Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

ส่อง 5 กลยุทธ์ AIS Business ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไทยปี 2022

ปี 2022 อาจถือได้ว่าเป็นอีกปีที่วิกฤตการณ์เศรษฐกิจจะยังคงเกิดขึ้นทั่วโลกตลอดทั้งปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบที่เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน จนทำให้เกิดความผันผวนและความไม่แน่นอนเกิดขึ้นมากมายหลายสิ่ง ทั้งเรื่องพลังงานขาดแคลน ชิปขาดตลาด น้ำมันและอาหารราคาแพงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด หรือเรื่องปัญหาโลกร้อนที่เริ่มเห็นผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้นทุกวัน

ทั้งหมดนี้คือวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อกันมาเป็นทอด ๆ ซึ่งเศรษฐกิจของไทยก็ได้รับผลกระทบด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางรอดของธุรกิจไทยอาจจำเป็นต้องเร่งหาเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ใช่แบบเดิม ๆ อีกต่อไปแล้ว ซึ่งล่าสุด AIS Business องค์กรไทยที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ของประเทศ ได้เปิด 5 กลยุทธ์ออกมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ บทความนี้จึงอยากจะมาส่องแนวทางของ AIS Business ใน 5 กลยุทธ์นั้นว่ามีอะไรที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้กันบ้าง

5G ที่ต้องเป็น Infrastructure อันแข็งแกร่ง 

ปีนี้ AIS Business จะยังลงทุนต่อเนื่องในการปรับปรุงโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุมได้มากขึ้นกว่าเดิม จากปีที่ผ่านมาโครงข่าย 5G ของ AIS นั้นก็ครอบคลุมไปถึง 76% ที่อาจเรียกว่าใหญ่ที่สุดในประเทศแล้วก็ว่าได้ แต่ปี 2022 นี้ AIS ยังตั้งเป้าที่จะขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมมากถึง 85% เลยทีเดียว 

เรียกว่าเป็นตัวเลขที่มีความท้าทายพอสมควร แต่ก็เป็นสิ่งที่ AIS จำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงต่อเนื่องในการทำให้ 5G เป็น Infrastructure ที่แข็งแกร่งสำหรับให้บริการในทุก ๆ โซลูชัน ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการใช้งานโครงข่ายแบบ Public, Private หรือ Dedicated Network เป็นแบบ Edge Computing หรือว่าโซลูชัน Network Slicing ในการตัดแบ่ง Bandwidth ตาม Workload ที่ต้องการใช้งาน หรือจะเป็น FWA (Fixed Wireless Access) ที่ทำให้บริเวณพื้นที่ใด ๆ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้โดยที่ไม่ต้องลากสาย เป็นต้น เห็นได้ชัดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มี 5G เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

อีกส่วนคือเรื่องของโซลูชันและความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการสร้าง 5G Vertical Solution และ 5G Horizontal Solution ที่ในปีนี้ AIS Business จะมีออกมาให้เห็นกันอีกแน่นอน โดยน่าจะได้เห็นโซลูชันและ Use Case ใหม่ ๆ เช่น การประยุกต์ใช้ AR/VR, IoT หรือ Data Analytics ที่เกิดจากความร่วมมือกันในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอนาคตอันใกล้ทาง AIS Business จะออกมาบอกเล่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

Intelligence Network เชื่อมโยงโครงข่ายที่ฉลาดกว่าเดิม

แน่นอนว่าโครงข่าย (Network) อินเทอร์เน็ตนั้นยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของ AIS Business โดยปีที่ผ่านมาบริษัทก็ยังคงลงทุนและพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่องจนทำให้แบนด์วิดท์ไปต่างประเทศ (International Bandwidth) ของ AIS เติบโตขึ้นกว่า 50% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะพอสมควร และเชื่อว่าปีนี้ตัวเลขก็จะยังเติบโตขึ้นต่อไปได้อีก

ด้วยความมุ่งมั่นของ AIS Business ที่จะสร้างโครงข่ายที่ดีที่สุดเพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าในทุก ๆ ด้าน จึงได้มุ่งเน้นการนำเอาความชาญฉลาด (Intelligence) ใส่เข้าไปในโครงข่ายผ่านหลากหลายโซลูชันอย่างต่อเนื่อง โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Software-defined Wide-area Network (SD-WAN) ซอฟต์แวร์ช่วยควบคุมการเชื่อมโยงและบริการจัดการโครงข่ายที่จะทำให้มีความฉลาดมากขึ้น ร่วมกับการเพิ่มการเชื่อมต่อ (Connectivity) เข้าไปในโซลูชันต่าง ๆ ทั้ง Cloud Express Connect, Bandwidth on Demand, Domestic/International Data Circuit และ Corporate Internet ที่จะทำให้ทุกโซลูชันเหมาะสมกับการใช้งานจริงของแต่ละองค์กร และสามารถคาดการณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ดีขึ้นกว่าเดิม

Digital Infrastructure และ Platform ที่ตอบโจทย์ตรงใจขึ้น

ในปีที่ผ่านมา AIS Business ยังคงเร่งพัฒนาเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัททั้ง 5 แกนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้แพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่น (Resilience) สามารถรองรับความต้องการธุรกิจได้หลากหลาย ในการเลือกนำเทคโนโลยีที่ครบครันไปใช้งานได้ตามที่ต้องการด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

แม้ว่าทั้ง 5 แกนหลักนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่จะเห็นว่าทั้งหมดล้วนเป็นรากฐานในการทำธุรกิจบนโลกดิจิทัลที่จำเป็นต้องใช้งานทั้งสิ้น และสิ่งที่ขับเคลื่อน AIS Business ในการขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลให้กว้างขวางขึ้นเรื่อย ๆ นั้น อาจเป็นเพราะความเชื่อของ AIS Business ที่ คุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS ได้กล่าวไว้ว่า “ผู้เล่นที่สามารถเชื่อมโยงโซลูชันและทำทุกอย่างให้กลายเป็น One Stop Shopping ให้กับลูกค้าเลือกใช้งานได้ในจุดเดียวเลยนั้น คือความต้องการสูงสุดของลูกค้า” 

ด้วยความคิดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เชื่อว่าปีนี้ AIS Business จะยังคงขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทให้มีความหลากหลายและแข็งแกร่งมากขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าของ AIS Business สามารถมุ่งเน้นดูแลธุรกิจของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชันพื้นฐานต่าง ๆ ที่ AIS Business จะดูแลให้บริการอย่างมั่นใจ ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นของ AIS Business ที่สามารถดูแลลูกค้าได้แบบ End-To-End ซึ่งเชื่อว่ากลยุทธ์นี้จะทำให้ปี 2022 ทาง AIS Business จะมีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

Data-Driven Business ที่ช่วยให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ

อย่างที่รู้กันว่าในโลกยุคดิจิทัล ข้อมูล (Data) ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดโอกาส นวัตกรรม หรือโซลูชันใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ ซึ่ง AIS Business ก็ได้เล็งเห็นจุดนี้เช่นกันโดยเฉพาะเรื่องการตลาดที่ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์มากขึ้นเรื่อย ๆ และลูกค้าของ AIS Business ก็ยังคงต้องการความช่วยเหลือจุดนี้อยู่อีกมาก

เหตุนี้เอง AIS Business จึงได้มีบริการโซลูชันการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) แบบครบ 360 องศา ที่จะช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถลดเวลาการทำงานของหลาย ๆ ตำแหน่งงานลงไปได้ แล้วนำเวลาของพนักงานเหล่านั้นไปทำงานที่ยากกว่า พร้อมกับจัดเก็บข้อมูลที่องค์กรจะสามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมหรือว่านำไปประยุกต์ใช้สร้างเป็นโซลูชันใหม่ ๆ ที่ทำให้รายได้เติบโตได้มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับปี 2022 นี้ ทาง AIS Business ได้เตรียมการลงทุนในเรื่องการเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม (Industry Expertise) ให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้องค์กรมีความเข้าใจเชิงลึกในธุรกิจของลูกค้าได้ดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ตรงจุดมากขึ้น อีกทั้ง AIS Business ยังเตรียมเสริมขีดความสามารถร่วมกับพาร์ตเนอร์ให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะทรานสฟอร์มองค์กรให้กลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชันและแพลตฟอร์มแบบ End-To-End ในอนาคตต่อไปอีกด้วย

Trusted Professional สร้างบุคลากรที่ฝากธุรกิจไว้ได้อย่างมั่นใจ

เรื่องความสามารถของบุคลากรนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของทุกองค์กร เช่นเดียวกันในฝั่งของ AIS Business ที่ได้มุ่งเน้นพัฒนาความสามารถของบุคลากรเรื่อยมา เพื่อให้ลูกค้าองค์กรต่าง ๆ สามารถฝากธุรกิจไว้ได้อย่างมั่นใจ 

ในปีที่แล้วตัวเลขจากผลจากตัวชี้วัดต่าง ๆ ก็การันตีได้เลยว่า คุณภาพของบุคลากร AIS Business นั้นจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องการส่งมอบตรงเวลา (On Time Delivery) ที่ทำได้มากกว่า 95% จากไซต์สนับสนุนลูกค้ากว่า 13,000 แห่ง แม้จะอยู่ในช่วงที่ COVID-19 ยังแพร่ระบาดก็ตาม รวมทั้ง 93% ของลูกค้าพึงพอใจในคุณภาพและความยืดหยุ่นของบริการจาก AIS Business อีกด้วย

“AIS ไม่ใช่ตึก ไม่ใช่กล่อง ไม่ใช่สายโทรศัพท์ แต่คือ คน ที่ให้บริการและให้ความมั่นใจลูกค้าได้” คืออีกคำพูดที่คุณธนพงษ์กล่าวถึงความเป็นตัวตนขององค์กร AIS Business ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อย่างชัดเจนว่าองค์กรนี้เน้นเรื่องการสร้างบุคลากรและพัฒนาความเชี่ยวชาญของทีมงานอย่างแท้จริง 

ดังนั้น สิ่งที่ AIS Business จะผลักดันต่อไปในปีนี้ จึงมีเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร โดยตั้งเป้า Certified ให้กับบุคลากรเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และในทักษะที่ต้องการ สิ่งนี้จะขับเคลื่อนให้บริการ โซลูชัน และตัวเลขตัวชี้วัดทั้งหลายดีขึ้นไปได้อีกอย่างแน่นอน

บทส่งท้าย

“เพราะการวางรากฐานปัจจุบันให้แข็งแกร่ง คือสิ่งที่สำคัญเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” ประโยคนี้อาจสะท้อนให้เห็นแนวคิดและกลยุทธ์ของ AIS Business ทั้ง 5 ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะแม้คำที่เป็น Buzzword ที่มีคนพูดถึงกันเยอะมาก ๆ อย่าง Metaverse, Blockchain หรือ Web3 นั้นอาจจะเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตขึ้นมา แต่ครั้งนี้ AIS Business ไม่ได้อ้างถึงใน 5 กลยุทธ์ที่จะฝ่าวิกฤตครั้งนี้เลยแต่อย่างใด และเลือกที่จะอยู่กับเครื่องยนต์ “ปัจจุบัน” ที่มีศักยภาพ มีความมั่นคงและแน่นอนมากกว่าที่จะขับเคลื่อนให้ AIS Business ฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจของไทยในปี 2022 นี้ได้นั่นเอง

สำหรับองค์กรที่สนใจทำ Digital Transformation หรือสนใจโซลูชันใด ๆ ของทาง AIS Business สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลองค์กรของคุณ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล business@ais.co.th ได้แล้ววันนี้ เพราะ AIS Business คือพาร์ตเนอร์ที่ช่วยตอบโจทย์ทุกเรื่อง ICT & Digital ที่คุณมั่นใจ “Your Trusted Smart Digital Partner” ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://business.ais.co.th 

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต โดย Infor

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้งานในธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่ละอุตสาหกรรมก็มีความท้าทายเฉพาะตัวที่ต้องเผชิญหน้า ในอุตสาหกรรมการผลิตเองก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า Supply Chain และอื่นๆ 

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว