สรุปงาน Azure AI & Machine Learning with Open Source Workshop: เมื่อ AI และ API เป็นเรื่องของทุกธุรกิจ

เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา ทาง Microsoft ได้จัดงานสัมมนาฟรี Azure AI and Machine Learning with Open Source Workshop ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และเทคโนโลยีทางด้าน AI ให้บุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาทำความรู้จักกัน ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำเนื้อหาในงานมาสรุปให้ทุกท่านที่ไม่ได้ไปได้อ่านกันดังนี้ครับ

 

 

Microsoft + GitHub: ต้องการช่วยให้ Developer ทำงานได้ดีขึ้น และทำให้การเขียนโปรแกรมกลายเป็นเรื่องที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน

ในงานนี้ทาง Microsoft ได้ถือโอกาสมาเล่าถึงการเข้าซื้อกิจการของ GitHub ที่ผ่านมาซึ่งถือว่าเป็นข่าวใหญ่ที่แทบทุกคนในวงการ IT ต้องพูดถึงกัน ว่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อวงการ IT กันบ้าง

 

 

Microsoft นั้นเชื่อในหลักของ Empowering ผู้คนให้ทำงานดีขึ้น และเชื่อใน Openness คือการเปิดกว้างให้ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของ GitHub นี้เองก็จะทำให้ Microsoft สามารถเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยให้ Developer สามารถพัฒนาโปรแกรมเพื่อทำสิ่งต่างๆ ได้อีกมากมาย และเป็นการสนับสนุน Open Source Software ให้สามารถพัฒนาและสร้างชุมชนขึ้นมาได้ สนับสนุนต่อแนวทางของ Microsoft ในระยะหลังนี้ที่ Microsoft เริ่มเปิดรับต่อ Open Source Software ค่อนข้างมาก

 

 

ทั้งนี้ ล่าสุด GitHub เองก็ได้เปิดให้โรงเรียนและภาคการศึกษาทั่วโลกสามารถใช้งานความสามารถทั้งหมดของ GitHub ได้ฟรีๆ เพื่อเป็นอีกแรงผลักดันให้ภาคการศึกษาสามารถพัฒนาการเรียนการสอนด้านการเขียนโปรแกรมให้กับนักเรียนทั่วโลกได้ เป็นการตอบสนองต่อแนวทาง Openness ที่ต่อไปการเขียนโปรแกรมและการคิดแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบนั้น จะต้องกลายเป็นทักษะพื้นฐานสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง

 

Microsoft AI Platform: AI for Every Developer

 

 

Microsoft ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ที่ที่มุ่งมั่นจะสร้าง Platform และบริการสำหรับ Intelligent Cloud และ Intelligent Edge ที่ทุกภาคส่วนมี AI เป็นส่วนผสม ดังนั้นจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา Microsoft ได้ลงทุนกับเทคโนโลยีทางด้าน AI ไปค่อนข้างมากทีเดียวเพื่อให้ภาพนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ ดังนั้นสิ่งที่ Microsoft พยายามทำนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

  1. การพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI ให้ก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความแม่นยำ, การเพิ่มความเร็วในการประมวลผล, การรองรับกรณีการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ และการนำไปใช้งานบน Platform ที่แตกต่างกันออกไป
  2. การพัฒนาให้เทคโนโลยีด้าน AI ที่มีอยู่นั้น ถูกนำไปใช้งานได้ง่ายที่สุด เช่น การเตรียม Platform สำหรับเหล่า Data Scientist, การเปิด API สำหรับเหล่านักพัฒนา, การสร้างเครื่องมือที่จะทำให้บุคคลทั่วไปเองสามารถสร้าง AI แบบง่ายๆ ขึ้นมาใช้งานได้ และการพัฒนาหลักสูตรเนื้อหาความรู้ด้าน AI ให้ทุกคนเข้าถึงและเรียนรู้ได้ฟรี

 

ตัวอย่างการนำ AI ไปใช้ในธุรกิจ – Litware Insurance: ขายประกันด้วย AI

 

 

ในงานสัมมนานี้ ตัวอย่างหนึ่งที่ถูกแสดงเป็น Demo ว่า AI ทำอะไรได้บ้าง ก็คือ Litware Insurance ที่เป็นธุรกิจขายประกันออนไลน์แบบสมมติ โดยมีการประยุกต์ใช้ AI ที่น่าสนใจดังนี้

  • มีระบบ Chatbot สำหรับให้บริการ โดยทำการยืนยันตัวตนด้วยเสียงได้จากการให้ผู้ใช้งานอ่านประโยคเดียวกันซ้ำ 4 ครั้ง เพื่อให้ระบบได้เรียนรู้และจดจำเสียงของเรา รวมถึงใช้ใบหน้าในการยืนยันตัวตนคู่ไปด้วยผ่านเว็บไซต์ ไม่ต้องใช้ Username และ Password อีก
  • ตัว Chatbot เองสามารถโต้ตอบได้หลายภาษา แล้วแต่ว่าผู้ใช้งานจะพูดคุยด้วยภาษาอะไร
  • Chatbot สามารถโต้ตอบบทสนทนาภาษามนุษย์ได้แบบฉลาด ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Rule-based
  • ตอนยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า หากมีสีหน้าเหมือนไม่พอใจ ระบบจะสามารถตรวจพบและปรับโทนการสื่อสารพร้อมขอโทษด้วย
  • Chatbot สามารถตรวจสอบข้อมูลในฐานข้อมูล CRM เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า แล้วทำการนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้าได้
  • Chatbot สามารถใช้รูปภาพของรถยนต์เพื่อระบุรุ่นสำหรับใช้ในการนำเสนอกรมธรรม์ได้ และหากอัปโหลดรูปอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ระบบก็จะทราบ และแจ้งให้เราทำการส่งรูปภาพใหม่ได้
  • ระบบ AI ใน Chatbot นี้จะทำการเชื่อมต่อกับระบบ CRM โดยตรง โดยในที่นี้ก็คือ Microsoft Dynamics 365 นั่นเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบบทสนทนาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าได้ เป็นส่วนสำคัญในการเข้าใจสถานการณ์ในการสื่อสารกับลูกค้าได้ โดยระบบ AI ก็จะแนะนำด้วยว่าเจ้าหน้าที่ควรจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้สามารถปิดการขายได้ เช่น การลดราคา เป็นต้น

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า AI สามารถถูกนำไปประยุกต์ได้ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งในส่วนของการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า และการช่วยให้พนักงานภายในองค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ Microsoft เองก็มีเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง Microsoft PowerBI ที่จะช่วยให้พนักงานแผนกต่างๆ สามารถทำงานแบบ Data-Driven ได้ด้วย ไม่ต้องรอ AI อย่างเดียวเท่านั้น

 

บริการ AI จาก Microsoft

ใน Microsoft AI Platform จะมีบริการและเครื่องมือต่างๆ แยกย่อยเป็นหมวดหมู่ดังนี้

 

 

Azure AI Services บริการ AI บน Cloud

  • Pre-Built AI ชื่อ Cognitive Services สามารถเรียกใช้งานได้ผ่าน API เลย ครอบคลุมทั้ง Vision, Speech, Language, Knowledge, Search และยังมีโครงการที่ยังอยู่ใน Lab พัฒนาอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถ Custom สร้างเองจากข้อมูลที่มีอยู่ได้
  • Conversational AI ชื่อ Bot Service สำหรับใช้ในการทำ Chatbot
  • Custom AI ชื่อ Azure Machine Learning สำหรับสร้าง Model ขึ้นมาด้วยตัวเองจากข้อมูลและการกำหนดค่าต่างๆ เอง และสามารถนำ Model ที่ได้ไป Deploy ใช้งานตามที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะบน Cloud หรืออุปกรณ์ใน Local ก็ตามแต่ หรือจะ Deploy ลง Container ไปใช้งานก็ได้เช่นกัน

Azure Infrastructure ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสนับสนุนงาน AI

  • AI on Data ระบบจัดเก็บข้อมูลและฐานข้อมูล ได้แก่ Cosmos DB, SQL DB, SQL DW, Data Lake
  • AI Compute ระบบประมวลผล ได้แก่ Spark, DSVM, Batch AI, ACS, IoT Edge
  • CPU, FPGA, GPU สำหรับใช้ในการประมวลผลระบบ AI

Coding & Management Tools เครื่องมือสำหรับช่วยในการพัฒนา AI

  • VS Tools for AI
  • Azure ML Studio
  • Azure ML Workbench

Deep Learning Frameworks ที่รองรับ

  • Cognitive Toolkit
  • TensorFlow
  • Caffe
  • Scikit-learn
  • MXNet
  • Keras
  • Chainer
  • Gluon
  • อื่นๆ

ความหลากหลายนี้ก็ทำให้การพัฒนา AI และสร้างโซลูชันต่างๆ มาต่อยอดสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมได้ รวมถึงยังสามารถเลือกใช้บริการที่ช่วยให้โครงการต่างๆ สามารถเริ่มต้นทำการทดสอบได้อย่างรวดเร็วที่สุดได้อีกด้วย

 

AI + API: บริการที่ทุกองค์กรขนาดใหญ่ในอนาคตจะใช้ในการสร้างรายได้

 

 

API นั้นถือเป็นแนวโน้มใหญ่ที่เหล่าองค์กรจะได้นำข้อมูลที่มีอยู่ภายในมาใช้สร้างเป็นรายได้ใหม่ๆ และยิ่งในยุคของ AI การสร้าง API นั้นก็ยิ่งสามารถทำเพื่อตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้นไปอีก ตัวอย่างเช่น Salesforce มีรายรับจาก API ถึง 50%, eBay มีรายรับจาก API มากถึง 60% และ Expedia นั้นก็มีรายรับจาก API มากถึง 90% เลยทีเดียว เป็นต้น

ไม่เพียงแต่ API จะช่วยสร้างรายได้ให้กับองค์กรเท่านั้น แต่การเปิด API ให้องค์กรอื่นได้ใช้ API นั้นหมายถึงการสร้าง Partner ทางธุรกิจรายใหม่ๆ หรือการทำให้ความสัมพันธ์กับ Partner นั้นมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงอาจทำให้สร้าง Channel การขายของธุรกิจเพิ่มเติมได้ด้วย ความสำคัญของ API จึงถือว่าสูงมากทีเดียวในฐานะหน้าต่างบานหนึ่งขององค์กร

Microsoft เองนั้นก็มีบริการในส่วนของ API ให้ใช้งานภายใต้ Azure API Management ที่ครอบคลุมทั้งส่วนของ Facade, Middleware, Monitor และ Developer อีกทั้งยังเปิดกว้างให้สามารถพัฒนา API เพื่อใช้งานได้ทั้งบน Cloud, On-Premises และรองรับ 3rd Party ได้ด้วย โดยบริการของ Microsoft นี้ก็จะสามารถช่วยปกป้อง API เหล่านี้ให้ทำงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัย

ภายใต้ Azure API Management นี้จะมีทั้งส่วนของ Developer Portal เพื่อให้ Developer ที่ต้องการเชื่อมต่อ API สามารถศึกษาเอกสารคู่มือการใช้งานคำสั่ง API ต่างๆ ได้ โดยเอกสารเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติจากโค้ด, มี Proxy สำหรับช่วยปกป้องการเรียกถึง API ต่างๆ ให้ปลอดภัย และมี Azure Portal สำหรับเอาไว้ Publish API และบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้ ในขณะที่ตัว Backend Service เบื้องหลัง API นั้นจะอยู่บน Azure หรือไม่ก็ได้ รวมถึงจะนำโมเดลของ AI ที่พัฒนาขึ้นมานั้นมาใช้เป็น Backend ก็ได้เช่นกัน

 

 

แจก Online Workshop ฟรี เรียนรู้เทคโนโลยี AI ได้ด้วยตนเอง

ในงานนี้ Microsoft เองก็ได้มาทำ Workshop เรื่องการใช้ AI เบื้องต้นบน Microsoft Azure ให้ผู้ที่สนใจได้รับชมกันด้วย รวมถึงสำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ หรือเข้าร่วมแต่อยากทำ Workshop เชิงลึกให้มากขึ้น ก็สามารถเข้าถึงเนื้อหา Workshop บน GitHub กันได้ฟรีๆ เลยที่ https://github.com/microsoft/cntk ครับ

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google เปิดตัว Gemini 2.5 โมเดล AI ใหม่ล่าสุด พร้อมความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์สูง

Google ประกาศเปิดตัว Gemini 2.5 โมเดล AI ที่ฉลาดที่สุดในขณะนี้ พร้อมความสามารถด้าน “Thinking” ที่ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในด้านการคิดวิเคราะห์และการเขียนโค้ด โดยรุ่นแรกคือ Gemini 2.5 Pro Experimental

ต่อยอดระบบ SAP เดิมสู่การใช้ SAP S/4HANA Cloud อย่างเต็มศักยภาพที่มาพร้อมกับ AI ด้วยโซลูชั่น RISE with SAP จาก NDBS Thailand

สำหรับธุรกิจองค์กรที่มีการใช้งาน SAP ECC 6.0 หรือ SAP S/4HANA มาอย่างยาวนานในอดีต อาจต้องเร่งขบคิดถึงแนวทางการอัปเกรดระบบ SAP สู่ S/4HANA Cloud รุ่นใหม่เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์การใช้งานระบบ ERP …