Best Practices สำหรับลดความเสี่ยงของ Ransomware บนฐานข้อมูล

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีข่าวฐานข้อมูล MongoDB กว่า 27,000 แห่งถูกเจาะ ข้อมูลถูกขโมยออกไปเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 0.2 Bitcoin (ประมาณ 8,200 บาท) และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง การโจมตีก็แพร่กระจายมายัง MySQL ด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าแฮ็คเกอร์เริ่มพุ่งเป้าการเจาะระบบฐานข้อมูลแล้วเรียกค่าไถ่มากขึ้น บทความนี้จะได้รวม Best Practices สำหรับปกป้องฐานข้อมูลของตนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของ Ransomware

Credit: Vector3D/ShutterStock

รู้จักวิธีโจมตีก่อน

การโจมตีฐานข้อมูลเรียกค่าไถ่มักเกิดจาก 2 กรณี คือ

  • แฮ็คเกอร์โจมตีที่เครื่อง Client ซึ่งเปราะบางที่สุดในระบบ โดยใช้การส่งอีเมล Phishing เพื่อหลอกให้ผู้ใช้เปิดไฟล์แนบหรือเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์แฝงอยู่ เมื่อเข้ายึดเครื่อง Client ได้แล้ว แฮ็คเกอร์จะค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายจนกว่าจะยกระดับสิทธิ์ตัวเองให้เข้าถึงระบบฐานข้อมูลได้ จากนั้นจึงเข้ารหัส ขโมย หรือลบข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่
  • แฮ็คเกอร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลโดยตรง โดยอาจผ่านทางเว็บแอพพลิเคชันที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น SQL Injection หรือในกรณีที่เว็บและฐานข้อมูลอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เครื่องเดียวกันยิ่งทำให้สามารถโจมตีได้ง่ายกว่าเดิม เพียงแค่หาช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์เจอก็อาจจะยึดระบบฐานข้อมูลได้ทันที

ป้องกันและรับมือกับการโจมตีได้อย่างไร

การปกป้องระบบฐานข้อมูลให้มั่นคงปลอดภัยสามารถทำได้ไม่ยากนัก โดยอาศัยอุปกรณ์และโซลูชันบนระบบเครือข่ายที่มีอยู่ก็สามารถลดความเสี่ยงลงได้ ดังนี้

ปกป้องผู้ใช้

  • จัดอบรมเพื่อสร้างความตระหนักด้านความมั่นคงปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบและรับมือกับการโจมตีแบบ Phishing
  • ยกเลิกการอนุญาตให้แชร์ข้อมูลระหว่างผู้ใช้แบบ Peer-to-peer
  • วางแผนการสำรองข้อมูลไปเก็บไว้ใน External Drives หรือ Virtual Drives
  • ติดตั้งโปรแกรม Antivirus ที่เชื่อถือได้ลงบนเครื่อง Client เพื่อป้องกัน Ransowmare

ปกป้องเว็บไซต์

  • ไม่ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องเชื่อมต่อกับภายนอกและระบบฐานข้อมูลหรือระบบจัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องเดียวกัน
  • ทำ Segmentation ระหว่างเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการเว็บและเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลอย่างเหมาะสม
  • คอยติดตามและอัปเดตแพทช์บนเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
  • หมั่นตรวจสอบว่าฝ่าย IT มีแผนการสำรองข้อมูลสำหรับระบบฐานข้อมูลและระบบแชร์ไฟล์หรือไม่
  • พิจารณาการสำรองข้อมูลหรือไฟล์สำคัญบนระบบ Cloud หรือ DR-as-a-Service

เพิ่มการป้องกันระดับสูง

  • มีการจัดทำแผนตอบสนองต่อสถานการณ์ผิดปกติ เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ
  • ศึกษาและหาข้อมูล NoMoreRansom.org ซึ่งเป็นเว็บที่บริษัทซอฟต์แวร์ Antivirus หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และนักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่ออัปเดตข่าวสาร วิธีรับมือกับ Ransomware และรวมเครื่องมือสำหรับใช้ปลดรหัส
  • จ่ายหรือไม่จ่ายค่าไถ่ ? เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นตรงกันว่าอย่าจ่ายค่าไถ่ เพราะเหมือนเป็นการสนับสนุนแฮ็คเกอร์ให้ได้ใจ และมีเงินทุนสำหรับพัฒนามัลแวร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าเราตกเป็นเหยื่อของ Ransomware จริงๆ คงตอบได้ยาก แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าพอจ่ายค่าไถ่แล้วจะได้ข้อมูลคืน

ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการรับมือกับ Ransomware คือ การป้องกันไว้ก่อน โดยเฉพาะการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

ที่มา: http://www.darkreading.com/attacks-breaches/best-practices-for-lowering-ransomware-risk/a/d-id/1328294


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

[Black Hat Asia 2023] ทำลายห่วงโซ่: มุมมองของคนวงในเกี่ยวกับช่องโหว่ของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

ยินดีต้อนรับสู่มุมมองของคนวงในเกี่ยวกับช่องโหว่ของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ หัวข้อนี้ถูกนำเสนอโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยชื่อ Yakir Kadkoda และ Ilay Goldman จาก Aqua Security ซึ่งมีประสบการณ์มากมายในงานด้าน Red Team พวกเขาให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับช่องโหว่ที่แฝงตัวอยู่ในช่วงการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เผยถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญในการรักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

[Black Hat Asia 2023] สรุป Keynote วันที่ 1 เรื่อง “เตรียมตัวสำหรับการเดินทางอันยาวนานเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล”

ข้อมูลถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของการผลิต และความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) ก็ได้รับการจัดอันดับให้มีความสำคัญสูงสุดโดยรัฐบาลทั่วโลก ในประเทศจีน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยข้อมูล เช่น “กฎหมายความปลอดภัยของข้อมูล” และ “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ได้รับการประกาศใช้และมีผลบังคับใช้ในปี 2565 …