่พร้อมทำงานแทนเสมอ แต่เชื่อหรือไม่ว่าความซับซ้อนเหล่านี้ผู้ใช้งาน DBaaS ไม่จำเป็นต้องทราบเลย รู้เพียงแค่ว่าผู้ให้บริการการันตีความพร้อมของระบบที่ SLA อย่างไร และพร้อมรับผิดชอบความเสียหายของข้อมูล (RCO/RTO) แค่ไหน กล่าวคือสิ่งที่ผู้ใช้ควรทราบก็คือบริการนั้นเป็นอย่างไร โดยไม่จำเป็นต้องทราบว่าเบื้องหลังมีการทำงานอย่างไร

credit : VMware

VMware Tanzu เป็นโซลูชันที่ VMware วางตัวให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันในลักษณะ Cloud Native ด้วยเหตุนี้ภายในแพลตฟอร์มจึงมีโมดูลหลายตัว ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาในด้านต่าง เช่น Tanzu Application Service, Tanzu Application Platform, Tanzu Intelligence Services, Tanzu Data Services ซึ่งแพลตฟอร์มหลังสุดนี้เองจะรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับการให้บริการทางข้อมูลเช่น Caching, In-memory Database, Streaming Service รวมถึงฐานข้อมูลทั้ง NoSQL และ SQL อย่าง MongoDB, PostgresSQL, MySQL Database

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเรื่อง Cloud Native คือการย้าย Workload ได้อย่างอิสระไปได้ทุกที่ ซึ่ง Tanzu Kubernetes Operation คือสิ่งที่ช่วยจัดการให้ความปรารถนานี้เกิดขึ้นได้จริง เพราะเป็นเครื่องที่ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้ทั้งในรูปแบบของ VM และ Container แต่การทำงานของทั้งสองรูปแบบย่อมมีขั้นตอนการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่ง VMware ได้นำเสนอ Tanzu SQL เข้ามาเพื่อแก้ปัญหานั้น

VMware Tanzu SQL เป็นโซลูชันที่ช่วยให้องค์กรสามารถรัน MySQL หรือ Postgres instance บน Kubernetes หรือ VM ได้ อย่างไรก็ดีในกรณีของ VM เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นบริการ IaaS หรือการใช้งาน VM โดยทั่วไปในระบบ Virtualization ที่มีมาอย่างยาวนาน เพียงแค่ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ต้องการลงไป กลับกันในกรณีของ Kubernetes ที่มีความซับซ้อนมากกว่า ผู้ดูแลระบบจะต้องติดตั้ง Kubernetes Operator (Tanzu SQL with MySQL for Kubernetes และ Tanzu SQL with Postges for Kubernetes) ที่จะช่วยควบคุมจัดการ instance ที่รันอยู่ใน Kubernetes พร้อมกับการตั้งค่าอีกหลายขั้นตอน

credit : VMware

และเมื่อไม่นานมานี้ทาง VMware ได้เปิดตัวบริการ Cloud Director extension for Data Solutions ที่เป็นปลั๊กอินสำหรับ vCloud Director ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องมีความสามารถด้านบริการข้อมูลในลักษณะ multi-tenancy โดยเฉพาะผู้ให้บริการคลาวด์ที่ใช้เทคโนโลยีจาก VMware โดยในเวอร์ชัน 1.2 ได้มีการเพิ่มความสามารถให้รองรับบริการ MongoDB หรือฐานข้อมูลประเภท NoSQL ได้แล้วนอกเหนือจาก SQL แบบเดิม

หน้าบริการ Data Solutions บน Cloud HM
หน้าบริการ Data Solutions บน Cloud HM

1.) ความเชี่ยวชาญในการให้บริการ VMware

แม้ VMware จะนำเสนอบริการ Tanzu SQL ที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างบริการ Database as a Service ขึ้นได้เองที่สามารถต่อยอดสู่ Cloud Native ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เชื่อหรือไม่ว่าในโลกความเป็นจริงนั้นการที่จะหาบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Kubernetes ก็ยากพออยู่แล้ว ดังนั้นการสร้าง Tanzu SQL จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับองค์กรที่ไม่มีผู้ชำนาญการเพียงพอ แต่ที่ Cloud HM พาร์ทเนอร์สำคัญของ VMware ในประเทศไทย ท่านสามารถฝากความหวังของท่านได้อย่างหายห่วงผ่านบริการ Database as a Service  ที่การันตีคุณภาพด้วยใบรับรองจาก VMware โดยตรง

2.) Sovereign Cloud

ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริการคลาวด์ช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน ค่าใช้จ่ายตามจริง ไม่ต้องดูแลฮาร์ดและอัปเดตระบบด้วยตนเอง อย่างไรก็ดีถึงจะรับทราบว่า Cloud มีข้อดีมากมาย แต่ในหลายธุรกิจมีระเบียบข้อบังคับหรือกังวลกับอธิปไตยทางข้อมูล ซึ่งแน่นอนว่าหากท่านเลือกใช้บริการ Caching ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก เช่นนี้ความน่ากังวลด้าน Data Privacy ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่ Cloud นอกประเทศไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ต่างกับ Cloud HM ที่ทุกข้อมูลของท่านจะถูกเก็บและประมวลผลภายในประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ข้อบังคับของอุตสาหกรรมอีกด้วย

3.) ให้บริการแบบครบวงจร ทั้งก่อนและหลังการใช้บริการ

หลายองค์กรไม่สามารถไปต่อในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ได้ เนื่องจากขาดบุคคลากรหรือทักษะที่มีความเข้าใจ อย่างไรก็ดีผู้ใช้บริการ Cloud HM ท่านจะได้รับการดูแลตั้งแต่การออกแบบระบบที่สอดคล้องกับแต่ละองค์กร สาเหตุเพราะแต่ละคนย่อมมีความคาดหวังและปัจจัยพื้นฐานต่างกันออกไป กล่าวคือลูกค้าของ Cloud HM จะได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับตัวตนอย่างแท้จริง แม้กระทั่งระบบจะเข้าสู่การเริ่มต้นใช้งานจริงและเกิดปัญหาขึ้น ท่านจะสามารถขอความช่วยเหลือจากทีมดูแลได้ตลอด 24×7 ด้วยภาษาไทย ที่ทีมงานพร้อมตอบสนองอย่างรวดเร็ว

4.) การันตี SLA 99.99%

หน้าการจัดการ instance บน Cloud HM

นอกเหนือจากการที่ SQL as a Service จะอาศัยขุมพลังของโซลูชันระดับโลกอย่าง Tanzu SQL ที่อาศัยคุณสมบัติของ Cloud Native ด้าน availability, portability และ scalability แล้ว การที่จะเรียกว่าเป็น as a Service ได้อย่างแท้จริงนั้นก็คือการการันตีคุณภาพในการให้บริการ โดยลูกค้าไม่ต้องรู้ว่ากลไกเบื้องหลังคืออะไร แต่เมื่อต้องการใช้ข้อมูลและบริการจะพร้อมเสมอ ซึ่งในส่วนของข้อมูล Cloud HM ก็มีการจัดทำระบบ Backup ภายในเองอยู่แล้ว ผู้ใช้บริการจะมองเห็นเพียงแค่ว่าจะเข้าถึงได้อย่างไร และจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริงนั้น

5.) ตอบโจทย์ด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูล

ความมั่นคงปลอดเป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานคลาวด์หลายคนคาดไม่ถึง แน่นอนว่าในมุมหนึ่งเรื่องความมั่นคงปลอดภัยก็เป็นหน้าที่ของผู้ใช้เช่นเดียวกัน แต่ในด้านบริการ Database as a Service ทีมงาน Cloud HM ใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันในระดับการเก็บข้อมูล การจัดส่งข้อมูล รวมไปถึงการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของลูกค้าจะยังคงเป็นความลับอยู่เสมอแม้แต่กับผู้ให้บริการอย่าง Cloud HM เองก็ตาม ที่จะไม่สามารถเข้าถึงความลับเหล่านั้นได้

ฐานข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานของแอปพลิเคชันมากมาย แต่การบริหารจัดการฐานข้อมูลเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเช่นกันทั้งการ Backup การอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด แม้กระทั่งความมั่นคงปลอดภัย ด้วยเหตุนี้เองจึงมีแนวคิดของ Database as a Service เกิดขึ้นในผู้ให้บริการคลาวด์ ไอเดียคือผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องดูแลหรือทราบถึงเทคโนโลยีเบื้องหลัง เพียงแค่เข้ามาใช้งานผ่าน API หรือช่องทางที่ผู้ให้บริการเตรียมไว้ให้ ซึ่งนั่นทำให้การทำงานขององค์กรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ดี VMware ได้นำเสนอ VMware Tanzu ที่ว่าด้วยเรื่องของการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ Cloud Native ก็ได้นำเสนอแนวทางที่จะทำให้ท่านก้าวไปสู่ Database as a Service ได้เช่นกัน แต่ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในเรื่อง Kubernetes และการบริการจัดการข้อมูลอีกไม่น้อย แต่หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งอื่นในท้องตลาด Cloud HM จะสามารถตอบโจทย์การให้บริการของธุรกิจในไทยได้มากกว่า ทั้งเรื่องประสบการณ์แบบมืออาชีพ 24×7 และความครบเครื่องในมุมมองแบบ as-a-Service และที่สำคัญคือรักษาอธิปไตยทางข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือ Sovereign Cloud นั่นเอง

สนใจผลิตภัณฑ์ Database as a Service ติดต่อทีมงาน Cloud HM ได้ที่โทร (0)2-119-7300 หรืออีเมล์ sales@cloudhm.co.th หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Cloud HM ได้ที่ https://www.cloudhm.co.th

ที่มาข้อมูล

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

AWS เปิดให้บริการ Windows Server 2025 บน Amazon EC2

AWS ประกาศพร้อมให้บริการ Microsoft Windows Server 2025 ผ่าน Amazon Machine Images (AMIs) บน Amazon EC2 แล้วมาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น

CrowdStrike เข้าซื้อกิจการ Adaptive Shield เสริมทัพด้านความปลอดภัยบน Cloud

CrowdStrike ประกาศเข้าซื้อกิจการ Adaptive Shield ผู้พัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัยสำหรับแอปพลิเคชัน Cloud มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการปกป้องข้อมูลบน SaaS