เริ่มต้น Edge และ Cloud ได้ง่ายๆ แบบ One Stop Service ผ่านแพลตฟอร์ม ‘AIS Paragon’

Edge Computing, Cloud และ 5G เป็นเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของโซลูชันที่ต้องการความหน่วงต่ำ และการประมวลผลแบบ Real Time เพื่อให้พร้อมทำงานได้ อย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์อัตโนมัติ การควบคุมเครื่องจักรในสายการผลิต การตรวจจับและประมวลผลภาพผ่านกล้องหรือโดรน  เป็นต้น

หากธุรกิจของคุณเข้าใจถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เองเราขอแนะนำแพลตฟอร์ม AIS Paragon จาก AIS Business ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ผสานการทำงานของ Edge, Cloud และ 5G อยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ในรูปแบบ Multi Cloud Management เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการ โครงสร้างพื้นฐานของแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ให้ตอบโจทย์การทำงานได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

ด้วยแนวโน้มของเทคโนโลยียุคใหม่ การทำงานในหลายๆส่วนมักจะมีการนำแอปพลิเคชันเข้ามาเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการการทำงานของอุปกรณ์ โดย Application และ Solution ยุคใหม่จำเป็นต้องอาศัยการทำงานบนเครือข่ายที่มีความหน่วงต่ำและความเร็วสูง

นอกเหนือจาก 5G ที่มีศักยภาพในการเพิ่มความเร็วในการต่อเชื่อมสู่ส่วนของการประมวลผลข้อมูลแล้ว การใช้ Infrastructure อย่าง Edge Computing สำหรับการประมวลผลข้อมูลระยะใกล้กับอุปกรณ์ก็มีความสำคัญ เนื่องจากตัวแปรหลักของการทำงานคือ Data เมื่อ Data ที่เป็นองค์ประกอบหลักที่ใช้ในการสั่งงานถูกวางไว้ในพื้นที่ใกล้ กับพื้นที่ที่ต้องการประมวลผลจะทำให้การทำงานเป็น Real Time เป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาเพื่อให้การใช้งานและพัฒนาแอปพลิเคชันเป็นไปได้ตามความต้องการ เช่น

  • การเริ่มต้นทำความเข้าใจจุดประสงค์ของการนำ Application มาใช้ในการทำงาน และต่อยอดการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Edge Computing Cloud และ 5G
  • จำเป็นต้องวางแผน อัปเกรดระบบเดิมที่มีอย่างไร
  • จะต้องวางแผนด้านความมั่นคงปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหล
  • ผู้ปฏิบัติการด้านเครือข่ายขององค์กรต้องศึกษาหรือพัฒนาทักษะเพื่อเติมอย่างไร ให้สามารถดูแลเทคโนโลยีใหม่ๆได้
  • จะต้องติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญส่วนใดบ้าง และต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น โครงการจนนำไปสู่การใช้งานจริง

สุดท้ายแล้วทั้ง 5G, Edge Computing และ Cloud ก็ยังมีช่องว่างจากเครื่องมือที่ไม่บูรณาการกัน ทั้งยังต้องติดต่อประสานงานในหลายผู้ให้บริการ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้นำไปสู่จุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์ม AIS Paragon ที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนั่นเอง

AIS Paragon คือแพลตฟอร์มแบบ One Stop Service ที่เปิดให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการแอปพลิเคชันบนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญได้ถึง 3 ด้านคือ

1.) Edge Computing (MEC)

ปกติแล้วการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ปลายทางขึ้น Cloud จะต้อง ผ่านหลายแหล่งกว่าจะถึงดาต้าเซ็นเตอร์หรือ Cloud เพื่อทำการประมวลผล อาจทำให้เกิดความล่าช้าของการส่งข้อมูล แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากจุดประมวลผลอยู่ ณ เสาสัญญาณที่ใกล้กับแอปพลิเคชันมากที่สุด ทำให้การส่งข้อมูลและการประมวลผลข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งนั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Edge Computing ที่ AIS Business นำเสนอ โดยทรัพยากรเหล่านั้นสามารถถูกจัดการได้ในแพลตฟอร์มของ AIS Paragon

2.) Cloud

AIS Paragon รองรับการทำงานบน Cloud ได้อย่างหลากหลายรวมถึงสามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับ Public Cloud ยอดนิยมเช่น Microsoft Azure Stack หรือ AWS Outpost ทำให้ภาพของการจัดการทรัพยากรเกิดขึ้นอย่างไร้รอยต่อ ด้วยเครื่องมือเดียว โดยในอนาคตทาง AIS ก็มีแผนในการเชื่อมต่อกับ Huawei Cloud เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมการทำงานแบบ Multi Cloud Management อีกด้วย

3.) Application

นอกจากเรื่องการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแอปพลิเคชัน 5G และ ทรัพยากรการประมวลผลแล้ว AIS ยังได้ให้ความสำคัญกับการสร้าง Application Ecosystem ร่วมกับพาร์ทเนอร์เสมอมา ซึ่งปัจจุบัน AIS Paragon พาร์ทเนอร์ผู้ที่สนใจนำแอปพลิเคชันของตัวเองมาไว้บนแพลตฟอร์มอย่างหลากหลาย พร้อมให้ธุรกิจที่สนใจสามารถนำไปใช้ได้ทันที หรืออาจจะขอคำปรึกษากับทีมงานของ AIS Business เพื่อหาโซลูชันที่เหมาะสมกับโจทย์ทางธุรกิจของท่านได้เช่นเดียวกัน

จากประสบการณ์ที่ผ่านของ AIS Business ที่ร่วมทำกรณีศึกษากับธุรกิจไทยมามากมายพบว่ามี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมนำร่อง ที่สอดคล้องกับความสามารถของ AIS Paragon เป็นอย่างดีเนื่องด้วยความต้องการในการประมวลผลที่ต้องทำได้แบบเรียลไทม์ผ่านการส่งข้อมูล 5G หรือ Edge Computing ประกอบด้วย

1.) โรงงานอุตสาหกรรม

ภายในโรงงานอุตสาหกรรมมักมีระบบการผลิตอัตโนมัติที่สร้างข้อมูลจำนวนมากและต้องการประมวลผลแบบเรียลไทม์ให้ตอบสนองได้ทัน เช่น ระบบหุ่นยนต์ในสายพานที่วัตถุมีการเคลื่อนที่ รวมถึงการใช้ระบบ AR/VR เพื่อจำลองระบบภายในโลกงานหรือ Digital Twins เพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ

2.) ธุรกิจโลจิสติกส์

ระบบขนส่งมักมีการสร้างข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของวัตถุด้วยการติดตั้งเซนเซอร์ เช่น ระบบควบคุมโดรน ติดตามเส้นทางการขนส่งของรถขนส่ง การให้บริการรถสาธารณะ หรือระบบจับความเร็วของผู้ขับรถ เป็นต้น

3.) เมืองหรืออาคารอัจฉริยะ

รถยนต์อัตโนมัติเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับเมืองแห่งอนาคต ซึ่งตัวรถยนต์เองต้องคอยประมวลผลรอบด้านอยู่ตลอดเวลาถึงระยะทางในระดับถัดไป แน่นอนว่าหากส่งข้อมูลไปประมวลผลที่ระดับ Cloud ย่อมไม่ทันต่อความต้องการ อีกมุมหนึ่งอาคารยุคใหม่มักมีการใช้ AI เพื่อประมวลผลวีดีโอในวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การนับจำนวนคน หรือควบคุมด้านความปลอดภัยในการเข้าถึงพื้นที่ เป็นต้น

4.) ธุรกิจค้าปลีก

ธุรกิจการค้าสามารถอาศัยความเร็วของการประมวลผลในระยะใกล้ (Edge Computing) เพื่อสร้างศักยภาพทางการแข่งขันได้ในหลายแง่มุม โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้ เช่น ระบบคิดเงินสินค้าอัตโนมัติ ระบบอัปเดตคลังสินค้า การนำเสนอสินค้นที่ตรงกับความสนใจเพื่อเพิ่มยอดขาย หรือการให้บริการทดลองสินค้าแบบเสมือนผ่านแว่นตา AR/VR เป็นต้น

ทั้งนี้นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ AIS Paragon ได้เข้าไปแก้ปัญหาของธุรกิจแล้วอย่างเป็นรูปธรรม แต่นี่ไม่ใช่ขีดจำกัดที่ AIS Paragon ทำได้ หากลองจินตนาการถึงประโยชน์ของ 5G จะเห็นได้ว่ายังมีโอกาสอีกมากที่รอการค้นพบในอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือรูปแบบการใช้งานในมุมมองใหม่ๆ

AIS Business ได้ผลักดันแพลตฟอร์ม AIS Paragon อย่างจริงจังในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่แพลตฟอร์มถูกสร้างขึ้น สิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงก็คือ Ecosystem ที่ร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญอย่างเป็นเอกลักษณ์ในอุตสาหกรรมต่างๆมาสร้างสรรค์โซลูชันฝากไว้บนแพลตฟอร์มไว้ไม่น้อย ทั้งในรูปแบบของการพัฒนาเพื่อใช้ภายในองค์กร หรือเพื่อให้บริการต่อไปยังผู้สนใจโดยมี AIS Paragon เป็นแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐานนั้น

สำหรับปี 2024 และ 2025 AIS Paragon ได้เดินทางมาถึงอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่พร้อมให้บริการแก่ภาคธุรกิจได้ในวงกว้าง ซึ่ง AIS Business ยังได้ประกาศชัดถึงแนวทาง 5 แกนที่เป็นหัวใจของธุรกิจในอนาคต ที่ AIS Paragon คือหนึ่งเป้าหมายนั้นนั่นเอง

โดยปัจจุบัน AIS Paragon ได้มีแพลตฟอร์มจากผู้เชี่ยวชาญในโซลูชันเฉพาะด้านต่างๆเข้าร่วมมากมาย เช่น Schneider Electric, Mitsubishi Electric, SIEMENS, IBCON, ZTE, DataMesh และอื่นๆอีกมากมาย ที่นำเสนอโซลูชันที่สามารถพลิกโฉมการประกอบธุรกิจของท่านให้ล้ำสมัยมากขึ้นด้วยโครงสร้างพื้นฐาน Edge Computing Cloud และ 5G

ในมุมของลูกค้าเอง Siam Toyota Manufacturing คือหนึ่งเสียงที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของ AIS Paragon ได้เป็นอย่างดี ซึ่งด้วยความร่วมมือระหว่างธุรกิจกับ AIS Business ทำให้พวกเขาสามารถแปรเปลี่ยนข้อมูลการวัดผลด้านการใช้พลังงานในไลน์การผลิตแบบเรียลไทม์ ด้วยการนำส่งข้อมูลของอุปกรณ์ IoT ผ่านโครงข่าย 5G เพื่อเข้าสู่ระบบประมวลผล โดยแพลตฟอร์ม AIS Paragon ทำให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการใช้ทรัพยากรได้อย่างยืนหยุ่น ตอบโจทย์กับสภาพการแข่งขันในตลาดยานยนต์ที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ชมวีดีโอตัวอย่างได้ที่

Siam Toyota Manufacturing ไม่ใช่กรณีศึกษาเดียวในความสำเร็จของ AIS Paragon แต่ยังมีอีกหลายกรณีในกลุ่มลูกค้าอื่นๆ และยังมีอีกหลายแนวทางที่ท่านสามารถเริ่มต้นได้กับ AIS Paragon โดยอาจเป็นการเข้ามาผ่านโซลูชันของพาร์ทเนอร์ข้างต้น หรือ เริ่มต้นพัฒนาระบบใหม่บน AIS Paragon ก็ได้เช่นกัน

ที่ผ่านมาเราได้พาทุกท่านไปรู้จักกับประโยชน์ของ 5G และ Edge Computing ที่สามารถริเริ่มได้ง่ายๆผ่านแพลตฟอร์ม AIS Paragon กันมาพอสมควรแล้ว แต่ถ้าท่านยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมแบบจับต้องได้ให้เห็นกับตาว่าแพลตฟอร์ม AIS Paragon บน AIS 5G สามารถรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆได้มากแค่ไหน

AIS Business ขอเชิญชวนทุกท่านไปเปิดประสบการณ์ได้แบบใกล้ชิดให้ได้เห็นภาพกันชัดๆกันไปเลย พร้อมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business ถึงแพลตฟอร์ม AIS Paragon ได้ที่ AIS EEC ซึ่งเป็นศูนย์ที่รวบรวมนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจของ AIS โดยตั้งอยู่ท่ามกลางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เรียกว่า Thailand Digital Valley

และในกรณีที่ต้องการเริ่มต้นกับ AIS Paragon ล่าสุด AIS Business ได้จัดแพ็กเกจเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจทุกท่าน ที่เรียกว่า ‘AIS Paragon Development Kit’ โดยภายในแพ็กเกจประกอบด้วย 3 ปัจจัยสำคัญที่พร้อมสำหรับการเริ่มต้นพัฒนาแอปพลิเคชันได้ทันทีคือ ชุดซิม 5G, ทรัพยากรเริ่มต้นสำหรับแอปพลิเคชัน และบริการ Professional Service ในรูปแบบแพ็กเกจรายเดือน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIS Paragon Platform ได้ที่ https://m.ais.co.th/MYHxOd4sd 

ผู้สนใจ AIS Paragon Platform สามารถติดต่อทีมงาน AIS Business email : business@ais.co.th

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

CoreWeave พร้อมขยายธุรกิจด้วยวงเงินสินเชื่อ 650 ล้านดอลลาร์

CoreWeave ผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับการประมวลผล AI ได้รับวงเงินสินเชื่อ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัทการลงทุนชั้นนำเพื่อขยายธุรกิจทั่วโลกและเพิ่มขีดความสามารถในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI

รู้จักกับโซลูชัน AlgoSec ผู้เชี่ยวชาญด้าน Network Security Policy Management โดย GrowPro และ Perion Solution

หากคุณกำลังเผชิญกับความยุ่งยากจาก Firewall Policy นับพันรายการ หรือนโยบายการใช้โซลูชันป้องกันหลายแบรนด์ ซึ่งทำให้เวลาส่วนใหญ่จมกับกับการบริหารจัดการ แถมเกิดความผิดพลาดได้บ่อยครั้ง โซลูชัน Network Security Policy Management อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ