CDIC 2023

อะโดบี ปรับปรุง “โมบายล์มาร์เก็ตติ้ง” และพัฒนา “โมบายล์แอพฯ” ครั้งใหญ่ [Official News]

adobe_logo

จับมือกับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นชั้นนำหลายราย สร้างกระบวนการใหม่ๆ  ในการพัฒนา และบริหารจัดการโมบายล์แอพฯ “แบบครบวงจร”

กรุงเทพฯ, 11 มีนาคม 2558 – ในงาน Adobe Summit ซึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปีด้าน Digital Marketing ของอะโดบีที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทอะโดบี (Nasdaq: ADBE) ประกาศการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ด้าน “โมบายล์เซอร์วิส” ของอะโดบีที่ได้รวมเอา framework สำหรับการพัฒนาและจัดการโมบายล์แอพฯ ไว้อย่างครบวงจร โดยโมบายล์เซอร์วิสของอะโดบีในที่นี้เป็นหนึ่งใน Core Service ของ Adobe Marketing Cloud ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการ lifecycle ของโมบายล์แอพฯ ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโมบายล์แอพฯการสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้แก่ โมบายล์แอพฯ, ระบบวิเคราะห์การใช้งานของผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ และการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งานของโมบายล์แอพฯ ซึ่ง โมบายล์เซอร์วิสนี้ถือเป็นโซลูชันที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในวงการ และยังเป็นโซลูชันแรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเน้นการแก้ปัญหาของนักการตลาดที่เคยต้องใช้งานโซลูชันที่หลากหลายซึ่งไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่รวมเอาทั้งการพัฒนาและการบริหารจัดการโมบายล์แอพฯ เอาไว้ภายในโซลูชันเดียว ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ ทางอะโดบียังได้ประกาศรายชื่อของพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ โมบายล์แอพฯ ชั้นนำ ที่จะนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้งานร่วมกันใน framework สำหรับการพัฒนาและบริหารจัดการ โมบายล์แอพฯ นี้อีกถึง 6 ราย

adobe_bg-mobile-services-overview-diagram-940x364

“ข้อมูลจาก Adobe Digital Index data ได้แสดงให้เห็นถึงการทำลายสถิติครั้งใหม่ในการใช้งานอุปกรณ์พกพา แต่ในขณะเดียวกัน การสร้างประสบการณ์การใช้งานโมบายล์แอพฯ ที่ดีก็ยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักการตลาดหลายราย” มร. แมท อะเซย์, รองประธานกรรมการด้านกลยุทธ์โมบายล์ของอะโดบี กล่าว “เหล่านักการตลาดต้องวุ่นวายกับการทำความคุ้นเคยในการใช้งาน mobile tools ต่างๆ สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะทางในแต่ละเรื่อง  แต่ด้วย “โมบายล์เซอร์วิส” ของอะโดบี เราจะทำให้งานทั้งหมดนี้กลายเป็นกระบวนการที่ง่ายมากขึ้น และทำให้นักการตลาดสามารถสร้างและใช้ประโยชน์จากแอพฯ ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย”

Framework ของ โมบายล์แอพฯในโมบายล์เซอร์วิสของอะโดบีนี้ จะรวบรวมเอาเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงโมบายล์แอพฯ จาก Adobe Marketing Cloud เอาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Adobe Experience Manager Apps, AdobePhoneGap Enteprise, Adobe Analytics – Mobile Apps และ Adobe Target ในขณะเดียวกันการทำงานร่วมกันกับเครื่องมือสำหรับการพัฒนาและจัดการโมบายล์แอพฯ จากพาร์ทเนอร์ก็จะช่วยให้การบริหารจัดการ lifecycle ของโมบายล์แอพฯ เป็นไปได้อย่างยืดหยุ่นและครบวงจรสูงสุด ดังนี้:

  • การพัฒนาโมบายล์แอพฯ: ด้วย Adobe Experience Manager Apps และ Adobe PhoneGap Enterprise องค์กรต่างๆ จะสามารถสร้างโมบายล์แอพฯ ที่ทำงานได้บนอุปกรณ์พกพาทุกๆ แพลตฟอร์มผ่านการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาเว็บไซต์ซึ่งได้แก่ HTML, CSS และ Javascript  โดยโมบายล์แอพฯ ที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะสามารถทำงานร่วมกับ Adobe Experience Manager เพื่อให้สามารถทำการบริหารจัดการการแสดงผลเนื้อหาต่างๆ ภายในโมบายล์แอพฯ ได้ถูกต้องตรงกัน โดยไม่ต้องกังวลถึง App Stores ที่มีหลายแห่ง, ระบบปฏิบัติการต่างๆ จำนวนมาก และขนาดของอุปกรณ์ที่หลากหลายอีกต่อไป ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น Adobe Experience Manager Apps ยังช่วยให้เหล่านักการตลาดสามารถสร้างความผูกพันให้กับผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ เหล่านั้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่โมบายล์แอพฯ เหล่านั้นเปิดตัวให้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้แล้ว ทีมการตลาดและทีมธุรกิจจะสามารถทำการอัพเดตทั้งเนื้อหาและความสามารถในการทำงานของโมบายล์แอพฯ ทั้งหมดนั้น แล้วทำการอัพเดตไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งโมบายล์แอพฯ นั้นๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องอาศัยนักพัฒนาโมบายล์แอพฯ อีกต่อไป ในขณะที่นักพัฒนาโมบายล์แอพฯ เองก็ยังคงสามารถออกแบบและพัฒนาโมบายล์แอพฯ ให้มีความสวยงามเพิ่มขึ้นได้ผ่านการเรียกใช้งาน Ionic ซึ่งเป็น framework สำหรับการพัฒนา HTML5 นั่นเอง
  • การสร้างฐานผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ (User Acquisition): การเป็นพันธมิตรกันระหว่างอะโดบี กับ Fiksu ที่ช่วยเสริมความสามารถให้กับ Adobe Analytics นั้น ทำให้องค์กรต่างๆ มีหนทางในการสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้กับโมบายล์แอพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยระบบจะทำการสร้างและติดตาม brand awareness ผ่านทางสื่อโฆษณา, การค้นหาโมบายล์แอพฯ, การติดตั้งโมบายล์แอพฯ และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งความสามารถในการทำ A/B testing บน Adobe Target ก็จะช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นโดยสามารถทำการจำแนกกลุ่มของผู้ใช้งานตามเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์พกพา เช่น ประเภทของอุปกรณ์ และระบบปฏิบัติการ และด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันกับโซลูชันของ Kochava ก็จะทำให้แบรนด์ต่างๆ ได้รับรู้ว่าการโฆษณาทางสื่อใดสามารถสร้าง Conversion ได้บ้าง และการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาที่ลงทุนไปมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
  • ระบบวิเคราะห์การใช้งานโมบายล์แอพฯ (App Analytics): ด้วย Adobe Analytics-Mobile Apps นักการตลาดทั้งหลายจะได้รับรู้พฤติกรรมการใช้งานโมบายล์แอพฯ จริงๆ ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการเข้าใช้งานโมบายล์แอพฯ ของผู้ใช้งาน, ผู้ใช้งานเข้าใช้งานหน้าจอใดในโมบายล์แอพฯ บ้าง, ผู้ใช้งานคลิกที่ URL ใดจนนำมาสู่การดาวน์โหลด และใช้งานโมบายล์แอพฯ ได้สำเร็จ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยถ้าหากทำการพัฒนาโมบายล์แอพฯ โดยการฝัง Mobile SDK ของอะโดบีเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้โมบายล์แอพฯ เหล่านั้นมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานได้ทันที และสามารถส่ง in-app message ไปยังผู้ใช้งานได้โดยตรง  ทั้งนี้ด้วยการทำงานร่วมกันกับโซลูชันในการบริหารจัดการประสิทธิภาพของแอพฯ จาก Crittercism องค์กรต่างๆ ก็จะได้รับข้อมูลที่มีละเอียดเพิ่มเติมไปจากรายงานการเกิด crash แบบทั่วๆ ไป และทำให้เข้าใจความผิดพลาดและการกระทำที่เกิดขึ้นได้ในเชิงลึก  นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างอะโดบี กับระบบ App Store Analytics จาก appFigure ก็ยังช่วยให้แบรนด์สามารถรวบรวมและแสดงผลข้อมูลของเหตุการณ์ต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น ยอดขายและยอดดาวน์โหลดของโมบายล์แอพฯ, ลำดับที่ของโมบายล์แอพฯ ใน app store และอื่นๆ อีกมากมาย
  • การสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ (User Engagement): การสนับสนุนการใช้งาน GPS และ iBeacons แบบ native ภายใน Adobe Analytics นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ ได้รับเนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์อย่างแม่นยำทันทีที่แบรนด์เข้าถึงผู้ใช้งาน โดยการเป็นพันธมิตรกับ Vibes ได้ช่วยเพิ่มเครื่องมือต่างๆ สำหรับการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งาน และส่งมอบประสบการณ์ในการใช้งานหรือโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และสภาพแวดล้อมรอบด้านไปยังผู้ใช้งาน  รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างความสามารถในการจัดการ Mobile Wallet ของ Vibes กับ Adobe Campaign ก็ทำให้แบรนด์สามารถสร้าง “บัตรผ่าน” พิเศษที่สามารถจัดเก็บและใช้งานได้จาก Apple Passbooks และ Google Wallet สำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายได้ ทำให้นักการตลาดสามารถสร้างบัตรผ่านแบบติจิตอลสำหรับดึงดูดผู้ใช้งาน โมบายล์แอพฯ แทนคูปองกระดาษ, ใบราคาเสนอขาย และบัตรผ่านแบบเดิมๆ ได้ทันที

 

เกี่ยวกับ Adobe Marketing Cloud

Adobe Marketing Cloud ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อเข้าถึงและดึงดูดลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ด้านการตลาดที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายผ่านอุปกรณ์และช่องทางดิจิตอลที่หลากหลาย  โซลูชั่นที่ผนวกรวมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน 8 โซลูชั่นช่วยให้นักการตลาดมีชุดเทคโนโลยีการตลาดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การจัดการประสบการณ์ผ่านเว็บและแอพ การทดสอบ และการเจาะกลุ่มเป้าหมาย การโฆษณา Social Engagement และการผสมผสานแคมเปญต่างๆ การเชื่อมโยงกับ Adobe Creative Cloud ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน Creative Assets ผ่านทุกช่องทางด้านการตลาด  หลายพันแบรนด์ทั่วโลกรวมถึงสองในสามของบริษัทระดับชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 50 ใช้ Adobe Marketing Cloud ในการทำธุรกรรมผ่านโมบายล์กว่า 2.5 ล้านล้านรายการต่อปี

 

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

 

เกี่ยวกับ บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ อินคอร์เปอเรทเต็ด

อะโดบีเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วยประสบการณ์ดิจิตอล สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.adobe.com/sea

 

กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์อะโดบีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถติดต่อกับทีมงานของอะโดบีและบุคลากรด้านครีเอทีฟผ่าน Facebook ได้โดยตรง เพื่อรับทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหว ข้อมูลอัพเดต และโปรโมชั่นได้ที่ http://facebook.com/AdobeSEA


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Pure Storage ผ่านการรับรอง NIVIDA DGX BasePOD มุ่งขยายตลาด AI ภาคธุรกิจด้วย 3 โซลูชัน

NVIDIA ได้ประกาศการรับรอง NVIDIA DGX BasePOD Certification ให้กับ Pure Storage แล้ว ส่งผลให้ Pure Storage กลายเป็น Enterprise Data Storage Vendor รายแรกๆ ของโลกที่ผ่านการรับรองนี้ และสามารถนำเสนอโซลูชันด้าน AI สำหรับภาคธุรกิจได้อย่างมั่นใจ

ยอดขายกว่า 79% ของ ChatGPT ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กร มาจาก Microsoft Azure-OpenAI

Moneycontrol และ UnearthInsight ได้ออกมาเผยถึงการประมาณช่องทางการหารายได้ของ OpenAI ว่ามีลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กรผ่านความร่วมมือระหว่าง Microsoft Azure และ OpenAI อยู่ที่ 70-79% โดยปัจจุบันเชื่อว่า OpenAI น่าจะมีลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กรสำหรับ ChatGPT Enterprise มากแล้วราวๆ 22,000 - 25,000 องค์กรทั่วโลก