ดูแลรักษาระบบ Virtualization อย่างครบวงจรแบบอัตโนมัติ ด้วย HPE InfoSight ระบบ AI อัจฉริยะช่วยจัดการ Data Center จาก HPE

ระบบ Virtualization นั้นได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของระบบ IT ภายในหลายธุรกิจองค์กร โดยไม่ว่าระบบนั้นๆ จะติดตั้งใช้งานบน Server, Storage, HCI หรือ dHCI ก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเมื่อระบบถูกใช้งานไปนานๆ และมีการเพิ่มขยายทรัพยากรในระบบอย่างต่อเนื่อง ระบบก็จะมีความซับซ้อนที่สูงขึ้น และยากต่อการดูแล

HPE มีวิสัยทัศน์ในการช่วยเหลือผู้ดูแลระบบ IT ทั่วโลกให้สามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้ ด้วยการประยุกต์นำเทคโนโลยี AI มาใช้ช่วยดูแลระบบ Data Center ในทุกส่วนตั้งแต่ Virtualization, Server, Storage และ Network ได้อย่างครอบคลุม ภายใต้โซลูชัน HPE InfoSight ผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่พร้อมช่วยดูแลทุกโซลูชันจาก HPE นั่นเอง

HPE InfoSight: ให้ AI เป็นผู้ช่วยดูแล Data Center ของธุรกิจองค์กร

credit : HPE

HPE InfoSight นั้นถือเป็นโซลูชันระบบ AIOps แรกๆ ของวงการที่ถูกเปิดตัวออกมาและใช้งานเป็นวงกว้าง โดยแนวคิดของ HPE InfoSight นั้นก็คือการมีระบบ AI ที่ทำงานอยู่บน Cloud ซึ่งทำหน้าที่รวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและปัญหาที่ถูกตรวจพบภายในระบบ Virtualization, Server และ Storage นั่นเอง

แรกเริ่มนั้น HPE InfoSight สามารถใช้งานได้กับโซลูชัน HPE Nimble Storage เท่านั้น และโซลูชันดังกล่าวนี้ก็ได้ถูกต่อยอดมาใช้งานกับโซลูชันอื่นๆ ของ HPE เพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น HPE Primera, HPE 3PAR StoreServ, HPE SimpliVity, HPE Synergy หรือแม้แต่ HPE ProLiant Server และ HPE Apollo Server ก็ตาม

ความสามารถของ HPE InfoSight นั้นมีด้วยกันหลากหลาย เช่น

  • การตรวจสอบค้นหาปัญหาหรือแนวโน้มการเกิดปัญหาภายในระบบต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลผสานรวมจากหลายระบบ ทั้ง Virtualization, Server, Storage และ Network พร้อมแนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหา
  • การวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของระบบส่วนต่างๆ และทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การวางแผนลงทุนเพิ่มขยายระบบเป็นไปได้อย่างแม่นยำ
  • การทำงานแบบ Proactive Maintenance ด้วยการเปิด Ticket ไปยัง HPE โดยอัตโนมัติ และจัดการตรวจสอบว่าหากปัญหาถูกแก้ไขแล้ว ก็ให้ทำการปิด Ticket ได้ด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ
  • สามารถเรียนรู้ปัญหาใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง จากข้อมูลที่ได้รับจากระบบ IT ต่างๆ กว่า 100,000 ระบบที่ทำการส่งข้อมูลมาทำการวิเคราะห์บน HPE InfoSight อย่างต่อเนื่อง

ด้วยแนวทางดังกล่าวนี้ HPE InfoSight จึงเป็น AI ที่จะมีความชาญฉลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา ด้วยการรวบรวมองค์ความรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ IT ของธุรกิจองค์กรทั่วโลก และนำองค์ความรู้เหล่านั้นมาใช้แก้ไขปัญหาให้กับระบบอื่นๆ ได้โดยอัตโนมัติ

กรณีศึกษา: HPE InfoSight + HPE Nimble Storage dHCI บริหารจัดการทั้ง Stack ของ Virtualization Infrastructure ได้ด้วย AI

credit : HPE

ท่ามกลางกระแสความนิยมของโซลูชัน Hyperconverged Infrastructure (HCI) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เนื่องจากความง่ายดายในการติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน ทำให้งานของผู้ดูแลระบบ IT ใน Day 0 และ Day 1 นั้นกลายเป็นเรื่องง่าย แต่หลายธุรกิจองค์กรเองก็เริ่มเผชิญกับปัญหาในการใช้ระบบ HCI ในระยะยาวกันแล้ว นั่นก็คือการดูแลรักษาระบบในระยะยาวหรือ Day 2 Operation นั่นเอง

ด้วยความที่ระบบ HCI นั้นถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบ Software-Defined ทั้งหมด และมีส่วนประกอบภายในที่หลากหลายได้แก่ Virtualization, Compute, Storage และ Network ในหนึ่งเดียว ในขณะที่ตัว Server Hardware ที่ถูกนำมาใช้ใน HCI เองนั้นก็ยังคงมีส่วนของ CPU, RAM, Disk, Network Interface และ BIOS/Firmware ในส่วนต่างที่ยังต้องดูแลอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นถึงแม้ HCI จะติดตั้งและเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย แต่ในการดูแลรักษานั้นก็แทบจะไม่แตกต่างจากระบบ Virtualization แบบดั้งเดิมมากนัก เพียงแค่เปลี่ยนจากการดูแลระบบ Physical Hardware จำนวนมากที่เชื่อมต่อกัน มาเป็น Software-Defined ที่หลากหลายซึ่งทำงานร่วมกันและมีระบบบริหารจัดการแบบศูนย์กลางเท่านั้น

HPE InfoSight ในฐานะของระบบ AI อัจฉริยะที่จะเข้ามาช่วยผู้ดูแลระบบ IT ในการดูแลรักษา Data Center ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และวางแผนเพิ่มขยายได้อย่างแม่นยำนี้ ก็สามารถตอบโจทย์การดูแลรักษาระบบ HCI ไปจนถึงระบบที่เป็นทางเลือกสำหรับ HCI อย่าง Disaggregated HCI ได้อย่างง่ายดาย โดยในบทความนี้เราจะหยิบยกตัวอย่างของการนำ HPE InfoSight มาใช้เพื่อช่วยดูแลรักษาระบบ HPE Nimble Storage dHCI ซึ่งเป็นโซลูชัน Disaggregated HCI จาก HPE กัน

1. การดูแลรักษาระบบในระดับ Virtualization

HPE InfoSight จะทำการรวบรวมข้อมูลสถิติการใช้งานภายในระบบ Virtualization อย่าง VMware เพื่อนำไปแสดงผลการใช้งานและทำการวิเคราะห์เพื่อแนะนำถึงตรวจสอบค้นหาปัญหาต่างๆ เช่น การใช้พลังประมวลผลของแต่ละ VM ที่อาจมากผิดปกติ, ปริมาณการใช้ RAM ที่อาจเพิ่มขึ้นจนระบบมีไม่เพียงพอให้ใช้งาน หรือการเข้าถึงข้อมูลบางส่วนที่อาจเกิด Latency มากเกินไป เป็นต้น

HPE InfoSight ไม่เพียงแต่นำข้อมูลบนระบบ Virtualization มาใช้ในการวิเคราะห์เท่านั้น แต่ยังสามารถนำข้อมูลจากระบบส่วนอื่นๆ เช่น Server, Storage และ Network มาใช้ร่วมวิเคราะห์ได้ด้วย ทำให้เมื่อเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นมา HPE InfoSight จะสามารถช่วยค้นหาต้นเหตุของปัญหาเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถให้คำแนะนำได้ว่าควรจะต้องแก้ไขอย่างไร

2. การดูแลรักษาระบบในส่วนของ Compute

HPE InfoSight สามารถติดตามปริมาณการใช้งาน CPU และ RAM ที่เกิดขึ้นในระบบได้ และยังสามารถตรวจจับเหตุการณ์การใช้ทรัพยากรในการประมวลผลที่สูงผิดปกตินี้ได้ทั้งในระดับของ VM และ Server เพื่อให้สามารถทำการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด เช่น การแนะนำให้ย้าย VM ที่ใช้ทรัพยากรบางส่วนสูงไปยัง Physical Server เครื่องอื่นในระบบที่ยังคงมีทรัพยากรส่วนนั้นอย่างเพียงพอ เป็นต้น

การรวบรวมข้อมูลในส่วนนี้จะผสานรวมกันทั้งข้อมูลจากระบบ Virtualization และข้อมูลที่ได้รับจาก HPE iLO ซึ่งเป็นข้อมูลจาก Physical Server โดยตรง ดังนั้น HPE InfoSight จึงสามารถใช้ช่วยในการบริหารจัดการลงไปได้ถึงระดับของ Hardware, BIOS และ Firmware เลยทีเดียว

3. การดูแลรักษาระบบในส่วนของ Storage

สำหรับระบบ HCI ทั่วๆ ไปนั้น ข้อมูลในส่วนของ Storage จะถูกรวบรวมจากระบบ Software-Defined Storage ที่ใช้งานและข้อมูลจาก SSD/HDD ภายใน Server แต่สำหรับกรณีของ HPE Nimble Storage dHCI นี้ ส่วนของ Storage จะถูกย้ายมาอยู่บน HPE Nimble Storage แทนทั้งหมด ซึ่ง HPE InfoSight ก็สามารถทำการรวบรวมข้อมูลจาก HPE Nimble Storage มาวิเคราะห์ร่วมกันได้

ในการวิเคราะห์ข้อมูลของ HPE Nimble Storage นี้ จะมีทั้งส่วนของความจุหรือ Capacity ที่ระบบสามารถแสดงผลพื้นที่ที่ถูกใช้ในการจัดเก็บข้อมูล และการทำ Data Reduction เพื่อลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Deduplication, การทำ Compression หรือการ Clone ก็ตาม ในขณะที่ข้อมูลเชิงประสิทธิภาพอย่างเช่น Latency หรือ Bandwidth นั้นก็สามารถถูกตรวจสอบได้ถึงระดับของ VM เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน Storage ของแต่ละ VM และแจ้งเตือนเมื่อเกิดกรณีผิดปกติได้

4. การดูแลรักษาระบบในภาพรวม

HPE InfoSight จะนำข้อมูลทุกส่วนมาผสานรวมกันและแสดงผลเป็นภาพรวมการทำงานของระบบว่ามีปัญหาใดเกิดขึ้นบ้างในระดับของ Server และ Storage พร้อมจัดลำดับความสำคัญของปัญหาให้โดยอัตโนมัติ และแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหา ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบข้อมูลของปัญหาเหล่านั้นและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบ

5. การแจ้งเตือนและให้บริการป้องกันหรือแก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ

ในการแก้ไขปัญหาหรือแนวโน้มของการเกิดปัญหาใดๆ นั้น HPE InfoSight ยังสามารถทำการเปิด Support Ticket ไปยังทีมงาน HPE ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดปัญหาใดๆ ขึ้น เพื่อให้ทีมงาน HPE ทำการจัดส่ง Hardware ใหม่มาทดแทนอุปกรณ์เดิมที่เสียหาย และเมื่ออุปกรณ์เหล่านั้นถูกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะทำการอัปเดต Ticket นั้นๆ และปิดเคสให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีปัญหา

แนวทางนี้ได้ช่วยให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปได้โดยอัตโนมัติสูงสุด โดยที่ผู้ดูแลระบบ IT ไม่ต้องวุ่นวายกับการเปิด Ticket, การรวบรวมข้อมูล Log ที่เกี่ยวข้อง และการติดตามเคสด้วยตนเองอีกต่อไป

HPE ระบุว่าในการใช้ HPE InfoSight ร่วมกับโซลูชันของ HPE Nimble Storage นี้ จะทำให้งานของผู้ดูแลระบบ IT มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น

  • สามารถทำนายแนวโน้มของปัญหาและแก้ไขประเด็นเหล่านั้นได้โดยอัตโนมัติมากถึง 86% ช่วยลด Downtime ของระบบและทำให้การใช้งานระบบยังคงเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • สามารถใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาลงได้ถึง 85% ด้วยข้อมูลแวดล้อมที่ครบถ้วน และคำแนะนำในการเพิ่มทรัพยากรส่วนที่จำเป็นของระบบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล, ประสิทธิภาพของระบบ หรือ Bandwidth ที่ต้องการ
  • สามารถช่วยแก้ไขปัญหาในส่วนที่นอกเหนือจาก Storage ได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการทำ Performance Tuning, การปรับแต่งด้าน Security ไปจนถึงการทำ Proactive Maintenance ที่แม่นยำ

สำหรับผู้ที่สนใจ HPE InfoSight, HPE dHCI หรือโซลูชันอื่นๆ จาก HPE และอยากขอคำปรึกษา, ออกแบบระบบ หรือขอใบเสนอราคา สามารถติดต่อทีมงาน Metro Connect ได้ทันทีที่ Email: MKTMCC@metroconnect.co.th  หรือโทร 02-089-4880 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Metro Connect ได้ทันทีที่ https://www.metroconnect.co.th/

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

บริษัท Inflection AI เปิดตัวโซลูชัน AI สำหรับองค์กร [PR]

โซลูชัน AI สำหรับองค์กร ของ Inflection ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์ม Intel Gaudi และ Intel Tiber AI Cloud ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการประมวลผลเวิร์คโหลดต่าง ๆ ด้วย AI

Foxconn ร่วมมือกับ NVIDIA สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในไต้หวัน

Foxconn จับมือ NVIDIA สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ทรงพลังที่สุดในไต้หวัน คาดเริ่มใช้งานปี 2025